เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างรถเสียฉุกเฉิน ไม่สามารถขับรถต่อไปได้ ทางออกเดียวที่ทำได้ในสถานการณ์นี้คือการใช้บริการรถลาก ใกล้ฉัน แม้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการนำรถไปยังศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมได้ดีมาก ๆ แต่ในท้ายที่สุดใครกันล่ะ ที่ต้องเป็นคนจ่ายค่าลากรถ เราหรือบริษัทประกัน? ตาม มิสเตอร์ คุ้มค่า ไปหาคำตอบกันเลย
กรณีไหนบ้าง ที่ควรเรียกใช้บริการรถลาก ?
ปกติแล้วเหตุการณ์ที่ ‘จำเป็น’ ต้องใช้บริการรถลากจะแบ่งออกเป็น 2 กรณีหลัก ๆ คือ กรณีรถเสียฉุกเฉินและกรณีเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ตามไปทำความเข้าใจทั้ง 2 กรณีที่มีสาเหตุค่อนข้างใกล้เคียงกันหน่อยดีกว่า
1. รถเสีย
นอกจากเหตุการณ์รถเสียแล้ว ยังรวมถึงเหตุการณ์รถน้ำมันหมด รถสตาร์ทไม่ติด ยางแตก ระบบของเหลวรั่ว หม้อน้ำรถรั่ว และภายในเครื่องยนต์มีปัญหาจนไม่สามารถขับรถต่อไปได้
2. รถเกิดอุบัติเหตุ
สาเหตุหลัก ๆ อาจเกิดได้จากเหตุการณ์รถชนรถ เครื่องยนต์ดับ รถเสียหลัก หรือรถไฟไหม้จนเป็นเหตุทำให้กีดขวางการจราจร ตลอดจนผู้ขับขี่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ด้วยตัวเอง
เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายรถ และป้องกันการกีดขวางการจราจร การเรียกใช้บริการรถลาก ใกล้ฉันจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ทั้งสองกรณีใครต้องเป็นจ่ายค่าลากรถ เราหาคำตอบที่คุณอยากรู้มาไว้ให้ด้านล่าง
แท้จริงแล้ว ใครต้องเป็นคนจ่ายค่าลากรถ ?
ถือเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่บ่อย ๆ ว่าแท้จริงแล้วหากต้องใช้บริการรถลาก ในส่วนของค่าลากรถ ‘ใคร’ ต้องเป็นคนรับผิดชอบ ต้องบอกแบบนี้ว่าขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีที่เกิดขึ้นขณะใช้รถยนต์ และเงื่อนไขของกรมธรรม์ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. กรณีรถเสีย
ตามปกติแล้วหากเป็นกรณีรถเสียฉุกเฉิน ผู้เอาประกันจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าลากรถเอง โดยติดต่อใช้บริการจากบริษัทรถลาก รถยกได้เลยทันที แต่ถ้าหากประกันรถยนต์ที่ซื้อเอาไว้ มีบริการครอบคลุมในส่วนนี้ หรือมีบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน สามารถเรียกประกันรถเพื่อขอความช่วยเหลือเบื้องต้นได้
2. กรณีรถเกิดอุบัติเหตุ
แต่ถ้าเป็นกรณีรถเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน บริษัทประกันจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าลากรถ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้น ๆ ส่วนใหญ่จะรับผิดชอบไม่เกินร้อยละ 20 ของค่าซ่อม และมีข้อกำหนดในเรื่องของระยะทางที่สามารถเรียกใช้บริการรถลากด้วย โดยปกติจะอยู่ที่ภายใน 20 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ หากเกินกว่านั้นอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างเพิ่มเติม
จากทั้ง 2 กรณีที่อธิบายไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าประกันภัยรถยนต์มีเงื่อนไขในการให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน ดังนั้นนอกจากจะเปรียบเทียบประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจทำประกันแล้ว ยังควรทำความเข้าใจและศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง รวมถึงข้อยกเว้นในการให้ความคุ้มครองให้ดีด้วย เพื่อป้องกันความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
ข้อควรรู้ก่อนเรียกใช้บริการรถลาก
หากวันใดวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์น่าปวดหัวอย่างรถเสียฉุกเฉิน จนรถของคุณไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ สิ่งที่ควรทำมากที่สุดแน่นอนว่าคือการตั้งสติ จากนั้นให้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากบริการรถลากเพื่อความปลอดภัย แต่ก่อนจะเรียกใช้บริการดังกล่าว จำเป็นต้องรู้อะไรก่อนบ้าง? มิสเตอร์ คุ้มค่า ลิสต์มาให้แล้ว ดังนี้
1. ให้สัญญาณรถคันอื่น
ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ระหว่างใช้รถใช้ถนนก็ตาม โดยเฉพาะบนถนนทางหลวงที่มีรถพลุกพล่าน เช่น รถเสียฉุกเฉิน รถสตาร์ทไม่ติด หม้อน้ำรถมีปัญหา ฯลฯ ให้ถือคติปลอดภัยไว้ก่อนเสมอ ด้วยการเปิดไฟฉุกเฉิน หรือตั้งป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงไว้ที่พื้นถนนหลังรถ เพื่อเตือนเพื่อนร่วมทางคันอื่น ๆ
2. เช็กประกันภัยรถยนต์
หลังจากมั่นใจแล้วว่าทั้งคุณและรถอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ให้ทำการเช็กประกันรถยนต์ว่ามีบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินหรือไม่ รวมถึงมีเงื่อนไขและข้อจำกัดในการใช้บริการรถลากอย่างไร เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด
3. โทรขอความช่วยเหลือ
จากนั้นให้โทรความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดต่อบริการรถลาก ใกล้ฉันที่มีความน่าเชื่อถือ ในกรณีที่รถของคุณมีบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน ให้โทรเรียกประกันรถเพื่อขอความช่วยเหลือ
4. ระบุตำแหน่ง
ไม่ว่าจะติดต่อขอความช่วยเหลือจากบริษัทประกันรถยนต์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใด ๆ ก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องอธิบายสถานที่ จุดสังเกต รวมถึงตำแหน่งเกิดเหตุอย่างละเอียดและถูกต้อง ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ส่งโลเคชั่นจะดีที่สุด เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
5. เช็กรถก่อนใช้บริการรถลาก
ในระหว่างที่รอรถลากมาถึง ให้ตรวจเช็กรถของคุณโดยรอบ อาจถ่ายรูปสภาพรถก่อนถูกลาก เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานหากมีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นเพิ่มเติม และเช็กสิ่งของมีค่าภายในรถ ถ้ามีให้นำของมีค่าออกจากรถมาเก็บไว้กับตัว
ข้อดีของบริการรถลาก เมื่อเกิดเหตุรถเสียฉุกเฉิน
บางคนเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง ว่าบริการรถลากไม่ค่อยดี แถมยังเป็นการให้ความช่วยเหลือที่เพิ่มความเสียหายให้กับรถยนต์ ทว่าการเรียกใช้บริการรถลาก ใกล้ฉันที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายบอกไว้เลยว่าไม่มีอะไรต้องกังวล และจะไม่มีชิ้นส่วนใด ๆ ได้รับความเสียหายเพิ่มเติมแน่นอน
เพราะบริการรถลากที่มีความน่าเชื่อถือ จะใช้อุปกรณ์พิเศษพร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์คอยดูแลตลอดการให้บริการ เพื่อให้รถของคุณเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ที่ต้องการได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้การใช้บริการรถลาก ใกล้ฉันจะทำให้คุณสบายใจและอุ่นใจมากขึ้น เมื่อได้รับความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุรถเสียฉุกเฉิน จากทีมที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ
ค่าบริการรถลากราคาเท่าไหร่ ?
สำหรับกรณีรถเสียฉุกเฉินที่ผู้ขับขี่จำเป็นต้องรับผิดชอบค่าลากรถเอง เชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยว่าราคารถลาก รถเสียปกติแล้วเริ่มต้นที่กี่บาท? ใช้เกณฑ์ไหนในการกำหนดราคา มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้เตรียมคำตอบประเด็นนี้มาให้ด้วยเช่นกัน โดยปกติแล้วรถลากจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,000-3,000 บาท สำหรับระยะทางใกล้ ๆ และอาจเพิ่มขึ้นตามระยะทางและปัจจัยอื่น
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะนอกจากบริการรถลากที่สามารถเรียกใช้บริการได้แล้ว ยังมีบริการรถยก รถสไลด์ ด้วย ซึ่งหลายคนก็คงหาคำตอบอยู่เหมือนกัน โดยบริการนี้จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 1,500-5,000 บาทหรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับประเภทของรถยก ระยะทาง และปัจจัยอื่น
เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนน ทั้งอุบัติเหตุและรถเสียฉุกเฉิน ที่ทำให้รถของคุณไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ การเรียกใช้บริการรถลากถือเป็นทางออกที่ดี ทั้งปลอดภัย สะดวก แถมราคารถลาก รถเสียก็ไม่แพง แต่จะดีกว่าหากมีประกันรถยนต์ที่คุ้มครองครอบคลุมในส่วนนี้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องควักจ่ายค่าลากรถแม้แต่สตางค์เดียว อยากอุ่นใจในทุก ๆ เหตุการณ์ อย่าลืมเช็กแผนความคุ้มครองให้ดีก่อนทุกครั้ง
คำจำกัดความ
ทางหลวง | ถนนหรือเส้นทางซึ่งจัดไว้เพื่อประโยชน์ในการจราจรสาธารณะทางบก ไม่ว่าในระดับพื้นดิน ใต้หรือเหนือพื้นดิน หรือใต้หรือเหนืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นนอกจากทางรถไฟ |
พลุกพล่าน | วุ่นวาย, ขวักไขว่, ไม่เป็นระเบียบ |
ป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสง | เป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญบนท้องถนนอีกประเภทหนึ่ง ที่ใช้เพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ยวดยานพาหนะในเวลาเกิดอุบัติเหตุหรือเวลารถเสีย |