เชื่อว่าคงมีคนพอได้ยินผ่านหูมาบ้าง ว่าถ้าหากเผลอทำใบเคลมประกันรถหาย หรือปล่อยให้ประกันหมดอายุโดยไม่นำรถไปจัดซ่อม แบบนี้จะถือว่าเสียสิทธิ์ในการเคลมทันที แต่จริง ๆ แล้วมันแบบนั้นไหม ? หากประกันรถหมดอายุแต่ยังมีใบเคลมรถอยู่ ยังคงนำรถเข้าซ่อมได้อยู่หรือไม่ ปกติแล้วใบเคลมมีอายุกี่ปี ? มิสเตอร์ คุ้มค่า หาคำตอบมาให้แล้ว ตามไปทำความเข้าใจกันเลยดีกว่า
ใบเคลมประกันรถ คืออะไร ? มาทำความรู้จักกันก่อน
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันหน่อยดีกว่า ว่าใบเคลมประกันรถหรือใบรับรองความเสียหายจากอุบัติเหตุ คือเอกสารที่ผู้ขับขี่ได้รับจากบริษัทประกันภัย เพื่อนำไปยืนยันกับศูนย์บริการซ่อมรถหรืออู่ซ่อมรถในเครือของบริษัทประกันภัย ว่าผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจะเป็นบริษัทประกัน ตามที่ระบุไว้ในใบเคลมรถ (ยกเว้นในกรณีของค่าเสื่อมสภาพของอะไหล่ชิ้นนั้น ๆ เช่น แบตเตอรี่หรือของเหลว) โดยใบเคลมประกันรถจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. ใบเคลมสด
คือ ใบเคลมประกันรถที่ออกโดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกัน ‘ทันที’ หลังเกิดอุบัติเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันจะลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของคุณ และออกให้เพื่อใช้ในการแจ้งเคลมประกันรถได้ทันที
2. ใบเคลมแห้ง
คือ ใบเคลมรถที่ออกโดยบริษัทประกันภัย ‘หลัง’ จากเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว โดยที่ผู้เอาประกันต้องนำรถไปซ่อมแซมก่อน จากนั้นจึงนำใบเสร็จมาแจ้งเคลมรถกับบริษัท โดยบริษัทจะออกใบเคลมประกันรถให้หลังจากประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถแล้ว
และถ้าหากกำลังหาคำตอบว่าใบเคลมประกันรถ สรุปแล้วมีวันหมดอายุไหม? ถ้ามีจะมีอายุประมาณกี่ปี ? ซึ่งในส่วนนี้ มิสเตอร์ คุ้มค่า ก็ได้หาคำตอบมาให้ด้วยเช่นกัน ตามไปทำความเข้าใจเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไปกันได้เลย
ใบเคลมรถมีวันหมดอายุไหม แล้วมีอายุกี่ปี ?
หากถามว่าใบเคลมรถมีวันหมดอายุไหม? ตอบตรงเลยว่า “มี” ซึ่งตามปกติแล้วใบเคลมที่ทางบริษัทประกันออกให้กับผู้เอาประกัน (นับจากวันที่เกิดเหตุ) จะมีอายุ 2 ปี หมายความว่าคุณสามารถนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการซ่อมรถ หรืออู่ซ่อมในเครือของบริษัทประกันตอนไหนก็ได้ ‘ภายในระยะเวลา 2 ปี’
ทั้งนี้ เราขอแนะนำว่าหากได้รับใบเคลมรถมาแล้ว ให้รีบส่งรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมภายใน 15 วัน และถ้าหากคุณเป็นฝ่ายถูก แนะนำให้ทำการแจ้งเคลมรถภายใน 1 ปี เพื่อที่จะได้ไม่เสียสิทธิในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
ใบเคลมประกันรถหมดอายุ แต่มีใบเคลม ควรซ่อมก่อนต่อประกันเจ้าใหม่ไหม ?
สำหรับคนที่มีแพลนจะเปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ แต่ยังมีใบเคลมรถจากบริษัทเก่าอยู่ และยังไม่ได้นำรถเข้าไปซ่อม แบบนี้ควรจะจัดซ่อมให้เรียบร้อยก่อน หรือต่อประกันกับที่ใหม่ไปเลย ? คำตอบคือควรซ่อมรถให้เรียบร้อยก่อน หรือสามารถแจ้งเคลมกับบริษัทใหม่ได้เลย เนื่องจากประกันหมดอายุไม่เท่ากับใบเคลมหมดอายุ ในขั้นตอนการทำประกันรถยนต์ใหม่ แค่ผู้เอาประกันแสดงใบเคลมประกันรถ และแจ้งว่าได้ทำเรื่องการแจ้งเคลมประกันไม่มีคู่กรณี หรือกรณีอื่น ๆ ไว้แล้ว
สำหรับกรณีที่รถของคุณเกิดอุบัติเหตุ จนทำให้เกิด “แผลซ้ำกับรอยแผลเดิม” ทางบริษัทฯ ใหม่ จะเป็นฝ่ายรับผิดชอบเคลมประกันรถยนต์ หรืออาจร่วมรับผิดชอบกับบริษัทเก่าที่คุณได้ดำเนินการแจ้งเคลมประกันรถ ไว้ก่อนหน้า ในส่วนนี้แนะนำให้พูดคุยกับบริษัทให้เรียบร้อย และเข้าใจตรงกันซะก่อน เพื่อป้องกันปัญหาการแจ้งเคลมรถที่อาจตามมาในอนาคต และอย่าลืมเปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ดีก่อนตัดสินใจเปลี่ยนบริษัทใหม่อีกด้วย
จริงหรือไม่ หากใบเคลมรถหาย เสียสิทธิ์เคลมทันที ?
ในกรณีที่ใบเคลมรถหาย หรือจะไม่ได้ว่าเผลอไปวางไว้ที่ไหน เชื่อว่าคงเกิดความกังวลอยู่ไม่น้อย ว่าจะเป็นการเสียสิทธิ์เคลมประกันทันที แต่อย่าเพิ่งกังวลจนเกินไป เพราะ มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมวิธีรับมือมาให้แล้ว ทำตามนี้รับรองสายใจหายห่วง
1. ติดต่อบริษัทประกัน
ทันทีที่รู้ตัวว่าทำใบเคลมประกันรถหาย ให้ทำการติดต่อไปยังบริษัทประกันภัยทันที พร้อมกับแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดที่เสียหาย วันที่เกิดเหตุ ลักษณะการเคลมให้ชัดเจน และตรงตามความเป็นจริง เพื่อให้การค้นหาหมายเลขเคลมเป็นไปอย่างถูกต้อง
2. แจ้งความเอกสารหาย
หลังจากที่ทางบริษัทประกันได้ทำการแจ้งหมายเลขเคลมมาให้แล้ว ให้คุณไปแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้านว่า “เอกสารในการแจ้งเคลมรถหาย” โดยคุณจะต้องให้ทางตำรวจระบุรายละเอียดอย่างชัดเจนด้วย ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขเคลม เลขทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ รุ่น และรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการยื่นขอสำเนาใบเคลมกับทางบริษัทประกัน
3. นำใบแจ้งความไปขอสำเนาใบเคลม
เมื่อได้รับเอกสารการแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว คุณจะต้องนำใบเอกสารการแจ้งความไปยื่นให้กับบริษัทประกัน เพื่อเป็นการยืนยันหลักฐานว่าเราเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหาย และเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ได้ทำประกันอยู่จริง โดยสิ่งที่คุณจะได้จากทางประกันคือ ‘สำเนาใบเคลมรถ’
4. นำใบเคลมรถไปยื่นที่ศูนย์หรืออู่ซ่อม เพื่อแจ้งซ่อม
หลังจากที่ได้รับสำเนาใบเคลมประกันรถมาแล้ว สามารถนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ที่ให้บริการซ่อมรถของคุณได้ตามปกติ
และถ้าในกรณีที่ใบเคลมประกันรถไม่ได้หาย แต่เป็นประเด็นอื่นอย่าง “ประกันใกล้หมดอายุ” แบบนี้ยังสามารถแจ้งเคลมได้หรือไม่ ตามไปหาคำตอบในหัวข้อถัดไปกันได้เลย
ประกันใกล้หมดอายุ ยังนำรถไปเคลมประกันได้อยู่ไหม ?
ต้องอธิบายก่อนว่า “การนำรถไปเคลม” ในหัวข้อนี้ หมายถึงการแจ้งเคลมกับบริษัทประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุ (แบบที่ยังไม่ได้มีใบเคลมในมือ) ในขณะที่ประกันใกล้หมดอายุ จะยังสามารถแจ้งเคลมได้อยู่หรือไม่ ตามไปหาคำตอบกันเลย
1. สามารถดำเนินการแจ้งเคลมรถได้
เฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุในวันนั้น ๆ ‘ก่อน’ ช่วงเวลา 16.30 น. เนื่องจากประกันภัยรถยนต์จะสิ้นสุดความคุ้มครองตามข้อกำหนดของ คปภ. ในช่วงเวลาดังกล่าวนั่นเอง
2. ไม่สามารถแจ้งเคลมได้
เฉพาะกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ‘หลัง’ ช่วงเวลา 16.30 น. แม้จะผ่านช่วงเวลาดังกล่าวไปเพียงเสี้ยววินาทีก็ไม่สามารถแจ้งเคลมประกันได้ เนื่องจากถือว่าความคุ้มครองสิ้นสุดไปแล้ว
ซึ่งทั้ง 2 กรณีแตกต่างจากการที่คุณได้รับใบเคลมมาแล้ว แต่ยังไม่ได้นำรถไปดำเนินการจัดซ่อมอย่างสิ้นเชิง เพราะถ้าหากเป็นกรณีที่มีใบเคลมแล้ว เอกสารดังกล่าวนี้จะมีอายุต่อไปอีก 2 ปี นับจากวันที่เกิดเหตุ แม้ว่าประกันจะหมดอายุก็ยังสามารถนำรถไปจัดซ่อมได้ตามปกติ เว้นแต่ว่าจะปล่อยปละละเลยจนมันเกินเวลาที่กำหนด
ต้องยอมรับว่าใบเคลมประกันรถมีความสำคัญอย่างมาก ในการแจ้งเคลมประกันรถ ทั้งการแจ้งเคลมประกันไม่มีคู่กรณีหรือมีคู่กรณี แต่ถ้าหากทำหายก็ไม่ต้องกังวล เพราะสามารถขอ ‘สำเนา’ ได้ ทั้งนี้แนะนำว่าหากได้ใบเคลมรถมาแล้ว ควรดำเนินการตามขั้นตอนการแจ้งเคลมรถโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นฝ่ายถูก เพื่อที่จะได้ไม่เสียสิทธิในการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถจากคู่กรณีนั่นเอง
คำจำกัดความ
อู่ซ่อมรถในเครือ | อู่ที่มีการรับรองมาตรฐานโดยบริษัทประกันที่เราทำสัญญาเอาไว้ |
สำเนา | ข้อความ หรือภาพ เป็นต้น ที่ผลิตซ้ำจากต้นแบบ, คัด หรือถ่ายข้อความ หรือภาพจากต้นแบบ |
ปล่อยปละละเลย | ไม่เอาใจใส่, ไม่สนใจ, ทอดทิ้ง, ทอดธุระ, ไม่กวดขัน |