ไม่ว่าใครก็อยากให้รถยนต์สวย เหมือนใหม่อยู่ตลอด แต่ถ้าวันหนึ่งเผลอทำให้รถยนต์เป็นรอยกวนใจ แจ้งเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 ได้ไหม ? หรือถ้าเกิดอุบัติเหตุจนได้รับความเสียหายเป็นแผลค่อนข้างใหญ่ แบบนี้เคลมสีรอบคัน ประกันชั้น 1 ได้หรือเปล่า ? หากคุณกำลังหาคำตอบในเรื่องนี้เผื่อเอาไว้ มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจมาให้แล้ว ตามไปทำความเข้าใจกันเลย
เคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 ได้ไหม ?
คำตอบคือ สามารถทำได้ เพราะเงื่อนไขในประกันครอบคลุมการแก้ไขความเสียหายของ ‘พื้นที่เฉพาะจุด’ เช่น รอยขีดข่วนเล็กน้อยที่ทำให้เกิดความเสียหายเฉพาะจุด เป็นต้น
แต่ถ้าในกรณีที่ไม่มีประกันชั้น 1 แล้วอยากทําสีรถยนต์เฉพาะจุดบ้าง คุณจะต้องควักจ่ายเองทั้งหมด ซึ่งปกติแล้วราคาในการทำจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับอู่ที่เข้าใช้บริการ ส่วนทําสีรถยนต์ใหม่ทั้งคัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 8,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับการประเมินราคาของอู่ที่เข้าไปใช้บริการด้วยเช่นกัน
เคลมสีเฉพาะจุด vs เคลมสีรอบคัน ต่างกันยังไง ?
ก่อนตัดสินใจเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 หรือเคลมสีรอบคัน ประกันชั้น 1 อยากให้ความเข้าใจให้ดีก่อนว่าทั้งสองแบบต่างกันยังไง เพื่อให้ตัดสินใจเลือกเคลมประกันได้ง่ายขึ้น โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
- ทำสีรถยนต์เฉพาะจุด : มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เหมาะกับคนที่ชอบซ่อมสีรถเฉพาะจุดเล็ก ๆ ด้วยวิธีการเคาะ, ปะ หรือโป๊วสี แต่การซ่อมเฉพาะจุดแบบนี้ แนะนำว่าควรเลือกอู่ซ่อมที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้จุดที่มีการซ่อมแซมเป็นสีเดียวกันกับสีตัวถังเดิม
- ทำสีรถยนต์ทั้งคัน : แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เพราะช่างทำสีต้องลอกสีเก่าออกทั้งหมด และผสมสีใหม่เพื่อให้เป็นสีเดียวกันทั่วตัวถังตามความต้องการของคุณ
ดังนั้นถ้าความเสียหายหรือร่องรอยขีดข่วนที่ปรากฏบนรถ มีเพียงไม่กี่ส่วน ควรเลือกทําสีรถยนต์เฉพาะจุด ไปก่อน เว้นแต่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุจนมีร่องรอยความเสียหายรอบคัน แบบนั้นค่อยเลือกทำสีรถยนต์ทั้งคันจะดีกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการและเงื่อนไขการคุ้มครองของประกัน แนะนำให้เปรียบเทียบประกันรถยนต์ และสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีก่อน
5 ข้อควรรู้ ก่อนตัดสินใจเคลมสีรอบคัน ประกันชั้น 1
สำหรับคนที่อยากทำสีรถยนต์ทั้งคัน แม้จะสามารถทำได้ แต่มีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันสักหน่อย ซึ่ง มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้รวบรวม 5 ข้อควรรู้มาให้แล้ว จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน
ต้องมีประกันชั้น 1
เนื่องจากการทำสีรถยนต์ทั้งคัน เป็นการเคลมในกรณีพิเศษ คือ จะทำการเก็บรายละเอียดต่าง ๆ รอบทั้งคันให้กับรถของผู้ถือประกัน แต่ความคุ้มครองนี้จะมีเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น หากเป็นประกันชั้นอื่น ๆ คุณจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง เนื่องจากไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครอง
อาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)
ในส่วนค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) จะขึ้นอยู่กับบริษัทประกันที่เลือกทำ ส่วนรอยแผลใหญ่จะเก็บอยู่ที่ ‘จุดละ’ 1,000 บาทเป็นมาตรฐานขั้นต้น สำหรับบางคนที่ไม่เสีย อาจเพราะว่าแจ้งได้ว่ารอยแผลเกิดจากอะไร นอกจากนี้ยังต้องรับผิดชอบค่าเหมารวมความเสียหายรอบคัน ราว ๆ 1,000-8,000 บาท แล้วแต่เงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ของแต่ละบริษัท
อย่าแจ้งบริษัทประกัน ว่าจะเคลมรอบคัน
ให้ค่อย ๆ แจ้งจุดที่ต้องการจะเคลมว่ามีกี่แผล เกิดจากอะไร เกิดที่ไหน และค่อย ๆ เก็บหลักฐานและแผลไป เพราะหากประกันกำลังจะหมด และต้องการต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิม อาจทำให้ค่าเบี้ยปีต่อไปสูงขึ้น แทนที่จะได้ส่วนลดค่าเบี้ย (ส่วนลดประวัติดี) แต่หากจะเปลี่ยนบริษัทประกัน ก็จัดการเคลมเยอะ ๆ ไปเลย
เคลมสีทั้งคันในครั้งเดียว ทำได้ไหม?
ตามหลักความเป็นจริง ไม่มีเหตุการณ์ใดที่ทำให้รถเป็นรอยได้ทั้งคันขนาดนั้น แต่ถ้าคุณแจ้งกับบริษัทฯ ได้ว่าแผลต่าง ๆ เกิดจากอะไร มีเหตุผลและหลักฐานที่น่าเชื่อถือ บริษัทอาจพิจารณาให้เคลมได้ โดยค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) จะอยู่ที่ประมาณ 6,000-8,000 บาท บางครั้งอาจถูกเรียกเพิ่ม 15,000 บาท หรือ 25,000 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสี ชุดเคลียร์ แลกเกอร์ที่สูงกว่ามาตรฐานปกติของอู่/ศูนย์นั้น ๆ
แจ้งเคลมบ่อย ๆ สะสมเคลมไปเรื่อย ๆ
เพราะบางบริษัทอาจลดหย่อนค่าเสียหายส่วนแรกได้ ซึ่งปกติที่อาจต้องจ่าย 4,000-8,000 บาท แต่ถ้าไม่อยากจ่ายค่า Excess เลย ให้ค่อย ๆ แจ้งเคลม หรือจะเป็นเคลมแห้งก็ได้ แต่ต้องไม่เกิน 2-3 วันนับจากวันที่เกิดเหตุ สะสมเคลมไปจนครบทั้งคันแล้วค่อยเคลม จะเสียค่า Excess น้อยกว่าแจ้งทีเดียว
เลือกแบบไหนดี ระหว่างทำสีรถยนต์รอบคัน และทําสีรถยนต์เฉพาะจุด ?
หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจไปแล้วว่า การทำสีรถยนต์ทั้งคันและการทําสีรถยนต์เฉพาะจุด ต่างกันยังไง หลายคนก็เกิดความสงสัยตามมาว่า ในท้ายที่สุดควรเลือกแบบไหนดี ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์มากกว่า ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปัญหาที่พบ, สภาพรถ หรือความต้องการคุณเป็นหลัก หากรถมีสีที่ดูเสื่อมสภาพ หรือมีรอยขีดข่วนทั่วทั้งคัน การเคลมสีรอบคันจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
แต่ถ้าหากรถของคุณมีแค่รอยขีดข่วนบางจุด หรือมีความเสียหายเฉพาะที่น้อยมาก ๆ การทําสีรถยนต์เฉพาะจุด อาจเหมาะกว่า แถมยังช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ๆ อีกด้วย หรือในกรณีที่ไม่ได้ซีเรียสกับร่องรอยดังกล่าวขนาดนั้น จะปล่อยทิ้งเอาไว้แล้วค่อยแจ้งเคลมทีเดียวตอนที่มีรอยเยอะกว่านี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน
ไม่ว่ารถของคุณจะเป็นรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ กวนใจ หรือเป็นแผลใหญ่จากอุบัติเหตุรุนแรง สามารถแจ้งเคลมสีรถเฉพาะจุด ประกันชั้น 1 และเคลมสีรอบคัน ประกันชั้น 1 ได้เลย แต่ขอย้ำอีกครั้งว่าต้องเป็น “ประกันชั้น 1” เท่านั้น หากทำประกันประเภทอื่นจะต้องควักค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งทําสีรถยนต์ทั้งคัน ราคาสูงเอาเรื่อง หากประเมินแล้วรถของคุณเสี่ยงต่อการเป็นรอยรอบคัน การพิจารณาประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุม ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์กว่า
คำจำกัดความ
ค่า Excess | ค่าเสียหายส่วนแรกแบบภาคบังคับ |
ผู้ถือประกัน | บุคคลหรือนิติบุคคลที่ระบุชื่อเป็นผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยในตารางกรมธรรม์ประกันภัยนี้ ซึ่งเป็นผู้จัดให้มีการประกันภัยเพื่อประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย และ เป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัย |
ส่วนลดประวัติดี | ส่วนลดค่าเบี้ยประกันสำหรับรถยนต์ที่ไม่เคยแจ้งเคลม ไม่แจ้งซ่อม ไม่แจ้งเปลี่ยนอะไหล่ และไม่เคยเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ตลอดอายุกรมธรรม์ |