เชื่อว่าอีกหนึ่งสิ่งน่าปวดหัวของใครหลาย ๆ คนที่ใช้รถใช้ถนน คือ การต่อทะเบียนรถยนต์ หรือที่เรียกกันว่า “ ต่อภาษีรถยนต์ ” เนื่องจากต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไปยื่นที่กรมขนส่ง ขั้นตอนยุ่งยาก ยิ่งหากไปขนส่งโดยตรงอาจต้องเสียเวลาไปทั้งวันในการทำเรื่อง
วันนี้ MrKumka ได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ “เรื่องที่ต้องรู้” ก่อนต่อภาษีรถยนต์ เพื่อให้คุณดำเนินการได้อย่างถูกต้องและไม่ต้องเสียค่าปรับในภายหลังหากปล่อยให้ภาษีขาด ใช้รถเพลินจนลืมต่อภาษี มีรายละเอียดอะไรบ้าง ? รับรองว่ามีประโยชน์สำหรับคนใช้รถทุกคนอย่างแน่นอน ไปดูกันเลย
รู้ก่อนว่าการ ต่อทะเบียนรถยนต์ คืออะไร ?
รถยนต์ทุกคันจะต้องดำเนินการจ่ายภาษีตามที่กฎหมายบังคับ โดยเงินที่จ่ายไปนั้น ทางหน่วยงานภาครัฐจะนำไปพัฒนาปรับปรุงถนน รวมถึงการคมนาคมภายในประเทศ จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมผู้มีรถยนต์ทุกคน จำเป็นจะต้องต่อทะเบียนรถขนส่ง ทุกปี และถ้าหากปล่อยเอาไว้อาจทำให้เจอกับค่าปรับ และเสียเวลาในการดำเนินการต่ออีกด้วย
5 สิ่งที่คุณต้องรู้เมื่อจะ ต่อภาษีรถ
สำหรับการต่อภาษีรถยนต์มีกฎระเบียบที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เหมือนกับการ จองทะเบียนรถยนต์ต่างจังหวัด หรือ วิธีจองเลขทะเบียนรถออนไลน์ แน่นอนว่าการต่อภาษีรถยนต์ ก็สามารถทำออนไลน์ได้ แต่ก่อนไปต่อภาษีก็ควรทำความเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีก่อน เพื่อที่จะได้คำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบ และเราก็ได้รวบรวม “เรื่องที่ควรรู้” มาให้เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- การต่อภาษีรถยนต์ในแต่ละครั้ง จะต้องทำการ “ต่อภาษีรถยนต์ในปีที่หมดอายุ” โดยสามารถต่อภาษีได้ก่อนวันที่จะหมดอายุ “ล่วงหน้า 90 วัน” ซึ่งถือว่ามีเวลาเพียงพอในการ “คำนวณค่าใช้จ่าย” ในการต่อภาษีรถยนต์ได้อย่างรอบคอบ
- หากคุณต่อภาษีล่าช้ากว่าที่กฎหมายกำหนด โปรดจำไว้เลยว่า “ค่าปรับยิ่งเพิ่มมากขึ้น” ตามไปด้วย ตามปกติแล้วจะนับตั้งแต่วันที่ขาด 1 วันขึ้นไป ทางกฎหมายจะถือว่าเป็นการ “ขาดต่อภาษีรถยนต์” ซึ่งระยะเวลาตั้งแต่ 1-3 ปี จะต้องเสียค่าปรับร้อยละ 1% ต่อเดือน
- กรณีที่ “ขาดต่อภาษีรถยนต์” นานกว่า 3 ปีขึ้นไป ป้ายทะเบียนของรถยนต์คันนั้น ๆ จะถูกยกเลิกทันที หากต้องการต่อภาษีรถยนต์ใหม่จะต้องนำป้ายทะเบียนเดิม ไปคืนที่กรมขนส่งทางบก พร้อมกับ “ชำระค่าปรับ” ให้เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถทำใหม่ได้
- การต่อภาษีรถยนต์ทุกครั้ง “รถยนต์ที่มีอายุไม่ถึง 7 ปี” ไม่จำเป็นจะต้องตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษี เว้นแต่รถยนต์มีอายุเกินกว่า 7 ปี จะต้องทำการตรวจสภาพรถยนต์ให้ครบก่อน จึงจะสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้
- สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยเด็ดขาด คือ “ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์” หรือที่เรียกกันว่า “ประกันภาคบังคับ” ให้เรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้
ต่อทะเบียนรถ ใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
นอกจากจะต้องเตรียมตัวในการต่อภาษีรถยนต์ให้พร้อมแล้ว “เอกสาร” ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้ามเช่นเดียวกัน โดยเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ มีดังนี้
- คู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริงหรือสำเนา
- หลักฐานที่ระบุไว้ว่าได้ทำประกันภัยตามที่กฎหมายบังคับ (พ.ร.บ. รถยนต์)
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถยนต์ หากรถยนต์มีอายุเกินกว่า 7 ปีขึ้นไป รวมถึงกรณีที่รถมีการดัดแปลงสภาพ
“ตรวจสภาพรถ” ก่อนต่อภาษี ต้องตรวจอะไรบ้าง ?
กรณีที่รถยนต์ของคุณมีอายุมากกว่า 7 ปี จำเป็นจะต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถก่อนต่อภาษีทุกครั้ง ซึ่งถ้าหากคุณสงสัยว่าต้องตรวจอะไรบ้าง ? เราได้ลิสต์มาให้เรียบร้อยแล้ว
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลรถยนต์ เช่น ลักษณะรถ หมายเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ แผ่นป้ายทะเบียน ฯลฯ
- ตรวจสภาพตัวรถ เช่น อุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัย สี ตัวถัง พวงมาลัย อุปกรณ์ไฟฟ้า ฯลฯ
- ตรวจสอบระบบภายในรถ เช่น ระบบรองรับน้ำหนัก ระบบบังคับเลี้ยว ระบบเชื้อเพลิง ฯลฯ
- ทดสอบประสิทธิภาพการเบรก โดยตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้นว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่
- ตรวจสอบวัดโคมหน้าไฟ ทิศทางการเบี่ยงเบนของแสง และวัดค่าความเข้มของแสง
- ตรวจสอบวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) ของรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
- รถยนต์เครื่องดีเซลต้องตรวจควันดำ โดยระบบการกรองต้องไม่เกินร้อยละ 50 และระบบความทึบแสงต้องไม่เกินร้อยละ 45
- การตรวจวัดเสียงรถ ต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล
ต่อภาษีรถยนต์ที่ไหนได้บ้าง
หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำเอกสารทั้งหมดยื่นเพื่อดำเนินการต่อภาษีผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
- กรมการขนส่งทางบก
- สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ
- ที่ทำการไปรษณีย์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ “ช้อปให้พอ แล้วต่อภาษี”
- เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ
- แอปพลิเคชัน mPay และ True Money Wallet
- ต่อภาษีรถออนไลน์โดยตรง ที่เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก https://eservice.dlt.go.th/ หรือแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax
แม้การต่อภาษีรถยนต์จะมีขั้นตอนหรือรายละเอียดที่ค่อนข้างจุกจิก แต่ก็เป็นสิ่งที่คุณไม่ควรละเลยเด็ดขาด เพราะอาจนำพาผลเสียต่าง ๆ ตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะ “ค่าปรับ” จำนวนมหาศาล ที่ทำเอาคุณปาดเหงื่อไปตาม ๆ กัน และเลวร้ายที่สุด “ป้ายทะเบียนรถอาจถูกระงับการใช้งาน” อีกด้วย สำหรับคนที่กำลังมองหา “ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ” เพื่อเสริมสร้างความอุ่นใจให้คุณ และคนที่คุณรักตลอดการเดินทาง MrKumka.com พร้อมมอบกรมธรรม์ดีที่สุดให้คุณเสมอ สามารถเข้ามา “เปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง