อยากประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการล้างรถเอง หรือใช้บริการล้างรถเอง หยอดเหรียญ แต่สุดท้ายพังไม่เป็นท่า รถเป็นรอยแบบงง ๆ แถมยังเป็นรอยที่คอยกวนใจอยู่ตลอด แบบนี้เจ้าของรถจะเคลมได้ไหม มีเงื่อนไขในการเคลมประกันอย่างไรบ้าง มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้แล้ว ตามไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันได้เลย
ล้างรถเองยังไงให้เหมือนใหม่ ไร้รอยกวนใจ ?
สำหรับคนที่ไม่สะดวกนำรถเข้าใช้บริการคาร์แคร์ หรือมีเวลา และอยากดูแลรถเอง แต่ไม่รู้ว่าจะต้องล้างยังไงให้ใสกิ๊ง ไร้รอยขีดข่วน มิสเตอร์ คุ้มค่า ลิสต์ Howto ล้างรถฉบับมือโปรมาให้แล้ว จะมีขั้นตอนยังไง มีอุปกรณ์อะไรที่ต้องเตรียมบ้างตามไปดูกันเลย
อุปกรณ์ล้างรถที่ต้องมี
- แชมพูหรือน้ำยาล้างรถ
- สายยางหรือที่ฉีดน้ำแรงดันสูง
- ฟองน้ำหรือถุงมือล้างรถ
- แปรงล้างล้อ
- ถังน้ำ
- ผ้าไมโครไฟเบอร์
How to ล้างรถเองฉบับมือโปร
- ฉีดน้ำล้างไล่ฝุ่นออกให้หมดก่อน
- ล้างขัดล้อให้สะอาด และอย่าลืมล้างบังโคลนด้วย
- ล้าง ขัด ถูจากด้านบนลงด้านล่าง โดยไม่ต้องออกแรงให้มากมาย
- ฉีดน้ำสะอาดเพื่อล้างน้ำยาล้างรถออกให้หมด
- ใช้ผ้าเช็ดให้แห้งป้องกันคราบ
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นฟองน้ำล้างรถ หรือผ้าไม่โครไฟเบอร์ ควรใช้แยกส่วนกันเสมอ อันไหนใช้ล้างล้อก็ล้างล้อไปตลอด อย่าน้ำมาล้าง ขัด ถู ตัวถังรถเด็ดขาด เพราะเศษหินหรือเศษต่าง ๆ ที่ติดมากับล้ออาจขูดจนรถสีถลอกได้นั่นเอง
ล้างรถเองแล้วรถเป็นรอย เคลมประกันรถยนต์ได้ไหม ?
ในกรณีที่เกิดรอยจากการล้างรถเอง ไม่ว่าจะล้างกับที่ล้างรถเอง หรือล้างรถเอง หยอดเหรียญ ร้านล้างรถด้วยตัวเอง รวมถึงเกิดความเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการล้างรถด้วยตัวเอง ผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ แต่ต้องเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้น โดยเงื่อนไขจะเป็นไปตามการพิจารณาของบริษัทฯ และส่วนใหญ่จะเป็นการเคลมแบบเคลมแห้ง
ในขณะที่ประกันชั้นอื่น ๆ เช่น ชั้น 2+, 3+, 2 หรือ 3 จะไม่ได้รับความคุ้มครองในกรณีนี้ เนื่องจากถือเป็น “อุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี” หากเกิดความเสียหายเนื่องจากล้างรถเองแล้วรถสีถลอก ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถด้วยตัวเอง
รู้ก่อนเคลม เคลมแห้ง vs เคลมสด คืออะไร ต่างกันยังไง ?
เชื่อว่าผู้เอาประกันหลายคนคงสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าเคลมสด vs เคลมแห้ง คืออะไร ต่างกันยังไง มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้แล้ว ไปทำความเข้าใจก่อนแจ้งเคลมกันเลย
เคลมสด
คือ การเคลมที่ต้องการให้พนักงาน/เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยรถยนต์ ออกตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุทันที เช่น รถชนแบบมีคู่กรณี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือรถยนต์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งการเคลมแบบนี้ผู้เอาประกันหรือคู่กรณีจะได้รับใบหลักฐานในการติดต่อค่าเสียหาย (ใบเคลม) จากพนักงานสำรวจภัย สามารถนำไปติดต่อซ่อมที่อู่หรือศูนย์ซ่อมในเครือของบริษัทประกันได้ทันที
การเคลมประกันแบบเคลมแห้ง
คือ การเคลมประกันรถยนต์ที่ไม่ต้องการให้พนักงานสำรวจภัย เดินทางมาตรวจสอบ ณ ที่เกิดขึ้น เช่น รถคันเอาประกันเสียหายเล็กน้อย และไม่มีคู่กรณี หรือล้างรถเองแล้วรถสีถลอก ซึ่งการเคลมประกันประเภทนี้ ผู้เอาประกันสามารถนำรถคันเอาประกัน เข้าไปติดต่อซ่อมที่อู่ในเครือได้ตลอดเวลาที่ผู้เอาประกันสะดวกทั้งนี้ต้องก่อนกรมธรรม์หมดอายุ
ความแตกต่างระหว่างการเคลมสด vs เคลมแห้ง คือ “ระยะเวลาการแจ้งเคลม” ถ้าหากเป็นอุบัติเหตุอย่างหนัก รถเสียหายมาก หรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บอันเนื่องมาจากเหตุนั้น ๆ แล้วแจ้งเคลมทันที แบบนี้จะเรียกว่า “เคลมสด” แต่ถ้าเป็นอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่แจ้งเคลมทันทีหลังเกิดเหตุแบบนี้จะเรียกว่า “ เคลมแห้ง ” นั่นเอง
เมื่อล้างรถเองแล้วรถเป็นรอย ทำไมถึงนิยมเคลมแห้ง ?
เมื่อไหร่ก็ตามที่รถยนต์คันโปรดเป็นรอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ คอยกวนใจ หรือรอยขูดลึก แล้วหลายคนไม่อยากแจ้งเคลมประกันเพื่อทำสีใหม่ในทันที และเลือกที่จะสะสมรอยขูดรถ รอยกรีดรถไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นการ “ เคลมแห้ง “ เป็นเพราะไม่อยากให้รถมีประวัติแจ้งเคลมบ่อย ๆ แล้วจะส่งผลกระทบต่อเบี้ยประกันรถยนต์ที่แพงขึ้นในปีถัดไป แม้จะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเมื่อแจ้งเคลม ก็ดีกว่ามีประวัติเคลมหลายรอบ
เนื่องจากบริษัทประกันรถยนต์แทบทุกบริษัท จะมี “ส่วนลดขับขี่ประวัติดีให้กับผู้เอาประกันในทุก ๆ ปี” ยิ่งถ้าหากไม่มีการแจ้งเคลมเลย หรือเคลมน้อยมาก ก็จะมีโอกาสได้รับส่วนลดเบี้ยประกันไปเรื่อย ๆ สูงสุด 50% กันเลยทีเดียว
พาหาคำตอบ ประกันรถยนต์แบบไหนเหมาะกับคุณ ?
อย่างที่ทราบกันว่าในปัจจุบันมีแผนประกันรถให้เลือกหลากหลาย และแต่ละชั้นก็ให้ความคุ้มครอง และมีราคาค่าเบี้ยแตกต่างกันอย่างชัดเจน แล้วจะต้องเลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด? แนะนำให้พิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ก่อนตัดสินใจจะดีกว่า
1. เลือกประกันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ก่อนอื่นต้องพิจารณาไลฟ์สไตล์การขับรถของตัวเองให้ดีก่อน ว่าใช้รถเป็นยังไง ใช้มากหรือใช้น้อย? ขับในเมืองเป็นหลัก หรือขับออกต่างจังหวัดบ่อยกว่า? รวมถึงมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากน้อยแค่ไหน คุณเป็นมือใหม่หัดขับหรือมีความชำนาญในการขับขี่ หากตอบคำถามทั้งหมดนี้ได้ จะช่วยให้เลือกซื้อประกันรถยนต์ได้ถูกใจ และตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น
2. เลือกซื้อกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ
เพื่อความมั่นใจ อุ่นใจตลอดกรมธรรม์ สามารถเคลมสด เคลมแห้งได้โดยไม่มีอุปสรรค แนะนำให้เลือกบริษัทที่มีชื่อเสียง ได้รับความไว้วางใจ มีบริการที่ครอบคลุม รวมถึงมีบริการหลังการขายที่ดี พร้อมดูแลเอาใจใส่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ในส่วนของขั้นตอนการแจ้งเคลมสด เคลมแห้งไม่ยุ่งยาก มีศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมในเครือที่ครอบคลุม หากเลือกได้เป้ะตามที่เราบอกไป ก็ช่วยให้คุณสบายใจได้ในระดับหนึ่งแล้วล่ะ
นอกจากจากเลือกซื้อประกันตามที่เราบอกไปข้างต้นแล้ว อย่าลืมเปรียบเทียบประกันรถยนต์แต่ละบริษัทที่เชื่อถือได้แต่ละเจ้าให้ดีก่อน เพราะแต่ละบริษัทมักให้ส่วนลด ข้อเสนอ และโปรโมชั่นที่แตกต่างกันออกไป หากเลือกได้ดีก็จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ๆ แล้วล่ะ
ร่องรอยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์คันโปรด เช่น รถสีถลอกเนื่องจากล้างรถเอง หรือเกิดจากการเฉี่ยวชนเล็ก ๆ น้อย ๆ บนท้องถนน ทำให้ต้องเคลมแห้งอยู่บ่อย ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด ดังนั้นเพื่อความอุ่นใจที่มากขึ้น แนะนำให้ซื้อประกันที่ให้ความคุ้มครองตอบโจทย์ โดยเฉพาะประกันชั้น 1 ที่สามารถแจ้งเคลมรอบคันได้ก่อนกรมธรรม์หมดอายุ ไม่เสี่ยงต่อการเสียประวัติเนื่องจากแจ้งเคลมบ่อย ๆ
คำจำกัดความ
บังโคลน | เครื่องบังเหนือล้อรถ ป้องกันไม่ให้โคลนกระเด็นขึ้นมาเปื้อนรถ |
ไลฟ์สไตล์ | วิถีชีวิต, การดำเนินชีวิต, กิจกรรมที่ชอบทำ |
บริการหลังการขาย | การสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องหลังจากลูกค้าซื้อสินค้าหรือใช้บริการไปแล้ว |