เผลอขับรถชนรถหรู ความคุ้มครองประกันรถยนต์จะช่วยคุณแค่ไหน ?

คู่กรณีเป็นรถหรู ค่าซ่อมอย่างแพงทำยังไงดี ?

ยิ่งดูยิ่งน่ามองสำหรับ รถหรูราคาแพง แต่ถ้าต้องขับไปใกล้ ๆ ใจคอคนขับก็ไม่ค่อยดีแล้ว ยิ่งหากโชคร้ายหรือคุมพวงมาลัยไม่อยู่ เผลอขับชนรถหรูไม่ทันตั้งตัว ทำยังไงดี มิสเตอร์ คุ้มค่า รวมวิธีรับมือมาให้แล้ว

• 1. ตรวจสอบประกันก่อนเป็นอันดับแรก

  ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่ารถของคุณยังมีประกันรถยนต์ ความคุ้มครองอยู่หรือไม่ ขาดต่ออายุไหม เพราะถ้ายังมีก็ยังสบายใจได้เปลาะหนึ่ง เพราะความคุ้มครองประกันรถยนต์แต่ละประเภทจะรับผิดชอบให้อย่างแน่นอน

• 2. ต้องแน่ใจว่าไม่ทำผิดเงื่อนไข

  เช่น เมาแล้วขับ หรือทำประกันแบบระบุชื่อผู้ขับขี่ แต่ผู้ขับขี่ในสถานการณ์ดังกล่าวกลับเป็นคนอื่นที่ไม่ตรงกับชื่อที่ระบุ หากขัดหลักเกณฑ์เหล่านี้ บริษัทประกันมีสิทธิไม่จ่ายค่าซ่อมได้

• 3. เช็คความคุ้มครองและส่วนต่างที่อาจเกิดขึ้น

  หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วมีประกัน ประกันรถยนต์คุ้มครองทันทีตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ที่ถืออยู่ ในส่วนของวงเงินทุนประกันที่เกิดกับบุคคลภายนอก หากเป็นความคุ้มครองประกันชั้น 1 จะมีวงเงินคุ้มครองประกันชั้น 1 ประมาณ 1-5 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าทุนประกันที่ใช้ซ่อมรถของเราเอง

  ในกรณีที่มีความเสียหายเกิดกับบุคคลภายนอก มี ‘ค่าส่วนต่าง’ ที่นอกเหนือจากที่กรมธรรม์ระบุไว้ เช่น วงเงินทุนประกันความเสียหายที่เกิดกับบุคคลภายนอก อยู่ที่ 2 ล้านบาท แต่ค่าซ่อมรถหรูของคู่กรณีอยู่ที่ 3 ล้านบาท แบบนี้บริษัทประกันจะรับผิดชอบในส่วนของ 2 ล้านเท่านั้น ส่วนต่างที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดเอง

• 4. ไม่มีเงินจ่ายค่าส่วนต่าง/ค่าซ่อม

  ในกรณีที่ไม่มีเงินจ่ายค่าส่วนต่าง หรือไม่มีเงินจ่ายค่าซ่อม เนื่องจากไม่มีประกันรถยนต์ให้ความคุ้มครอง บริษัทประกันของคู่กรณีจะทำการฟ้องศาล จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ย และตกลงวิธีการชำระเงิน หากตกลงกันไม่ได้ในขั้นตอนนี้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสินในเรื่องของมูลค่าที่สมเหตุสมผล และการชำระเงิน

กลับตัวไม่ทัน เผลอชนท้ายรถหรู แบบนี้ประกันจ่ายไหม ?

หากยังมองภาพไม่ออกว่าจริง ๆ แล้ว เมื่อขับรถชนรถหรู ประกันของเราจะให้ความคุ้มครองประกันรถยนต์ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นตามไปทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันเลยดีกว่า

• 1. กรณีมีประกันรถยนต์

  เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ว่าจะจงใจหรือประมาทก็ตาม แต่เมื่ออุบัติเหตุทำให้มีค่าเสียหายที่ต้องชดใช้ จะถือว่าเป็น “ความเสี่ยง” ที่ผู้ใช้รถต้องเผชิญทั้งนั้น ทว่าสามารถโอนย้ายความเสี่ยงได้ด้วยการทำประกัน และให้บริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด

  ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าความเสี่ยงที่โอนไปให้บริษัทก็จำกัดด้วย ‘เงื่อนไขของวงเงินความคุ้มครอง’ ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ว่าจะมีการรับผิดชอบต่อทรัพย์ของผู้อื่นสูงสุดเท่าไหร่ โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

  • ค่าเสียหายน้อยกว่าวงเงินคุ้มครอง

    บริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด เนื่องจากเป็น “ผู้แบกรับความเสี่ยง” ซึ่งอยู่ภายใต้วงเงินที่ได้รับความคุ้มครอง

  • ค่าเสียหายมากกว่าวงเงินคุ้มครอง

    แม้ว่าคุณจะโอนย้ายความเสี่ยงไปให้บริษัทประกันภัยรถยนต์แล้ว แต่อย่าได้ชะล่าใจไปหน่อยเลย เพราะไม่ว่ายังไงคุณยังคงเป็น “ผู้รับผิดชอบหลัก” ฉะนั้นค่าเสียหายที่เกินกว่าวงเงินคุ้มครอง คุณนั่นแหละที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบส่วนที่เกินมา

    หากจ่ายไม่ไหว ไม่มีจ่าย หรือใด ๆ ก็ตาม บริษัทของฝั่งคู่กรณีมีสิทธิ์ห้องร้อง เพื่อบังคับเอาทรัพย์สินของผู้ก่อเหตุ (คุณ) ไปขาย เพื่อนำเงินมาชดใช้หนี้ที่เกิดจากการทำละเมิดได้ ถ้าจะให้ดีแนะนำให้เจรจาต่อรอง เช่น ขอผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ จะดีกว่า

• 2. กรณีไม่มีประกันรถยนต์

  ในกรณีที่ไม่สามารถโอนย้ายความเสี่ยงไปไหนได้ เนื่องจากไม่ได้ทำประกันรถยนต์เอาไว้ หากค่าซ่อมค่อนข้างสูง และคุณมองว่าจ่ายไม่ไหว ค่าเสียหายดังกล่าวจะกลายเป็น ‘หนี้’ ทันที โดยคู่กรณีสามารถฟ้องร้องในสินทรัพย์ของคุณได้เช่นเดียวกับกรณีที่วงเงินคุ้มครองไม่พอจ่ายค่าเสียหายนั่นเอง

ถ้าทำประกันชั้น 3 แล้วชนรถหรู ต้องจ่ายเองทั้งหมดไหม ?

ในกรณีที่รถยนต์ของคุณมีประกัน แต่เป็นประกันรถยนต์ชั้น 3 แบบนี้ความคุ้มครองประกันชั้น 3 จะจ่ายไหวไหม จ่ายให้หรือเปล่า ? คำตอบคือ บริษัทประกันจะจ่ายค่าซ่อมให้กับรถของคู่กรณีเท่านั้น โดยบริษัทฯ จะประเมินค่าซ่อมจากราคาประเมินของรถคู่กรณี โดยไม่เกินทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ตามที่คุณเลือกซื้อเอาไว้ (ไม่จ่ายเงินวงเงิน หากมีส่วนต่างนอกเหนือจากที่ระบุ คุณจะต้องรับผิดชอบส่วนต่างที่เหลือทั้งหมด)

สำหรับคนที่รถยนต์มีมูลค่าสูง ขับขี่บ่อย หรือมีประวัติการขับขี่ที่ไม่ค่อยดี ไม่ระมัดระวังสักเท่าไหร่ แนะนำให้ทำประกันชั้น 1 หรือชั้น 2+ จะดีกว่า เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม และถ้าหากสงสัยว่าประกันชั้น 1 คุ้มครองคู่กรณีเท่า ไหร่ ในส่วนนี้สามารถสอบถามกับบริษัทประกัน หรือเปรียบเทียบราคาผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย

รถหรูใจดีไม่เอาผิด แบบนี้โล่งใจได้หรือยัง ?

จากเหตุการณ์รถกระบะชนท้ายรถหรู Rolls-Royce ราคาคันละ 32 ล้านบาท ในปี 2565 ทนายปุ๊ ทนายประกันภัย ให้ความรู้เรื่องข้อกฎหมายประกันรถยนต์ แม้ว่ารถยนต์กระบะจะทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ในความเป็นจริงยังไงก็ไม่พอจ่ายค่าซ่อมแซมทรัพย์สินบุคคลภายนอก ส่วนใหญ่ประกันชั้น 1 วงเงินคุ้มครองอยู่ที่ประมาณ 5 แสนถึง 3 ล้านบาท ในกรณีค่าซ่อมจริงที่คุ้มครองรถยนต์กระบะไม่ถึงแน่นอน

และถ้าหากถามว่าคนขับรถยนต์กระบะจะรอดหรือไม่ ? ทนายปุ๊ตอบว่า “ยังไงคนขับรถกระบะก็ไม่รอด แม้ว่าจะของรถ Rolls-Royce บอกว่ามีประกันอยู่แล้ว ให้ประกันซ่อมแซมเองได้ หมายความว่าบริษัทประกันเข้ามาซ่อมแซมรถ แต่หลังจากซ่อมเสร็จ บริษัทจะมาเรียกค่าซ่อมแซมคืนจากคนขับรถยนต์กระบะ เพราะถึงยังไงฝ่ายประมาทต้องเป็นคนจ่าย” (ที่มา : https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/general-knowledge/556204)

สรุปได้ว่าต่อให้คู่กรณีบอกกับคุณว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวให้ประกันของเราซ่อมเอง” ก็อย่าได้สบายใจหรือโล่งใจไป เพราะถึงแม้เจ้าของรถจะไม่เอาเรื่อง แต่บริษัทประกันของคู่กรณีไม่ปล่อยผ่านแน่นอน ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องถูกเรียกเก็บค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอยู่ดี