รถหายต้องทำอย่างไร ประกันภัยรถยนต์ ชั้นไหนคุ้มครองบ้าง ?

ถ้าไม่มี ประกันภัยรถหาย รถยนต์ของเราจะเป็นอย่างไร

ในยุคสมัยที่รถยนต์ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์ไปแล้ว มันเป็นสิ่งที่จำเป็นกับชีวิต เป็นทั้งทรัพย์สิน และเป็นทั้งหนี้สินด้วยในกรณีที่ยังผ่อนไม่หมด และถ้าหากว่ามันเกิดอาเพศอะไรที่ทำให้ทรัพย์สินชนิดนี้หาย หรือถูกโจรกรรมขึ้นมา เราจะทำอย่างไร และถ้าเราไม่ได้ทำประกันรถหายเอาไว้จะเกิดอะไรขึ้น

แน่นอนสิ่งแรกที่จะเกิดขึ้นคือ “ความตระหนกตกใจ” กลัวที่จะต้องสูญเสียของรักราคาแพงไป หลายคนต่างรู้ว่าส่วนใหญ่ กรณีรถถูกจารกรรมมีเปอร์เซ็นต์น้อยมากที่จะได้รถกลับคืนมา แน่นอนมูลค่าของรถคือสิ่งที่เราต้องสูญเสียไป และยิ่งรถยังอยู่ในไฟแนนซ์ ยังผ่อนไม่หมด มันจะกลายเป็นหนี้สินทันทีเมื่อรถหาย ดังนั้นการทำประกันภัยรถยนต์ที่มีการคุ้มครองรถหายไว้ก็เหมือนเป็นการประกันว่าถ้าหากรถหาย หนี้ที่คุณยังชำระไม่หมดกับทางไฟแนนซ์จะมีประกันมาช่วยรับผิดชอบตามยอดทุนประกันหรือตามมูลค่าตลาด

ประกันชั้นไหนบ้างที่คุ้มครองกรณี “รถหาย”

• ประกันชั้น 1 ตามปกติแล้ว ประกันภัยรถยนต์จะถูกแบ่งเป็นหลายระดับแตกต่างกันตามราคาเบี้ยประกันและทุนประกัน แน่นอนว่าประกันที่มีราคาเบี้ยประกันสูงที่สุดคือประกันชั้น 1 ที่มีทุนประกันสูงที่สุดด้วย ย่อมจะมีการคุ้มครองกรณีรถสูญหายหรือถูกโจรกรรม ซึ่งในประกันชั้น 1 นี้ค่าสินไหมชดเชยกรณีรถหาย ถ้าถูกตรวจสอบแล้วว่าหายจริงและตามคืนไม่ได้ ทำประกันภัยรถยนต์ไว้จะก็จ่ายชดเชยให้ตามยอดทุนประกัน (หรือน้อยกว่าอันเนื่องจากสภาพการใช้งาน)
• ประกันชั้น 2+ เป็นอีกประกันที่มีการคุ้มครองรถหาย และด้วยเบี้ยประกันที่ราคากลาง ๆ อยู่ระหว่างประกันชั้น 1 ชั้น 2 มันจึงมีทั้งประกันรถหาย และประกันซ่อมรถของเราให้ด้วย
• ประกันชั้น 2 เป็นอีกชั้นของประกันที่คุ้มครองการสูญหายของรถ แม้จะเป็นประกันที่มีเบี้ยประกันถูกมาก ด้วยราคาประมาณ 2-3000 บาทเท่านั้น ก็น่าสนใจสำหรับคนมีงบไม่เยอะ แต่อยากให้ประกันคุ้มครองในส่วนนี้ด้วย แต่ที่มันถูกก็เพราะ ประกันชั้น 2 ไม่ได้ให้เคลมค่าซ่อมรถของเราเวลาเกิดอุบัติเหตุ “ได้อย่างก็เสียอย่าง”

นอกจากนี้ ประกันชั้น 3+ บางตัวยังมีแพคเกจให้เลือกได้ตามใจ จะมีคุ้มครองกรณีรถหายหรือไม่มีก็ได้แทรกมาให้ด้วยในกรมธรรม์ ซึ่งถือเป็นความน่าสนใจของประกันยุคใหม่เพื่อตอบโจทย์คนใช้รถ เจ้าของรถได้อย่างดีทีเดียว

ทำอย่างไรเมื่อรถหาย

เมื่อรู้เรื่องประกันแล้ว คุณก็พร้อมที่จะพบเจอกันสิ่งที่ไม่คาดฝันได้แล้ว เอาล่ะ สมมุติว่าคุณเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าพร้อมถุงช็อปปิ้งเต็มมือ และพบว่ารถคันโปรดของคุณไม่ได้อยู่ในที่จอดเหมือนตอนที่ขับมันเข้ามาจอดอีกแล้ว สิ่งแรกที่คุณจะทำคืออะไร… ไม่ใช่ร้องกรี๊ดแน่ ๆ จงตั้งสติและระลึกไว้ว่าโลกยังไม่สลาย โทรหาคนที่บ้านให้เอาเอกสารเกี่ยวกับรถของคุณทุกอย่างมาให้กับคุณ แล้วไปโรงพักในพื้นที่ทันที

• แจ้งความ ใช้หลักฐานทุกอย่างที่โยงคุณกับรถในการแจ้งความ เล่าเรื่องทุกอย่างให้ตำรวจฟังอย่างละเอียด ลักษณะของรถ ทะเบียน เพื่อตำรวจจะช่วยติดตามได้อย่างรวดเร็ว
• ติดต่อประกัน เมื่อได้ใบแจ้งความมาแล้วให้ติดต่อบริษัทประกันทันที เราต้องติดต่อบริษัทประกันเพื่อแจ้งให้รู้ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ทางบริษัทประกันก็จะช่วยเราตามหารถอีกที ถึงตรงนี้บริษัทประกันคงจะสอบถามเราอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่ารถถูกขโมยจริง ๆ จากนั้นเมื่อประกันแน่ใจว่ารถถูกขโมยและคงไม่สามารถตามคืนมาได้แล้ว บริษัทถึงจะเริ่มพูดถึงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เมื่อได้เงินมาแล้วจะเอาไปซื้อรถใหม่หรือไปทำอะไรก็ตามสบาย
• ในกรณีที่รถยังผ่อนไม่หมด บริษัทประกันจะติดต่อไฟแนนซ์เพื่อนำค่าสินไหมไปปิดยอดค้างของรถก่อน ส่วนต่างนั้นถึงจะเป็นของเรา อาจจะเหลือไม่เยอะ แต่ก็พอไปดาวน์รถใหม่ได้ ดีกว่าเป็นหนี้ต้องผ่อนลมไปจนหมด