เพราะเหตุใด ประกันรถยนต์จึงต้องมีความคุ้มครองเรื่องประกันตัวผู้ขับขี่

       หลายคนที่ทำประกันรถยนต์ แล้วอาจเคยสังเกตเห็นเงื่อนไขในกรมธรรม์กับคำว่า ประกันตัวผู้ขับขี่ แล้วเกิดความสงสัยใช่ไหมว่าคืออะไรและทำไมถึงจะต้องมีความคุ้มครองในส่วนนี้? รวมถึงความคุ้มครองในส่วนนี้ช่วยอะไรให้กับคุณได้บ้างในตอนที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา MrKumka ได้รวบรวมรายละเอียดมาให้คุณหมดแล้ว ตามไปดูกันเลย

หากเป็นแต่ก่อนความคุ้มครองการประกันตัวผู้ขับขี่ของประกันรถยนต์ ถือเป็น “ภัยเพิ่มเติม” ชนิดหนึ่งที่สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม นอกเหนือจากภัยที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ภาคสมัครใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในประกันชั้น 1 โดยสามารถเลือกซื้อเบี้ยประกันตามที่ต้องการได้อย่างอิสระ ตามปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 100,000-300,000 บาท ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความคุ้มครองที่ครอบคลุมแบบจัดเต็ม ให้กับผู้เอาประกันที่ประสงค์จะเลือกความคุ้มครองในส่วนนี้

แต่ปัจจุบันการคุ้มครองเรื่องประกันตัวผู้ขับขี่หลายๆกรมธรรม์ได้เพิ่มเงื่อนไขเรื่องของการประกันผู้ขับขี่ไว้แทบจะเป็น “พื้นฐาน” ให้กับประกันรถยนต์ทุกประเภท ทั้งประกันชั้น 2, 2+, 3+ หรือแม้กระทั่งประกันชั้น 3 ล้วนมีการคุ้มครองเรื่องประกันตัวผู้ขับขี่ไว้ทั้งสิ้น

เงื่อนไขความคุ้มครองสำหรับ “ประกันตัวผู้ขับขี่”

สำหรับเงื่อนไขความคุ้มครองมีระบุไว้ในเอกสารแนบกับความคุ้มครองเพิ่มเติม คือ “บริษัทประกันตัวผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลใดซึ่งขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัย ในกรณีรถยนต์ที่ระบุไว้ในตารางเกิดอุบัติเหตุ เป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าวถูกควบคุมตัว การประกันตัวบุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการโดยไม่ชักช้าตามจำนวนเงินที่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล กำหนดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด”

ความคุ้มครองการประกันภัยผู้ขับขี่คดีอาญา (รย. 03) ตามหลักการแล้วจะให้ความคุ้มครองตัวผู้ขับขี่ให้มีอิสรภาพ จากการถูกควบคุมตัวในคดีอาญาของพนักงานสอบสวน อัยการ หรือศาล “ชั่วระยะเวลาหนึ่ง” ระหว่างการต่อสู้คดีความ อันสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกิดขึ้น

การประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญาเป็นยอดเงินที่ไม่สามารถกำหนดวงเงินได้ชัดเจนหากมีเหตุเกิดขึ้น เพราะจะขึ้นอยู่กับเรื่องของคดีที่เกิดขึ้นว่ารุนแรงมีโทษมากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงเรื่องที่ว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมจะหลบหนีหรือไม่ด้วย ข้อดีของประกันตัวผู้ขับขี่คือ ทางบริษัทประกันจะเข้ามาจัดการเรื่องประกันตัวผู้ขับขี่ตามที่ผู้เอาประกันภัยได้ซื้อความคุ้มครองไว้ และบริษัทประกันจะต้องนำเงินประกันไปค้ำประกันตัวผู้ต้องหา(ผู้เอาประกัน)

ซึ่งปกติหากไม่มีการคุ้มครองของเรื่องประกันตัวผู้ขับขี่ ผู้เอาประกันหรือญาติจะต้องจัดการในส่วนนี้เพื่อมาต่อสู้คดี นับเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ปฏิเสธไม่ได้เลยจากการคุ้มครองของประกันรถยนต์ที่คุณได้รับ

ต้องบอกก่อนว่าซื้อประกันภัยคุ้มครองข้อนี้ ไม่ได้ความหมายว่าผู้ขับขี่จะหลุดพ้นจากการดำเนินคดีแต่อย่างใด เพียงแต่จะได้รับอิสระในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ได้รับการประกันตัวเท่านั้น หากคุณต้องการได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้ เปรียบเทียบเบี้ยประกันรถยนต์ออนไลน์ กับ MrKumka ได้ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปได้เลย บอกเลยว่าได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมคุ้มค่า 100% แน่นอน