ทำไมประกันรถยนต์ชั้น 3 รถเก่าถึงเป็นที่นิยม ให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ?

ทำประกันรถเก่าแบบไหนดี คุ้มครองครบ แถมยังคุ้มค่าเบี้ย ?

ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือรถเก่าที่มีอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป ก็เสี่ยงเกิดเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนนได้ทั้งนั้น จึงเป็นเหตุผลที่ควรทำประกันไว้ เผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้มั่นใจว่ามี ‘ตัวช่วย’ เรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อาจตามมา ซึ่งถ้าหากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรทำประกันชั้นไหนดี มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมแผนประกันที่เหมาะกับการใช้งานรถในช่วงต่าง ๆ มาให้แล้ว

• 1. รถอายุไม่เกิน 5 ปี

  สำหรับรถอายุไม่เกิน 5 ปี ถือเป็นรถใหม่ ควรเลือกทำประกันชั้น 1 เพื่อให้ครอบคลุมรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการชนแบบมีหรือไม่มีคู่กรณี รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ซึ่งถือเป็นแผนประกันที่ตอบโจทย์มือใหม่ที่เพิ่งออกรถมาหมาด ๆ อีกด้วย

• 2. รถอายุระหว่าง 5-7 ปี

  ในส่วนของรถที่มีอายุระหว่าง 5-7 ปี ถือเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาสักระยะหนึ่งแล้ว ผู้ขับขี่ก็มีประสบการณ์มากขึ้น อาจเปลี่ยนมาทำประกันชั้น 2+ หรือชั้น 2 ที่คุ้มครองอย่างครบถ้วน แต่ค่าเบี้ยถูกกว่าก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

• 3. รถอายุระหว่าง 7-15 ปี

  สำหรับรถเห่า มีอายุมาก ค่าเบี้ยอาจจะถูกลง แต่ก็ลดตามทุนประกันไปด้วย ดังนั้นหากคุณใชรถมานานกว่า 10 ปีขึ้นไป ควรเขยิบแผนประกันมาเป็นประกันรถยนต์ รถ เก่าชั้น 2+ หรือ 3+ ที่คุ้มครองอุบัติเหตุรถชนรถ หากเกิดปัญหาก็สบายใจได้ว่ามีคนช่วยดูแล

ประกันรถยนต์ชั้น 3 รถเก่า ให้ความคุ้มครองยังไงบ้าง ?

แต่ถ้าหากคุณมองว่ารถคันโปรดของคุณ ที่ทั้งเก่าและไม่ค่อยใช้งาน เหมาะกับประกันรถยนต์ชั้น 3 รถเก่ามากกว่า ถ้าอย่างนั้นลองมาทำความรู้จัก ‘ความคุ้มครอง’ ของประกันชั้นนี้กันหน่อยดีกว่า ว่าจริง ๆ แล้วมันตอบโจทย์ได้จริงแท้แค่ไหน

• 1. ความเสียหายของรถยนต์คู่กรณี

  หากเป็นการชนแบบมีคู่กรณี และคุณเป็นฝ่ายผิดหรือประมาทร่วม ประกันชั้น 3 รถเก่า จะให้ความคุ้มครองความเสียหายแก่รถยนต์ของคู่กรณีเท่านั้น หมายความว่าคุณจะต้องจ่ายค่าซ่อมรถของตัวเองคนเดียวทั้งหมด เว้นแต่ว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นคุณจะเป็นฝ่ายถูก ทางประกันของอีกฝ่ายต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถของคุณ รวมถึงจ่ายค่าสินไหมทดแทน และค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

  นอกจากนี้ ‘ฝ่ายถูก’ สามารถเรียกค่าทำขวัญได้อีกด้วย แต่ก็มีรายละเอียดหลายอย่างที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม เนื่องจากค่าทำขวัญไม่ได้มีภาระผูกพันตามกฎหมาย แต่เป็น ‘ค่าตกใจ’ ที่ฝ่ายผิดสมัครใจจ่ายให้แก่ผู้เสียหาย เพื่อเป็นการเยียวยาความเสียหายทางกาย และจิตใจจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

• 2. ความเสียหายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

  แม้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 3 รถเก่า จะเคลมค่าซ่อมรถของตัวเองไม่ได้ (กรณีเป็นฝ่ายผิด) แต่สามารถเคลมค่ารักษาพยาบาล การสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และการเสียชีวิตของผู้ขับขี่และบุคคลภายในรถได้ อีกทั้งยังคุ้มครองเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลด้วย

• 3. ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก

  และถึงแม้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 3 รถเก่า จะมีความคุ้มครองที่ค่อนข้างจำกัด เมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ แต่ก็คุ้มครองทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล การบาดเจ็บและการเสียชีวิตของบุคคลภายนอก ตามวงเงินประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งเป็น ‘ความคุ้มครองพื้นฐาน’ ที่เพียงพอสำหรับความคุ้มครองขั้นต่ำตามกฎหมาย

• 4. ค่าประกันตัวผู้ขับขี่

  หากผู้ขับขี่ถูกคุมขัง มีความผิดทางอาญา ประกันชั้น 3 รถเก่าจะจ่ายค่าประกันตัวให้ โดยที่ครอบครัวของผู้ขับขี่ไม่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เลย

  เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจมองว่าประกันชั้น 3 รถเก่า ให้ความคุ้มครองค่อนข้างจำกัดจริง ๆ แต่มันยังจำกัดได้มากกว่านั้น ซึ่งจะมีปัจจัยอะไรบ้างที่ประกันชั้น 3 ไม่ให้ความคุ้มครอง ตามไปทำความเข้าใจในหัวข้อถัดไปกันได้เลย

รู้หน่อย ประกันชั้น 3 รถเก่าไม่คุ้มครองกรณีไหนบ้าง ?

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3 รถเก่า มาแล้ว เรามาดูกันหน่อยดีกว่าว่าอะไรบ้าง ที่ประกันชั้น 3 จะไม่ให้ความคุ้มครอง เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถยนต์ รถ เก่าได้แยบยลมากขึ้น

• 1. ค่าซ่อมรถเรา

  เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนแล้วรถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าซ่อมเองทั้งหมด ไม่สามารถเคลมประกันได้ เว้นแต่ว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายผิด ต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าซ่อมรถของคุณแทน แต่ถ้าหากประมาทร่วม คู่กรณีไม่ยอม เมื่อศาลตัดสินว่าฝ่ายใดประมาทกว่า ฝ่ายนั้นต้องรับผิดชอบค่าเสียหายให้อีกฝ่าย

• 2. การชนแบบไม่มีคู่กรณี

  ประกันรถยนต์ชั้น 3 ไม่คุ้มครองการชนแบบไม่มีคู่กรณี มีแค่ประกันรถยนต์ชั้น 1 รถเก่าเท่านั้นที่คุ้มครอง หากรถของคุณจอดอยู่เฉย ๆ แล้วต้นไม้ล้มใส่รถ แม้จะเป็นเหตุสุดวิสัยแต่ประกันชั้น 2 รถเก่าก็ไม่จ่ายอยู่ดี แต่คุณสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากเจ้าของต้นไม้ได้

• 3. รถหาย ไฟไหม้ ถูกโจรกรรม

  ไม่ว่าจะรถหาย ไฟไหม้ ถูกโจรกรรม ทั้งหมดนี้ไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 3 รถเก่า เนื่องจากมีเบี้ยประกันที่ค่อนข้างถูก จึงไม่ครอบคลุมความเสียหายในส่วนนี้ทั้งหมด

• 4. ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ

  นอกจากนี้ ‘ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ’ ก็ไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครองด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะน้ำป่าไหลหลาก พายุ แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือสึนามิ ผู้เอาประกันจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพียงคนเดียว

หากมองว่าประกันรถยนต์ชั้น 3 รถเก่า ในท้ายที่สุดไม่ได้คุ้มครองครอบคลุมเท่าที่คุณต้องการ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าความคุ้มครองค่อนข้างจำกัด แต่ก็ไม่คิดว่าจะจำกัดขนาดนี้ และอยากจะเปลี่ยนไปทำประกันชั้น 1 รถเก่าแทน แบบนี้สามารถทำได้ไหม มีปัจจัยอะไรที่ต้องรู้ก่อนบ้าง ตามไปทำความเข้าใจในหัวข้อถัดไปกันเลยดีกว่า

รถเก่าเกิน 10 ปี ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้ไหม ?

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากซื้อความคุ้มครองที่แสนจะครอบคลุมให้กับรถคู่ใจ และกำลังหาคำตอบว่ารถเกิน 10 ปี ทําประกันชั้น 1 ได้ไหม ? คำตอบคือทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อประกันกับบริษัทเดิม หรือทำประกันชั้น 1 กับที่ใหม่ก็ตาม ทั้งนี้เกณฑ์การพิจารณาจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทเป็นหลัก ดังรายละเอียดต่อไปนี้

• 1. สภาพรถ

  ไม่ว่าจะเป็นการต่อประกันชั้น 1 รถเก่า หรือทำประกันชั้น 1 เป็นครั้งแรก ภาพรถต้องดูดีก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งคำว่า ‘ดูดี’ ในที่นี้ นอกจากจะหมายถึงสภาพภายนอกและภายในของรถแล้ว ยังเหมารวมถึงเครื่องยนต์และอะไหล่ต่าง ๆ ด้วย หากสภาพสมบูรณ์ 100% และเป็นยี่ห้อหรือรุ่นที่สามารถหาอะไหล่ได้ตามต้องตลาด ก็มีโอกาสที่บริษัทจะพิจารณาให้ทำประกันชั้น 1 รถเก่าได้

• 2. ประวัติผู้เอาประกัน

  ทั้งนี้ ‘ประวัติผู้เอาประกัน’ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นประวัติการขับขี่ หากไม่เคยมีประวัติเสีย ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด อาจจะมีการแจ้งเคลมบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายถูก ตรงนี้ก็สบายใจ หายห่วงได้เลย เพราะถือเป็นประวัติดีมีสิทธิ์ทำประกันชั้น 1 ได้

  ส่วนต่อมา คือ ประวัติการชำระเบี้ยประกันที่ผ่าน ๆ มา จ่ายค่าเบี้ยสม่ำเสมอหรือไม่ มีประวัติค้างชำระหรือเปล่า หากไม่เคยเบี้ยว จ่ายตรงมาตลอด โอกาสที่รถเก่า ทำประกัน ชั้น 1 ได้ก็จะสูงขึ้น

• 3. ประวัติการเคลมระหว่างสัญญากรมธรรม์

  หากเช็คประวัติแล้วพบว่ามีประวัติการเคลมบ่อย โดยเฉพาะการเคลมรถชน เราเป็นฝ่ายผิด หรือแจ้งเคลมแบบไม่มีคู่กรณีบ่อย ๆ โอกาสที่ทำประกันชั้น 1 รถเก่าก็น้อยลง เพราะบริษัทประกันมองว่าผู้ขับขี่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง แต่ถ้าเคลมแบบสมเหตุสมผล เช่น เป็นฝ่ายถูก หรือสามารถระบุคู่กรณีได้ โอกาสผ่านการพิจารณาก็จะมีมากกว่า

• 4. การกำหนดค่าเสียหายส่วนแรก

  บริษัทประกันอาจกำหนดให้ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) เมื่อจะเคลมประกันชั้น 1 รถเก่า หรือเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เพราะการที่ผู้เอาประกันจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกก่อน จะช่วยให้บริษัทประกันไม่ต้องแบกรับค่าซ่อมทั้งหมดเพียงฝ่ายเดียว ช่วยเพิ่มโอกาสที่บริษัทจะอนุมัติให้รถเกิน 10 ปี รถเก่า ทำประกัน ชั้น 1 ได้

• 5. ต่อประกันกับบริษัทเดิมง่ายกว่า

  กรณีต่อประกันชั้น 1 กับบริษัทเดิม ที่เคยทำตั้งแต่รถอายุน้อย ๆ หรือพูดง่าย ๆ ว่าคุณเป็นลูกค้าประจำมาเนิ่นนาน แน่นอนว่าบริษัทประกันจะรู้ประวัติการขับขี่ ประวัติการชำระเบี้ย และประวัติการเคลมของคุณเป็นอย่างดี หากประวัติดีประกอบกับรถสภาพดี หมดกังวลได้เลย เพราะมีโอกาสสูงที่บริษัทประกันเดิมจะให้รถเก่าของคุณต่อประกันชั้น 1 ได้