ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดีที่สุด ?
คุณสามารถเช็คราคาประกันชั้น 1 ที่ดีที่สุดได้ โดยการเปรียบเทียบจากบริษัทประกันภัยมากกว่า 15 บริษัทฯ ที่ มิสเตอร์ คุ้มค่า ประกันภัยชั้น 1 ที่ดีที่สุดควรให้ความคุ้มครองทุนประกันภัยที่สูง และครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณี, บริการรถยก 24 ชั่วโมง, คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ถูกโจรกรรม ไฟไหม้ หรือจากภัยธรรมชาติ รวมน้ำท่วม และความคุ้มครองเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวผู้ขับขี่และบุคคลภายนอกสำหรับค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ เนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
จุดเด่นของประกันรถยนต์ชั้น 1 มีอะไรบ้าง ?
พิจารณาปัจจัยเหล่านี้เมื่อเลือกบริษัทประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยชั้น 1 ของรถคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้รับเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ดีที่สุด พร้อมกับความคุ้มครองกรมธรรม์ที่ครอบคลุม และการบริการลูกค้าที่เชื่อถือได้
-
ความคุ้มครองประกันภัย
ประกันรถชั้น 1 ควรให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมถึงความเสียหายต่อตัวรถยนต์ของคุณจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เหตุไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
-
คุ้มครองการโจรกรรม
ควรให้ความคุ้มครองหลักประกันทางการเงินจากรถสูญหายหรือถูกโจรกรรม เพิ่มความอุ่นใจให้คุณทุกที่ในประเทศไทย
-
คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ
ประกันภัยชั้น 1 ควรให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมค่าซ่อมรถยนต์หรือค่าเปลี่ยนรถของคุณในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ
-
ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
คุ้มครองการรับผิดชอบทางการเงินในความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือการบาดเจ็บของบุคคลภายนอกที่เกิดจากรถคันเอาประกัน
-
ส่วนลดประวัติดี
หากคุณขับขี่ปลอดภัยและไม่มีประวัติการเคลมประกัน คุณควรได้รับส่วนลดประวัติดีทำให้อัตราเบี้ยประกันปรับลดลง
-
สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม
ปรับแต่งกรมธรรม์ของคุณได้ด้วยตัวเลือกเสริมต่าง ๆ เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน 24 ชม. และความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล
-
ค่าเสียหายส่วนแรก
สามารถปรับแต่งค่าเสียหายส่วนแรกที่ระบุในกรมธรรม์ได้ เพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการต้นทุนประกันภัย
-
บริการเคลมมีประสิทธิภาพ
ได้รับประโยชน์จากขั้นตอนการเคลมประกันจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้คุณมากที่สุด
-
ความมั่นคงทางการเงิน
ช่วยคุ้มครองทางการเงินของคุณในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน และรักษาระดับความมั่นคงทางการเงินของคุณได้
-
เพิ่มความอุ่นใจ
ช่วยให้คุณหมดกังวลและเดินทางได้อย่างอุ่นใจ เพราะรถของคุณได้รับการประกันภัยชั้น 1 ตามที่คุณต้องการ
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ?
ประกันรถชั้น 1 อาจจะมีความแตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการประกันภัยแต่ละราย แต่นี่คือความคุ้มครองพื้นฐานของประกันรถยนต์ชั้น 1
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 1 พื้นฐาน
ความคุ้มครองสำหรับตัวรถ
ความเสียหายต่อตัวรถยนต์
คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุรถชนกระจกรถยนต์เสียหาย
หลายบริษัทประกันภัยให้ความคุ้มครองการซ่อมและเปลี่ยนกระจกรถยนต์ ที่เกิดจากอุบัติเหตุความคุ้มครองตัวรถ
ให้ความคุ้มครองกรณีรถยนต์สูญหายหรือถูกโจรกรรมภัยธรรมชาติ
ให้ความคุ้มครองรถยนต์ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆบริการรถยก 24 ชั่วโมง
ให้บริการรถยก 24 ชั่วโมง กรณีรถเสีย สตาร์ทไม่ติด
ความคุ้มครองสำหรับบุคคล
ค่ารักษาพยาบาล
คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ที่อยู่ในรถขณะเกิดอุบัติเหตุประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ให้ความคุ้มครองผู้ที่อยู่ในรถ กรณีเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สายตา ที่เกิดจากอุบัติเหตุการประกันตัวผู้ขับขี่
คุ้มครองค่าประกันตัวกรณีถูกควบคุมในคดีอาญา
ความคุ้มครองบุคคลภายนอก
การบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิตความเสียหายต่อทรัพย์สิน
ให้ความคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใคร ?
คนส่วนใหญ่เชื่อว่าประกันรถชั้น 1 มีไว้สำหรับกลุ่มรถหรูราคาแพง แต่ในความเป็นจริงประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองขั้นสูงสุดสำหรับรถยนต์ทุกคันที่มีการใช้งานบ่อยครั้ง โดยเฉพาะรถที่มีบุคคลอื่นอยู่ในรถด้วยเป็นประจำและเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งการขับขี่ในเมืองและชนบท ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่งกับกลุ่มรถยนต์ ดังต่อไปนี้
- กลุ่มรถยนต์ 4 – ขนาดกลางที่สะดวกในการเดินทาง หาที่จอดรถง่าย ส่วนใหญ่ใช้ขับขี่ในเมือง มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กและมีอะไหล่รถยนต์ที่หาได้ง่าย
- กลุ่มรถยนต์ 5 – รถอีโคคาร์ที่ราคาเข้าถึงง่าย เบี้ยประกันราคาประหยัด เครื่องยนต์ขนาดเล็ก ค่าบำรุงรักษาตลอดจนค่าซ่อมรถราคาไม่แพง
- กลุ่มรถยนต์ SUV – รถยนต์อเนกประสงค์แบบสปอร์ตที่มีพื้นที่เก็บสัมภาระภายในตัวรถกว้างขวาง เข้ากับสมรรถนะที่ลุยได้ทุกสภาพอากาศ
เราขอแนะนำลักษณะการใช้งานรถยนต์ดังต่อไปนี้เพิ่มเติม เพื่อใช้พิจารณาว่าคุณเหมาะกับการซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หรือไม่
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองรถประเภทใดบ้าง ?
ในประเทศไทย รถที่เข้าเกณฑ์การรับประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 มีดังนี้
- 1. รถยนต์ที่มีมูลค่าสูง ได้แก่ รถหรูหรือรถรุ่นใหม่ ๆ จากแบรนด์ยี่ห้อรถยนต์ต่าง ๆ
- 2. รถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งหรือเดินทางเป็นประจำ
- 3. รถยนต์ที่มีผู้ร่วมเดินทางเป็นประจำ
- 4. รถยนต์ที่มีการดัดแปลงเล็กน้อยตามเงื่อนไขรับประกันภัย
- 5. โดยทั่วไป รถยนต์ที่มีอายุน้อยกว่า 10 ปีมักทำประกันรถยนต์ชั้น 1
หลักเกณฑ์เหล่านี้อาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ เราแนะนำให้ตรวจสอบกับบริษัทประกันภัยแต่ละรายเพื่อศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ
รถยนต์ไฟฟ้า EV เหมาะกับประกันชั้น 1 หรือไม่ ?
รถไฟฟ้า EV เหมาะกับกรมธรรม์ประกันรถยนต์ชั้น 1 ความคุ้มครองการประกันภัยรถยนต์ระดับนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเจ้าของรถ EV เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วค่าซ่อมรถและค่าอะไหล่รถยนต์ EV จะมีราคาที่สูงกว่า นอกจากนี้บริษัทประกันภัยหลายแห่งยังเสนอกรมธรรม์ประกันชั้น 1 ที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EV ซึ่งอาจรวมถึงความคุ้มครองความเสียหายของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า การซ่อมแซมเฉพาะทาง หรือแม้แต่ความคุ้มครองสถานีชาร์ตแบตรถไฟฟ้าอีกด้วย การเลือกประกันภัยชั้น 1 จะช่วยให้เจ้าของรถไฟฟ้า EV ได้รับการคุ้มครองอย่างครอบคลุมและอุ่นใจในการเดินทาง
ที่ มิสเตอร์ คุ้มค่า คุณสามารถเปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EV จากบริษัทประกันต่าง ๆ ได้ เป้าหมายของเราคือการค้นหากรมธรรม์ที่ตรงกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของรถ EV ที่มีประสบการณ์การขับขี่หรือกำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนรถ เราพร้อมดูแลให้คุณได้กรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่ดีที่สุด
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่คุ้มครองรถประเภทใดบ้าง ?
โดยทั่วไป ประกันชั้น 1 จะไม่รับประกันภัยรถยนต์ที่มีลักษณะดังนี้
- รถแต่ง : รถที่ถูกปรับปรุงหรือดัดแปลงนอกเหนือจากมาตรฐานโรงงาน
- รถสำหรับการพักผ่อน : เช่น รถบ้านเคลื่อนที่หรือรถ ATV
- รถที่มีความเสี่ยงสูง : เช่น รถสปอร์ตที่มีแรงม้าสูง
- รถที่ใช้ในการเช่า : เช่น รถแท็กซี่ รถรับส่งพนักงาน (เว้นแต่จะได้ระบุไว้ในกรมธรรม์)
- รถที่ไม่มีเอกสาร : รถยนต์ที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง
ข้อยกเว้นเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กประกันรถยนต์ชั้น 1 ับบริษัทประกันภัย กรุณาศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนในกรมธรรม์
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่ ?
โดยทั่วไป บริษัทประกันภัยแต่ละที่จะเสนอกรมธรรม์ประกันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5,000 บาท ถึง 50,000 บาท มีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อการคำนวณค่าประกันรถยนต์ชั้น 1
- ยี่ห้อและรุ่นรถยนต์ : ยี่ห้อและรุ่นรถของคุณเป็นปัจจัยสำคัญ ค่าซ่อมรถและมูลค่าของตัวรถที่แตกต่างกันส่งผลต่อเบี้ยประกันภัยของคุณ
- ปีที่ผลิต : โดยทั่วไปรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มักมีเบี้ยประกันภัยที่สูงกว่าเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมและค่าเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ที่สูงกว่า
- ประวัติผู้ขับขี่ : ประวัติการขับขี่ของคุณส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์ บริษัทประกันภัยจะประเมินและคำนวณเบี้ยประกันภัยจากพฤติกรรมการขับขี่และประวัติการเคลมประกัน
- การปรับแต่งรถยนต์ : การปรับแต่งใด ๆ ที่ส่งผลต่อสมรรถนะในการขับขี่ อาจส่งผลต่อเบี้ยประกันภัย
- ตัวเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติม : กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 อาจเสนอความคุ้มครองเพิ่มเติม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล หรือการคุ้มครองทางกฏหมาย ซึ่งอาจส่งผลต่อเบี้ยประกันภัยโดยรวม
ราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ทุกบริษัทชั้นนำในประเทศไทยเริ่มต้นเท่าไหร่ ?
เบี้ยเริ่มต้น 15,000 บาท
เบี้ยเริ่มต้น 4,400 บาท
เบี้ยเริ่มต้น 7,100 บาท
ทิพยประกันภัย
เบี้ยเริ่มต้น 4,900 บาท
เบี้ยเริ่มต้น 8,130 บาท
แอกซ่าประกันภัย
เบี้ยเริ่มต้น 9,300 บาท
เบี้ยเริ่มต้น 10,500 บาท
เบี้ยเริ่มต้น 8,900 บาท
เทเวศประกันภัย
เบี้ยเริ่มต้น 8,500 บาท
โตเกียวมารีนประกันภัย
เบี้ยเริ่มต้น 13,500 บาท
AIG ประกันภัย
เบี้ยเริ่มต้น 10,044 บาท
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์อย่างไร ?
ความคุ้มครองระดับสูง สำหรับความเสียหายของรถยนต์ที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดจากผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่ที่ระบุชื่อในกรมธรรม์ แบบไม่มีคู่กรณี
🔸 ตัวอย่าง เช่น กันชนและกระโปรงหน้ารถบุบ เนื่องจากคุณขับรถชนต้นไม้
ความคุ้มครองระดับสูง สำหรับความเสียหายของรถยนต์ที่เกิดจากอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดจากผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่ที่ระบุชื่อในกรมธรรม์ แบบมีคู่กรณี
🔸 ตัวอย่าง เช่น กันชนรถของคุณเสียหาย เนื่องจากคุณชนรถคันอื่น ในขณะที่คุณกำลังถอยออกจากที่จอดรถ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองความเสียหายของกระจกหรือหน้าต่างรถยนต์อย่างไร ?
คุ้มครองกระจกหน้ารถที่เสียหายหรือแตกเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือภัยธรรมชาติ
🔸 ตัวอย่าง เช่น กระจกรถของคุณถูกกระแทก แตกร้าว เนื่องจากก้อนหินหรือสิ่งของอื่น ๆ ตกจากด้านหลังรถบรรทุก ขณะขับรถบนทางด่วน
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองจากภัยธรรมชาติอย่างไร ?
ความคุ้มครองจากอุทกภัยและภัยธรรมชาติอื่น ๆ หากรถของคุณได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ รวมถึงน้ำท่วม ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
🔸 ตัวอย่าง เช่น ต้นไม้ล้มทับรถคุณกลางดึก เนื่องจากพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง
ความคุ้มครองอัคคีภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตัวรถไม่ว่าจะเป็นการไหม้โดยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม
🔸ตัวอย่าง เช่น เสาไฟฟ้าตกลงมาใกล้หรือบนรถของคุณ และทำให้เกิดไฟไหม้ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายจากไฟไหม้ที่ด้านนอกและด้านในของรถ
ประกันภัยชั้น 1 ให้ความคุ้มครองกรณีถูกโจรกรรมอย่างไร ?
ความคุ้มครองกรณีรถถูกโจรกรรม ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์
🔸ตัวอย่าง เช่น รถของคุณถูกทุบกระจกรถเพื่อเข้าไปในรถของคุณ และขโมยเครื่องเสียงที่ติดมากับรถยนต์
ประกันรถชั้น 1 ให้บริการรถยก 24 ชั่วโมงหรือไม่ ?
ประกันภัยชั้น 1 ให้บริการรถยกเนื่องจากรถเสียสตาร์ทไม่ติด้ตลอด 24 ชั่วโมง บริการรถยกรถลากจะเคลื่อนย้ายรถยนต์ที่เสียหายของคุณไปยังอู่ซ่อมรถที่บริษัทประกันภัยจัดเตรียมไว้ หรือไปยังอู่ซ่อมรถที่คุณเลือก หรือแล้วแต่กรณีใด ๆ ที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ
🔸ตัวอย่าง เช่น หากแบตเตอรี่ของรถคุณหมดกลางดึก ในขณะที่คุณหยุดพักบนทางหลวง และคุณต้องการลากรถไปที่ร้านซ่อมเพื่อติดตั้งแบตเตอรี่รถยนต์ใหม่
บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนเพิ่มเติมอะไรบ้าง ?
ผู้ให้บริการประกันภัยส่วนใหญ่เสนอบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนที่หลากหลาย เพิ่มเติมจากบริการรถยกขั้นพื้นฐาน โดยทั่วไปบริการเพิ่มเติมเหล่านี้ ได้แก่
การช่วยเหลือแบตเตอรี่เสีย : หากแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณหมด ช่างเทคนิคจะเข้ามาซ่อมแซมและช่วยเหลือที่ตำแหน่งของคุณ
🔸ตัวอย่าง เช่น คุณเปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วรถสตาร์ทไม่ติดในตอนเช้า เจ้าหน้าที่จะเข้าไปเพื่อจัมพ์แบตเตอรี่ให้รถของคุณ
การช่วยเหลือโดยช่างกุญแจ : บริการช่วยเหลือระดับช่างผู้ชำนาญการ หากคุณล็อกกุญแจไว้ในรถโดยไม่ได้ตั้งใจ
🔸ตัวอย่าง เช่น เมื่อคุณเผลอล็อกกุญแจไว้ในรถขณะจอดรถซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ บริการนี้จะส่งช่างทำกุญแจเพื่อไปช่วยปลดล็อกให้คุณเข้ารถได้
การช่วยเหลือเติมน้ำมัน : บริการเติมน้ำมันเพื่อให้รถของคุณกลับมาใช้งานได้ ในกรณีที่รถของคุณน้ำมันหมด
🔸ตัวอย่าง เช่น รถของคุณน้ำมันหมดบนทางหลวง บริการช่วยเหลือฉุกเฉินจะช่วยเติมน้ำมันเพียงพอให้รถคุณไปยังปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด
บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับบริการเหล่านี้อย่างเต็มรูปแบบ กรุณาตรวจสอบกับผู้ให้บริการประกันภัยของคุณเพื่อทำความเข้าใจเงื่อนไขและค่าบริการที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับความคุ้มครองบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน
ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่อย่างไรบ้าง ?
- ค่ารักษาพยาบาล : คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลครอบคลุมทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ
- อุบัติเหตุส่วนบุคคล : ให้ความคุ้มครองทางการเงินกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแก่ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ
- การประกันตัวผู้ขับขี่ : คุ้มครองค่าประกันตัวทางกฎหมายกรณีผู้ขับขี่ถูกควบคุมตัวหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่ได้รับการคุ้มครอง
ประกันรถชั้น 1 ให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอกอย่างไร ?
ความคุ้มครองระดับสูง สำหรับความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ตลอดจนการบาดเจ็บทางร่างกายหรือการเสียชีวิตที่เป็นสาเหตุจากผู้เอาประกันภัยระหว่างอุบัติเหตุทางรถยนต์
🔸ตัวอย่าง เช่น ผู้เอาประกันภัยชนกับรถคันอื่นบนถนน และทำให้รถยนต์ของบุคคลที่สามได้รับความเสียหาย รวมถึงการบาดเจ็บของผู้ขับขี่ที่เป็นบุคคลภายนอก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์
ความคุ้มครองชีวิต หรือค่ารักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุทางรถยนต์
🔸ตัวอย่าง เช่น รถที่ผู้เอาประกันภัยขับถูกชนจากด้านข้าง กระจกแตก และทำให้กระจกบาดคนขับ และต้องรักษาพยาบาล
ตัวเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมของประกันรถชั้น 1 มีอะไรบ้าง ?
หลังจากคุณเปรียบเทียบราคาประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ทุกบริษัทแล้ว คุณจะเจอตัวเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมจากบริษัทประกันภัยที่เสนอให้คุณได้เลือกปรับแต่งแผนความคุ้มครอง :
- ค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)
- ซ่อมอู่ในเครือ หรือ ซ่อมศูนย์และอู่อื่น ๆ
- ระบุชื่อผู้ขับขี่ หรือ ไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่
ค่าเสียหายส่วนแรกในประกันรถยนต์ชั้น 1 คืออะไร ?
การเลือกค่าเสียหายส่วนแรกในกรมธรรม์ของคุณ เป็นการสร้างวินัยเพื่อเลี่ยงการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่ไม่จำเป็น และรักษาประวัติผู้ขับขี่ที่ดีไว้ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัยในระยะยาว ในกรณีที่คุณเลือกเบี้ยจะลดลง และจ่ายค่าส่วนแรก โดยเฉพาะการเคลมที่คุณเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี ทั้งนี้คุณสามารถเลือกค่าเสียหายส่วนแรกในแบบที่เหมาะสมที่สุด ไม่มีสิ่งใดผิดหรือถูกที่สุด
🔸ตัวอย่างกรณีที่กรมธรรม์ประกันภัยระบุค่าเสียหายส่วนแรก
- คุณเลือกเพิ่มค่าเสียหายส่วนแรก 3,000 บาทในกรมธรรม์ประกันภัย
- ต่อมา คุณประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยไม่มีบุคคลที่สามหรือมีบุคคลที่สาม โดยที่คุณเป็นฝ่ายผิด
- กรณีค่าซ่อมรถสูงกว่า 3,000 บาท หากเคลมประกัน คุณจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 3,000 บาท และบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินจากนั้นตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- กรณีค่าซ่อมรถต่ำกว่า 3,000 บาท คุณสามารถเลือกจ่ายค่าซ่อมรถเอง และไม่เคลมประกันได้ กรณีนี้คุณจะไม่เสียประวัติการเคลมประกัน และจะได้ส่วนลดประวัติดีในการต่ออายุกรมธรรม์ในปีต่อไป
- หากคุณเป็นฝ่ายถูก คุณไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก
ส่วนลดประวัติดีคืออะไร มีผลต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์อย่างไร ?
ส่วนลดประวัติดี (No claim bonus) คือส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์สำหรับกรมธรรม์ที่ไม่มีการเคลมประกันในปีที่ผ่านมา โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้ :
- ไม่มีการเคลมประกันกับบริษัทประกันภัยของตัวเอง
- ไม่มีการเคลมประกันจากคู่กรณี โดยที่เราเป็นฝ่ายผิด
ส่วนลดประวัติดีนี้สามารถช่วยคุณประหยัดค่าเบี้ยประกันได้สูงสุดถึง 50% หลังจากไม่มีการเคลมประกัน 5 ปีติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม กรณีเกิดอุบัติเหตุแล้วทำให้รถของคุณเกิดรอยขีดข่วนเล็กน้อย ถึงคุณจะไม่ได้เป็นฝ่ายผิด คุณควรเลือกจ่ายค่าซ่อมรถด้วยตัวเอง เพื่อรักษาประวัติผู้ขับขี่และส่วนลดประวัติดีไว้นั่นเอง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 ซ่อมศูนย์ หรือ ซ่อมอู่ในเครือ ดีกว่ากัน ?
- ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณและคนที่คุณไว้วางใจในการซ่อมรถของคุณ ผู้ประกันตนส่วนใหญ่มีศูนย์ซ่อมในใจที่เลือกไว้ล่วงหน้า ในกรณีที่รถได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุทางถนน บางบริษัทประกันอนุญาตให้เพิ่มเติมศูนย์ซ่อมนี้อยู่ในรายการของอู่ซ่อมรถ โดยเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อย หรือนำรถเข้าซ่อมที่อู่ในเครือและศูนย์ซ่อมใดก็ได้ โดยมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าเล็กน้อย เหตุผลก็คือบริษัทประกันภัยมักจะสร้างความสัมพันธ์กับอู่ซ่อมรถที่เลือกไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะสามารถรับประกันคุณภาพของการซ่อมและลดต้นทุนให้กับลูกค้าได้
- ในการตัดสินใจเลือกอู่ซ่อมรถประเภทอื่น จะมีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในกรมธรรม์ของคุณ เนื่องจากบริษัทประกันภัยไม่สามารถรับประกันคุณภาพการซ่อมรถได้ และเพิ่มความเสี่ยงที่รถอาจมีปัญหาในอนาคตเนื่องจากการซ่อมที่ผิดพลาด
ประกันภัยชั้น 1 เลือกระบุชื่อผู้ขับขี่ หรือ ไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ ดีกว่ากัน ?
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้ขับขี่ คุณสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่เพิ่มเติมได้ในกรมธรรม์และยังคงได้รับความคุ้มครองในจำนวนเท่าเดิม โดยปกติจะสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ลงในกรมธรรม์ได้สูงสุด 2 คน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท
- ที่สำคัญแม้ว่าความรับผิดหรือความเสียหายต่อรถยนต์จะเกิดขึ้นจากการขับขี่ของบุคลลอื่นที่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ บริษัทประกันภัยจะไม่สามารถปฏิเสธความคุ้มครองได้ แต่คุณต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกตามกฏหมายกำหนด จำนวน 6,000 บาท
- หากความเสียหายเกิดจากการกระทำของบุคคลภายนอก และสามารถระบุผู้ที่ต้องรับผิดตามกฏหมายได้ คุณไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก เพราะบริษัทมีสิทธิไปเรียกค่าเสียหายจากบุคคลภายนอกที่เป็นฝ่ายผิด
- กรณีเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก คุณต้องจ่ายเค่าเสียหายส่วนแรกจำนวน 2,000 บาท
คุณสามารถเลือกไม่ระบุชื่อผู้ขับขี่ลงในกรมธรรม์ได้ โดยอนุญาตให้ผู้ขับขี่ทุกคนที่มีใบขับขี่สามารถใช้งานรถคันเอาประกัน ซึ่งอาจทำให้เบี้ยประกันภัยของคุณเพิ่มขึ้น
🔸ตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณมีรถที่คุณใช้ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวหลายคน สมาชิกในครอบครัวของคุณสามารถขับรถได้โดยไม่ต้องระบุชื่อในกรมธรรม์และยังได้รับความคุ้มครองในระดับเดียวกัน สิ่งนี้จะเพิ่มเบี้ยประกันของคุณ แต่ช่วยให้มั่นใจได้ว่ารถของคุณจะได้รับการปกป้อง ไม่ว่าใครจะอยู่หลังพวงมาลัย
ขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นอย่างไร ?
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริษัทประกันภัยของคุณและข้อปฏิบัติการเคลมประกันรถยนต์ของแต่ละที่ แต่คุณสามารถเข้าไปที่หน้าวิธีการเคลม ซึ่งมีรายละเอียดการเคลมสำหรับบริษัทประกันภัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย
ไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเลือกกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่เหมาะสม ต้องทำอย่างไร ?
ติดต่อเราได้ที่ มิสเตอร์ คุ้มค่า เรายินดีที่จะให้คำปรึกษา รวมถึงรายละเอียดของประกันชั้น 1 แต่ละบริษัท และตัวเลือกความคุ้มครองต่าง ๆ เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสมที่สุด หรือโทร 02 080 9292