เมื่อพูดถึง “ค่าเสียหายส่วนแรก” ของประกันภัยรถยนต์ เชื่อว่าคนมีรถหลายคนคงยังสับสนอยู่ไม่น้อย ว่าสรุปแล้วคือค่าอะไร แล้วต้องจ่ายตอนไหน ค่า Excess ใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ยประกันหรือจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเมื่อจะเคลมประกันภัยกันแน่ ? หากคุณเป็นหนึ่งคนที่สงสัยและพยายามหาคำตอบเรื่องนี้ก่อนตัดสินใจซื้อรถใหม่ มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมทุกประเด็นที่เป็นประโยชน์มาให้แล้ว ไปทำความเข้าใจกันหน่อยดีกว่า
ค่า Excess คืออะไร ?
มาเจาะลึกกันหน่อยดีกว่า ค่า Excess คือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ ที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่มีคู่กรณี ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ถูกกำหนดไว้โดยเป็นข้อกำหนดตามมาตรฐานที่มีอยู่ในกรมธรรม์ทุกฉบับ หากคุณไม่สามารถระบุสาเหตุที่รถยนต์บุบ แตก มีรอยขีดข่วน รวมถึงไม่สามารถระบุรายละเอียดของคู่กรณีได้ ไม่ว่าจะเป็นวัน เวลา สถานที่ เลขทะเบียนรถ สถานการณ์แบบนี้นี่เองที่คุณจะต้องจ่ายค่า Excess
ต้องจ่ายค่า Excess กี่บาท ?
อ้างอิงจากข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเสียค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับ (Excess) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจการประกันภัย (คปภ.) ที่กำหนดใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2552 เป็นต้นไป โดยมีข้อสรุปไว้ว่า “รถที่ทำประกันหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2552 เป็นต้นไป เมื่อเกิดเหตุการณ์รถชน ไม่มีคู่กรณี เมื่อแจ้งเคลมประกันภัยจะต้องเสียค่า Excess จำนวน 1,000 บาทต่อเหตุการณ์”
ตัวอย่าง : หากรถของคุณโดนก้อนหินตกใส่รถ และขับรถเหยียบตะปูพร้อมกัน แบบนี้จะนับเป็น 2 เหตุการณ์ เท่ากับว่าจะต้องจ่ายค่า Excess เป็นเงิน 2,000 บาทนั่นเอง
ค่า Excess จ่ายตอนไหนบ้าง ?
หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจค่า Excess ไปคร่าว ๆ แล้ว คำว่า “รถชนไม่มีคู่กรณี” อาจจะกว้างเกินไป ถ้าอย่างนั้นเราลองมาจำกัดความให้แคบลงกันหน่อยดีกว่า ซึ่งกรณีไหนบ้างที่เจ้าของรถจะต้องจ่ายค่า Excess ตามไปเจาะลึกกันเลย
1. กรณีได้รับความเสียหาย ที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ
- ความเสียหายจากการกลั่นแกล้ง มุ่งร้าย : จ่ายค่า Excess เมื่อรถยนต์ได้รับความเสียหายจากร่องรอยที่เกิดจาก “การกระทำของบุคคล” แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำผิด รวมถึงวันเวลาเกิดเหตุ และสถานที่ที่รถคันเอาประกันได้รับความเสียหายได้อย่างชัดเจน เช่น รถถูกใครก็ไม่รู้ทุบทำลาย หรือใส่สิ่งของขูด/ขีดให้เป็นรอย
- ความเสียหายจากการกระทบของวัตถุหรือสิ่งของ : จ่ายค่า Excess เมื่อรถได้รับความเสียหาย เฉพาะพื้นผิวของสีรถ ไม่รวมกรณีความเสียหายบุบ แตก ร้าวหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวรถ หรืออุปกรณ์ในรถ และไม่รวมความเสียหายจากภัยธรรมชาติที่ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย (ยกเว้นสีรถ) เช่น ความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม เป็นต้น
2. กรณีได้รับความเสียหายจากการชน หรืออื่น ๆ ที่ระบุคู่กรณีไม่ได้
- รถชนรถคันอื่นเสียหาย
- รถถูกรถคันอื่นเฉี่ยวชน หรือชนแล้วหนี
- รถลื่นไถลตกข้างทาง แต่ไม่ได้พลิกคว่ำ
ประกันชั้น 1 เสียค่า excess ไหม ?
หนึ่งในประเด็นที่คนซื้อรถใหม่สงสัยกันมากที่สุด คือ การเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่มีคู่กรณี ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ทำไมถึงยังต้องควักจ่ายค่า Excess ด้วยล่ะ ? คำตอบคือเพราะบริษัทประกันภัยกลัวว่าผู้เอาประกันจะ ‘ลักไก่’ ขอเคลมประกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง เพื่อเจตนาในการซ่อมรถฟรี เช่น อยากทำสีรถใหม่เลขขับรถชนรั้วบ้าน เพื่อให้มีร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น
ทั้งนี้ หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุจริง ไม่ใช่เจตนาลักไก่เพื่อหวังทำสีรถฟรี มิสเตอร์ คุ้มค่า ก็ได้รวบรวมวิธีเคลมประกันรถยนต์ ไม่มีคู่กรณีแบบไม่เสียค่า Excess มาให้ด้วยเช่นกัน แต่จะมีวิธีเคลมประกันรถยนต์ยังไงบ้าง ทำความเข้าใจกันต่อในหัวข้อถัดไปได้เลย
เคลมประกันภัยยังไง ไม่เสียค่า Excess ?
ไม่อยากควักจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับไม่ยากอย่างที่คิด แถมไม่ต้องใช้กลอุบายอะไรให้ปวดหัว เพียงทำตามวิธีเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 ดังต่อไปนี้ก็ช่วยประหยัดเงินได้มากแล้วล่ะ
1. เกิดอุบัติเหตุปุ๊บ เคลมปั๊บ
อันดับแรกเมื่อรถของคุณเกิดอุบัติเหตุ หรือได้รับความเสียหาย ให้ทำการ “แจ้งเคลมสด” ทันที ไม่ควรปล่อยให้เวลาล่วงเลยนานเกินไป เพราะนี่คือขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่คิดค่า Excess จากการประเมินรอยแผลและสำรวจที่เกิดเหตุ ทำให้ง่ายต่อการพิจารณารับเคลมตามเงื่อนไขกรมธรรม์
2. แจ้งเคลมประกันภัยแบบรวมแผล
หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ว่าการเคลมประกันภัยแบบไม่เสียค่า Excess สามารถแจ้งเคลมอะไหล่ได้สูงสุด ‘ครั้งละ’ 5 ชิ้น สามารถทำได้ 1-2 ครั้งตลอดอายุกรมธรรม์และเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด ถ้าอยากจะแจ้งเคลมประกันหลายแผล แนะนำให้แบ่งเป็นรอบ ๆ จะได้ไม่เสียค่า Excess ครั้งละหลายพันบาท
3. ระบุความเสียหายให้ชัดเจน
หากรถยนต์มีร่องรอยความเสียหาย บุบ แตก ร้าวที่ชัดเจน แบบนี้ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประกันได้เลย เพราะความเสียหายที่ชัดเจนแบบนี้ เจ้าหน้าที่ประกันเข้าใจดีว่าเป็นเหตุที่ค่อนข้างรุนแรง ไม่เหมือนกับรอยครูด หรือรอยขีดข่วนบาง ๆ อย่างหินกระเด็นใส่รถ จึงไม่ต้องเสียค่า Excess
4. เลิกตอบคำถามว่าจำไม่ได้ หรือไม่รู้
คำว่า “จำไม่ได้ ไม่รู้” อาจเป็นคำพูดติดปากของคนที่ไม่อยากพูดอะไรเยอะ แต่ถ้าคุณไม่อยากเสียค่า Excess อย่าได้คิดพูด 2 คำนี้ออกมาเด็ดขาด แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณีก็ตาม แนะนำให้อธิบายลักษณะการเฉี่ยวชน หรือรายละเอียดตอนเกิดเหตุให้ดี
ถ้านึกไม่ออกจริง ๆ ให้ลองหาวัตถุที่ใกล้เคียงกับรอยแผลมาประกอบการอธิบาย ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ช่วยลดความยุ่งยากในการอธิบายได้เยอะ เช่น ถอยรถไปโดนรั้วบ้าน, โดนมอเตอร์ไซค์ขูดตอนติดไฟแดง ฯลฯ เพราะทางบริษัทจะมองว่าเป็นการชนแบบมีที่มาที่ไป
เนื่องจากบริษัทประกันแต่ละแห่ง มีข้อกำหนดและเงื่อนไขการเคลมประกันรถยนต์แตกต่างกันออกไป แนะนำให้สอบถามรายละเอียดรวมถึงเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ดี เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวคุณเอง
จริง ๆ แล้วข้อดีของการเรียกเก็บค่า Excess ตามข้อกำหนดของ คปภ. ถือว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ดีเลยล่ะ เพราะผู้ขับขี่จะระมัดระวังมากขึ้น แม้จะเป็นการเคลมประกันรถยนต์ชั้น 1 ไม่มีคู่กรณี แต่ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ก็ยังต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกประเภทนี้อยู่ดี จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากคุณเป็นหนึ่งคนที่คิดจะซื้อรถใหม่ อยากให้ทำความเข้าใจประเด็นนี้ให้ดีก่อน เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมาในภายหลัง
คำจำกัดความ
กำจัดความ | ให้ความหมายอย่างกะทัดรัด กําหนดความหมาย |
ไถล | ลื่นเฉไปโดยไม่ทันตั้งหลัก |
ลักไก่ | ใช้อุบายลวงให้หลง, หลอกล่อให้เข้าใจผิด |