เปรียบเทียบประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองสูงในราคาที่ประหยัดกว่า

มิสเตอร์ คุ้มค่า พร้อมช่วยคุณหาข้อเสนอประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ดีที่สุด พร้อมบริการซ่อมรถที่มีคุณภาพ บริการเคลมที่ไว้ใจได้ และสิทธิพิเศษอีกมากมาย เราให้คุณเช็คเบี้ยประกันรถยนต์จากบริษัทประกันภัยชั้นนำกว่า 15 แห่ง จุดเด่นคือประกัน 2+ ราคาจะถูกกว่าประกันชั้น 1 โดยยังให้ความคุ้มครองที่สูงใกล้เคียงกัน เปรียบเทียบกรมธรรม์เพื่อหาความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ 2+ ที่ดีที่สุดของคุณเลย

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ 2+ จากบริษัทชั้นนำ เพื่อหากรมธรรม์ที่คุ้มค่าที่สุดได้ที่ มิสเตอร์ คุ้มค่า

ประกันรถยนต์ 2+ ที่ไหนดีที่สุด ?

กรมธรรม์ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ดีควรให้ความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี, มีบริการรถยกรถลาก 24 ชั่วโมง, คุ้มครองรถยนต์กรณีสูญหายหรือถูกโจรกรรม, เหตุไฟไหม้หรือน้ำท่วมรถ, ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกทั้งทรัพย์สินและการบาดเจ็บ และคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เช็คราคาประกันรถยนต์ 2+ ที่ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้เลยวันนี้ พร้อมเปรียบเทียบกรมธรรม์จากบริษัทประกันภัยชั้นนำกว่า 15 แห่ง เพื่อหาตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

จุดเด่นของประกันรถยนต์ 2+ คืออะไร ?

นอกเหนือจากอัตราเบี้ยประกัน ตัวเลือกความคุ้มครองที่ครอบคลุม และบริการลูกค้าที่เชื่อถือได้แล้ว ปัจจัยเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญในการพิจารณาประกันภัยชั้น 2+

  • IconCoverage

    ความคุ้มครองประกันภัย

    ประกันประเภท 2+ ควรให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถกรณีเกิดอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบกที่สามารถระบุคู่กรณีได้

  • IconCoverage

    การป้องกันโจรกรรม

    เพิ่มความอุ่นใจด้วยความคุ้มครองทางการเงินกรณีรถถูกขโมย ให้คุณเดินทางอย่างมั่นใจในทุกที่ที่ไป

  • IconCoverage

    คุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้และน้ำท่วม

    กรมธรรม์ประกัน 2+ ควรคุ้มครองรถของคุณจากเหตุไฟไหม้และน้ำท่วม ให้คุณสบายใจและเพิ่มความมั่นคงทางการเงินในสถานการ์เหล่านี้

  • IconCoverage

    ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

    ให้ความคุ้มครองการบาดเจ็บต่อร่างกายและความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถของคุณ

  • IconCoverage

    ส่วนลดประวัติดี

    ประหยัดยิ่งขึ้น หากไม่มีการเคลมประกัน คุณมีสิทธิได้ส่วนลดประวัติดี ทำให้เบี้ยประกันภัยถูกลงในอนาคต ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท

  • IconCoverage

    สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม

    ปรับแต่งความคุ้มครองกรมธรรม์ของคุณได้ เช่น เพิ่มบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง หรือปรับจำนวนความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เลือกแผนให้ตอบโจทย์ของคุณได้ดีที่สุด

  • IconCoverage

    ค่าเสียหายส่วนแรกที่เลือกได้

    เลือกระบุค่าเสียหายส่วนแรกลงในกรมธรรม์ได้ จะช่วยให้คุณเป็นผู้ขับขี่ที่ดีและช่วยลดเบี้ยประกันอีกด้วย

  • IconCoverage

    เบี้ยประกันภัยถูกกว่า

    โดยทั่วไป เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 2+ จะถูกกว่าเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 เพื่อเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้สำหรับผู้ขับขี่ทุกคน

  • IconCoverage

    อุ่นใจในการเดินทาง

    ถึงจะคุ้มครองไม่ครอบคลุมเท่าประกันชั้น 1 แต่ประกันรถยนต์ 2+ ยังคงให้ความคุ้มครองในทุกสถานการณ์ที่จำเป็นในราคาที่ประหยัดกว่า

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ?

แม้ว่ารายละเอียดความคุ้มครองอาจแตกต่างกันไปในผู้ให้บริการประกันภัยแต่ละแห่ง แต่ความคุ้มครองต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติพื้นฐานทั่วไปของกรมธรรม์ประกันรถยนต์ 2+

คุณสมบัติทั่วไปของประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ?

IconCoverage

ความคุ้มครองตัวรถ

  • ความเสียหายต่อตัวรถยนต์

    คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนแบบมีคู่กรณี
  • คุ้มครองตัวรถยนต์

    คุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือรถถูกขโมย
  • น้ำท่วมรถ

    คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถจากเหตุน้ำท่วม
  • ไฟไหม้รถ

    คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากเหตุไฟไหม้
  • บริการรถยก 24 ชั่วโมง

    ให้บริการเคลื่อนย้ายรถในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
IconCoverage

ความคุ้มครองบุคคล

  • ค่ารักษาพยาบาล

    คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • อุบัติเหตุส่วนบุคคล

    ชดเชยการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • การประกันตัว

    ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายสำหรับผู้เอาประกันหากถูกควบคุมตัวหลังเกิดอุบัติเหตุที่ได้รับการคุ้มครอง
IconCoverage

ความคุ้มครองบุคคลภายนอก

  • การบาดเจ็บทางร่างกาย

    คุ้มครองการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้อื่นที่เกิดจากอุบัติเหตุรถชนของคุณ
  • ความเสียหายต่อทรัพย์สิน

    ชดใช้ค่าเสียหายของทรัพย์สินผู้อื่นที่เกิดจากอุบัติเหตุรถชนของคุณ

ใครควรซื้อประกันภัยรถยนต์ 2+ ?

ความคุ้มครองประกันประเภท 2+ เป็นตัวเลือกที่ช่วยคุณประหยัดเบี้ยประกันได้ หากคุณคิดว่าประกันภัยชั้น 1 แพงเกินไป ขณะที่ประกัน 2+ ยังคงให้ความคุ้มครองรถของคุณในระดับสูง เป็นการประกันภัยที่ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ใช้รถเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะหากคุณมีผู้โดยสารร่วมเดินทางด้วยบ่อยครั้งและให้ความสำคัญกับเวลาบนท้องถนน แต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าประกัน 2+ จะเหมาะกับคุณไหม สามารถตรวจสอบลักษณะสำคัญเหล่านี้ได้

ใช้รถเป็นประจำ
มีผู้โดยสารร่วมเดินทางบ่อยครั้ง
ขับรถรุ่นใหม่ที่อายุรถยังไม่เกิน 5 ปี
เดินทางไกลเป็นประจำ
ต้องการประหยัดงบค่าใช้จ่าย
ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ มีการเคลมประกัน 1 หรือ 2 ครั้งต่อปี

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองรถประเภทใดบ้าง ?

ประเภทของรถยนต์ที่เข้าเงื่อนไขรับประกันภัยของประกันชั้น 2+ ได้แก่

  • • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถ SUV และรถกระบะ
  • • รถที่ใช้เดินทางเป็นประจำทุกวันหรือใช้ส่วนตัว
  • • รถที่มีการดัดแปลงตรงตามเงื่อนไขของบริษัทประกันภัย
  • • โดยทั่วไป รถที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี จะได้รับการพิจารณาให้ความคุ้มครองประกันรถยนต์ 2+

เกณฑ์เหล่านี้อาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการประกันภัยและข้อกำหนดกรมธรรม์เฉพาะ กรุณาตรวจสอบกับตัวแทนของเราเพื่อทราบข้อกำหนดและคุณสมบัติที่ถูกต้อง

ประกันรถยนต์ 2+ รับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือไม่ ?

ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยยังไม่เข้าเกณฑ์รับประกันภัยชั้น 2+ อย่างไรก็ตาม การประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้ามีให้เลือกความคุ้มครองทั้งประกันภัยชั้น 1 ประกันภัยชั้น 2 และประกันภัยชั้น 3 หากคุณกำลังพิจารณาประกันภัยสำหรับรถ EV ของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกประเภทความคุ้มครองที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่ารถของคุณจะได้รับความคุ้มครองกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด

หากต้องการค้นหาตัวเลือกและเช็คประกันรถยนต์สำหรับรถ EV คุณสามารถเปรียบเทียบประกันรถยนต์ไฟฟ้าออนไลน์ได้ที่ มิสเตอร์ คุ้มค่า เราพร้อมช่วยคุณเลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับความต้องการของคุณที่สุด

ประกันรถยนต์ 2+ ไม่คุ้มครองรถประเภทใดบ้าง ?

รถยนต์โดยทั่วไปที่ไม่เข้าเงื่อนไขรับประกันภัยของประกันชั้น 2+ ได้แก่

  • รถที่ใช้งานเชิงพาณิชย์ เช่น รถบรรทุกส่งของและรถตู้
  • รถที่ให้บริการโดยสาร หรือรถแท็กซี่
  • รถที่มีการปรับแต่ง ดัดแปลง มีลักษณะที่ไม่เหมาะกับการใช้งานบนท้องถนน
  • รถที่ใช้สำหรับการแข่งขันหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงอื่น ๆ

ข้อยกเว้นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยและข้อกำหนดของกรมธรรม์ กรุณาศึกษาเงื่อนไขกรมธรรม์ของคุณโดยละเอียดทุกครั้ง

ประกันรถยนต์ 2+ ราคาเฉลี่ยเท่าไหร่ ?

ราคาประกันชั้น 2+ ของแต่ละบริษัทประกันภัยจะมีราคาแตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะเริ่มต้นตั้งแต่ 4,400 บาท ปัจจัยหลายประการส่งผลต่อเบี้ยประกัน เช่น ยี่ห้อรถยนต์ รุ่นรถ ปีที่ผลิต ประวัติการขับขี่ การดัดแปลงรถยนต์ และตัวเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรมธรรม์

เปรียบเทียบประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ 2+ ต่างกันอย่างไร ?

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และ 2+ ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมโดยมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองจำนวนเงินเอาประกันภัยที่สูงกว่าและให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมสำหรับความเสียหายต่อรถยนต์ทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี ประกันชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ต่ำกว่าเล็กน้อย และคุ้มครองความเสียหายต่อรถของคุณแบบมีคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น ถึงการประกันภัยรถยนต์ทั้งสองประเภทนี้จะมีความแตกต่างกัน แต่รายละเอียดกรมธรรม์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัทที่รับประกันภัยของคุณ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์ 2+

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์อย่างไร ?

ต่างจากประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ที่คุ้มครองเพียงบุคคลภายนอก แต่ประกัน 2+ จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมความเสียหายของตัวรถจากอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากผู้ขับขี่รถคันเอาประกัน แบบมีคู่กรณี

🔸ตัวอย่าง : หากคุณบังเอิญขับชนรถคันอื่นขณะเลี้ยวที่ทางแยก ทำให้รถทั้งสองคันได้รับความเสียหาย

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติอย่างไร ?

บริษัทประกันภัยบางแห่งให้ความคุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมหากรถของคุณได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและไม่สามารถขับขี่ได้ กรุณาตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยของคุณสำหรับเงื่อนไขความคุ้มครองนี้

🔸 ตัวอย่าง : หากฝนตกหนักแล้วเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้รถของคุณจมอยู่ใต้น้ำ และทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองกรณีรถถูกโจรกรรมอย่างไร ?

คุ้มครองหากรถถูกขโมยหรือโดนบุกรุก รวมถึงความเสียหายต่อตัวรถและการโจรกรรมสิ่งของหรือชิ้นส่วนภายในรถระหว่างเกิดเหตุ

🔸 ตัวอย่าง : ถ้ามีคนบังคับเปิดประตูรถของคุณเพื่อขโมยระบบ GPS และสิ่งของอื่นที่มีมูลค่าภายในรถ ทำให้ประตูรถเสียหาย

บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รวมอยู่ในความคุ้มครองประกัน 2+ หรือไม่ ?

กรมธรรม์ประกันภัยชั้น 2+ โดยทั่วไปจะให้บริการรถยกรถลาก 24 ชั่วโมง หากรถของคุณเสียหรือสตาร์ทไม่ติด บริการนี้อาจถูกรวมอยู่ในเงื่อนไขกรมธรรม์หรือเป็นบริการพิเศษเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยของคุณ บริการนี้จะช่วยเคลื่อนย้ายรถของคุณไปยังอู่ซ่อมรถที่บริษัทประกันภัยกำหนด, อู่ซ่อมที่คุณเลือก หรือศูนย์ซ่อมที่ใกล้ที่สุดจากสถานที่เกิดเหตุ กรุณาตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยของคุณสำหรับเงื่อนไขการให้บริการ

🔸ตัวอย่าง : หากรถของคุณร้อนจัดและเกิดเหตุขัดข้องขณะขับรถกลับบ้านตอนดึก ต้องลากไปร้านซ่อมรถที่ใกล้ที่สุดเพื่อซ่อมเครื่องยนต์

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้างสำหรับผู้ขับขี่ ?

  • ค่ารักษาพยาบาล : ดูแลค่ารักษาพยาบาลโดยให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
  • ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล : ชดเชยด้านการเงินสำหรับการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้เอาประกันหรือผู้โดยสารเนื่องจากอุบัติเหตุ
  • การประกันตัว : ช่วยเหลือด้านกฎหมายโดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการประกันตัวหากผู้เอาประกันถูกควบคุมตัวหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่ได้รับความคุ้มครอง

ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้างสำหรับบุคคลภายนอก ?

  • คุ้มครองความเสียหายและความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมถึงการบาดเจ็บทางร่างกายหรือเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยผู้เอาประกันภัย

    🔸ตัวอย่าง : หากผู้เอาประกันภัยขับรถชนท้ายรถคันข้างหน้าที่แยกไฟแดง ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อท้ายรถของบุคคลภายนอก และทำให้ให้ผู้ขับขี่รถคันข้างหน้าได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องได้รับการดูแลจากแพทย์

  • คุ้มครองการบาดเจ็บทางร่างกายหรือค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุทางถนน

    🔸ตัวอย่าง : หากผู้เอาประกันภัยขับรถเฉี่ยวรถอีกคันทำให้กระจกมองข้างแตกร้าวและส่งผลให้ผู้ขับขี่คันนั้นมีบาดแผลเล็กน้อยซึ่งต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล

ประกันรถยนต์ 2+ มีตัวเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมอะไรบ้าง ?

หลังจากเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ 2+ เพื่อดูใบเสนอราคาแล้ว บริษัทประกันภัยจะเสนอตัวเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมต่าง ๆ ได้แก่

  • เลือกระบุค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)
  • เลือกซ่อมรถที่อู่ในเครือหรือซ่อมที่ศูนย์และอู่
  • เลือกระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่

ประกันชั้น 2+ แบบมีค่าเสียหายส่วนแรกคืออะไร ?

ในการระบุค่าเสียหายส่วนแรกลงในกรมธรรม์ประกันภัย จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเคลมประกันที่ไม่จำเป็นและสามารถรักษาประวัติผู้ขับขี่ที่ดีได้ กรมธรรม์ที่มีค่าเสียหายส่วนแรกจะช่วยลดค่าเบี้ยประกัน และให้ผลประโยชน์ระยะยาวแก่ผู้ขับขี่

🔸ตัวอย่างของกรมธรรม์ที่มีค่าเสียหายส่วนแรก

  • กรมธรรม์ระบุค่าเสียหายส่วนแรกไว้ 2,000 บาท
  • คุณเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยโดยขับรถชนคันอื่นโดยที่คุณเป็นฝ่ายผิด
  • คุณรับผิดชอบจ่ายค่าซ่อมรถตัวเองในราคา 2,000 บาทแรก
  • หากค่าซ่อมรถเกิน 2,000 บาท คุณต้องทำเรื่องเคลมประกันเพื่อให้บริษัทประกันภัยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกินมา
  • หากค่าซ่อมรถน้อยกว่า 2,000 บาท คุณสามารถจ่ายค่าซ่อมรถด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องเคลมประกัน
  • สถานการณ์นี้ใช้เฉพาะเมื่อคุณเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น หากคุณเป็นฝ่ายถูกแล้วมีคนที่ต้องรับผิดชอบ ผู้ที่เป็นฝ่ายผิดจะรับผิดชอบค่าซ่อมทั้งหมดโดยไม่มีผลต่อส่วนลดประวัติดีหรือประวัติการขับขี่ของคุณ

ส่วนลดประวัติดีคิดอย่างไร ส่งผลต่อเบี้ยประกันอย่างไร ?

  • ส่วนลดประวัติดี (NCB) คือส่วนลดที่ให้กับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ไม่มีประวัติการเคลมประกัน คุณสมบัติที่จะได้รับส่วนลดประวัติดี ได้แก่
    • คุณต้องไม่เคยเคลมประกันของคุณเองในปีที่ผ่านมา
    • ต้องไม่มีการเคลมเกิดขึ้นจากคู่กรณี โดยที่คุณเป็นฝ่ายผิด
  • ส่วนลดนี้สามารถลดเบี้ยประกันของคุณได้สูงสุดถึง 50% หลังจากใช้งานรถคันเอาประกันโดยไม่มีการเคลมเป็นเวลาห้าปี อย่างไรก็ตาม ถึงคุณจะไม่ใช่ฝ่ายผิดในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ถ้ามีการเคลมประกัน ก็อาจส่งผลกระทบต่อ NCB ของคุณได้
  • เพื่อรักษาส่วนลดประวัติดีและอาจช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ คุณสามารถเลือกรับผิดชอบจ่ายค่าซ่อมรถเพียงเล็กน้อยด้วยตัวเองได้ วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณรักษาส่วนลดและประวัติการขับขี่ที่ดี ทำให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ลดลงในระยะยาวได้

ประกัน 2+ ซ่อมห้างหรือซ่อมอู่ แบบไหนดีกว่ากัน ?

  • การเลือกแผนซ่อมรถระหว่างอู่ในเครือประกันภัยกับศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่ต้องการ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ โดยทั่วไปบริษัทประกันจะเสนอรายชื่ออู่ซ่อมในเครือที่ได้รับการอนุมัติสำหรับการซ่อม โดยหากต้องการซ่อมรถที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายหรืออู่อื่น ๆ ด้วย อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเล็กน้อย
  • อู่ซ่อมรถในเครือมักจะมีข้อตกลงกับบริษัทประกันภัยเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและต้นทุนที่ต่ำกว่า การใช้บริการอู่ที่ไม่ได้รับการอนุมัติอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเนื่องจากค่าซ่อมที่สูงขึ้น หากต้องการเช็คราคาประกันรถยนต์ออนไลน์เพื่อหากรมธรรม์ที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณรวมถึงประกัน 2+ กรุณาพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบ

ประกันภัยชั้น 2+ ระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ดีกว่า ?

การเลือกระบุชื่อผู้ขับขี่หรือไม่ระบุชื่อในกรมธรรม์ประกัน 2+ ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนใช้รถของคุณเป็นหลัก

  • ความคุ้มครองแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ : คุณสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่เพิ่มเติมลงในกรมธรรม์ได้สูงสุด 4 คน ทุกคนจะได้รับความคุ้มครองในระดับเดียวกัน นี่เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณมีบุคคลเฉพาะที่ใช้งานรถของคุณเป็นประจำ

    • หากรถของคุณเสียหาย สาเหตุจากผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ระบุชื่อ คุณต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก 6,000 บาท แต่กรมธรรม์ยังให้ความคุ้มครอง
    • แต่ถ้าความเสียหายเกิดจากบุคคลภายนอก คุณไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก เพราะบริษัทประกันภัยสามารถเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายผิดได้
    • สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก จะมีค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท
  • ความคุ้มครองแบบไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ : คุณสามารถเลือกไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ลงในกรมธรรม์ได้ โดยทุกคนที่ขับรถของคุณจะได้รับความคุ้มครองระดับเดียวกัน โดยเบี้ยประกันสูงกว่าเล็กน้อย ตัวเลือกนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งหากมีสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนหลายคนใช้งานรถของคุณ

    • การไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ลงในกรมธรรม์ช่วยให้มั่นใจได้ว่ากรมธรรม์จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมไม่ว่าใครก็ตามที่ขับรถ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจหากหากมีคนใช้รถหลายคน

เคลมประกันชั้น 2+ มีขั้นตอนอย่างไร ?

ขั้นตอนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหรือการเคลมประกันจะแตกต่างกันไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย คุณสามารถดูคำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการเคลมของผู้ให้บริการประกันภัยชั้นนำในประเทศไทย

ต้องทำอย่างไร ถ้าคุณยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเลือกประกันรถยนต์ 2+ ?

หากมีข้อสงสัยด้านใด คุณสามารถติดต่อ มิสเตอร์ คุ้มค่า เรายินดีให้คำแนะนำและรายละเอียดเงื่อนไขของประกันภัยแต่ละที่ เพื่อช่วยให้คุณได้กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับคุณที่สุด

คำจำกัดความเพิ่มเติมของประกันรถยนต์ชั้น 2+

บุคคลภายนอก บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย ที่อาจได้รับผลกระทบจากสัญญา โดยทั่วไปจะเป็นกรณีของการบาดเจ็บหรือความเสียหายของทรัพย์สิน
ความเสียหายต่อตัวรถ ความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัยจากอุบัติเหตุ การโจรกรรม ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
ใช้รถเป็นประจำ ขับรถเป็นประจำไม่ว่าจะไปทำงานทุกวันหรือเป็นครั้งคราว โดยมีความสม่ำเสมอในการเดินทาง
รถที่ใช้งานเชิงพาณิชย์ ยานพาหนะที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจเป็นหลัก เช่น การขนส่งสินค้าหรือรับส่งผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสาร

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่