ใช้ชีวิตเรื่องภัยธรรมชาติเป็นเรื่องที่ไม่อาจควบคุมได้ และเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่มีโอกาสสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์หรือรถไฟฟ้าได้ไม่น้อย แน่นอนว่าคนทำประกันรถไฟฟ้ารวมถึงประกันภัยรถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะประกันชั้น 3 ต้องสงสัยว่าภัยธรรมชาติแบบต่างๆ แผ่นดินไหว ดินโคลนถล่ม อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย แม้กระทั่งอุกกกาบาต ประกันรถยนต์ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมหรือเปล่า ? ถ้าอย่างนั้นตาม MrKumka ไปหาคำตอบแบบสรุปพร้อมๆ กันในบทความนี้เลย
รู้ก่อนว่าภัยธรรมชาติคืออะไร ?
ประเทศไทยมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นตามฤดูกาลค่อนข้างบ่อย ซึ่งภัยต่าง ๆ เหล่านั้นล้วนสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนอย่างมากมาย จนกลายเป็น “ภัยพิบัติ” ที่หลายคนเริ่มเข็ดขยาด ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว, ดินโคลนถล่ม, อุทกภัย, วาตภัย, ไฟป่า, ภัยแล้ง ฯลฯ แล้วภัยธรรมชาติที่ยากเกินจะควบคุมแบบนี้ บริษัทประกันภัยรถไฟฟ้าคุ้มครองภัยแบบไหนบ้าง MrKumka ลิสต์มาให้เรียบร้อยแล้ว ตามไปดูในหัวข้อถัดไปกันได้เลย
ประกันรถไฟฟ้า หรือ ประกันรถยนต์ชั้นไหน ที่คุ้มครองเรื่องภัยธรรมชาติบ้าง ?
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าประกันภัยรถยนต์ ไม่ว่าจะรถสันดาปทั่วไปหรือรถยนต์ไฟฟ้า ย่อมมี “ความคุ้มครอง” ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกทำประกันชั้นไหน เช่น ประกันชั้น 3, ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า แต่ชั้นไหนที่ให้ความคุ้มครองเมื่อเกิดภัยธรรมชาติบ้าง ? ตามไปดูกัน
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะรถไฟฟ้า ซื้อเอาไว้อุ่นใจตลอดการเดินทาง ไม่ต้องกังวลเมื่อภัยมา
ประกันรถยนต์ 2+
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เป็นหนึ่งใน “ตัวเลือก” ที่น่าสนใจ เพราะให้ความคุ้มครองไม่ต่างจากประกันชั้น 1 แต่มีค่าเบี้ยที่ถูกกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วบางบริษัทประกันกลับให้ความคุ้มครองที่ต่างกันออกไป แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นประกันชั้น 2+ ก็ตาม
เช่น บางบริษัทให้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ เช่น อัคคีภัย และอุทกภัย แต่บางบริษัทกลับให้ความคุ้มครองเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง จึงเป็นเหตุผลที่ผู้เอาประกันควรเปรียบเทียบความคุ้มครองว่าคุ้มค่ากับค่าประกันรถที่จ่ายไปหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประกันรถ ev ที่มีให้เลือกเพียง ประกันชั้น1, ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 3 แนะนำให้เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าหลาย ๆ แห่ง เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้เอาประกันเอง
ประกันภัยรถยนต์
บางบริษัทก็มีความคุ้มครองเรื่องอุทกภัยอยู่ในแผนประกันด้วย แต่บางบริษัทก็ไม่มี ดังนั้นก่อนเลือกทำประกันรถยนต์ ควรศึกษารายละเอียดด้านความคุ้มครองอย่างถี่ถ้วน แม้ว่าคุณจะเป็นคนไม่ค่อยได้ใช้งานรถบ่อยเท่าไหร่ หรือมีความชำนาญในการขับขี่พอสมควร แต่ในเรื่องของภัยพิบัติธรรมชาติมันยากเกินจะควบคุม หากซื้อไว้แล้วไม่คุ้มครองก็คงไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่
ภัยธรรมชาติแบบไหนบ้างที่ประกันภัยรถยนต์คุ้มครอง ?
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงค่อนข้างบ่อย ทั้งลมแรง ฝนตกทุกวัน เสี่ยงต่อการเกิดภัยธรรมชาติอย่างอุทกภัย วาตภัยแทบทุกพื้นที่ ทำเอาผู้เอาประกันอกสั่นขวัญแขวนไปตาม ๆ กัน กลัวว่ารถยนต์คู่ใจจะได้รับความเสียหาย และไม่ได้รับความคุ้มครอง ถ้าอย่างนั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าภัยธรรมชาติแบบไหน ที่อยู่ในความคุ้มครองของบริษัทประกันรถยนต์บ้าง
1. ประกันรถยนต์คุ้มครองอัคคีภัย
ไฟไหม้ในบริบทของ “ภัยธรรมชาติ” คือ ไฟที่ลุกไหม้จากความแห้งแล้งหรือปัจจัยอื่น ๆ ทางธรรมชาติที่ก่อให้เกิดเปลวเพลิง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการทำให้รถยนต์ระเบิด ได้รับความเสียหาย ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้าและประกันภัยรถยนต์ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้อย่างครอบคลุม
นอกจากนี้ยังเหมารวมถึงกรณีไฟไหม้ที่ไม่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น เกิดอุบัติเหตุรถชนจนรถไฟไหม้ ในส่วนนี้บริษัทประกันก็ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับแผนกรมธรรม์ที่เลือกซื้อติดรถยนต์ไว้
2. ประกันรถยนต์คุ้มครองน้ำท่วม (อุทกภัย)
ในช่วงนี้หลายพื้นที่พบเจอกับเหตุการณ์น้ำท่วม เนื่องจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะเขตตัวเมืองหรือพื้นที่ชุมชนแออัด น้ำระบายไม่ทัน ฯลฯ ส่งผลให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย น้ำซึมเข้ารถจนเครื่องยนต์พัง รถดับกลางทาง ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคงอยู่ในความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ด้วย
3. ประกันรถยนต์คุ้มครองแผ่นดินไหว
เป็นภัยธรรมชาติที่คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดตอนไหน แถมยังมีความเสี่ยงที่จะเกิด “อาฟเตอร์ช็อค” ตามมา โดยเฉพาะภาคเหนือของไทยที่มีรอยเลื่อนที่มีพลังหลายจุด พร้อมที่จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวแทบทุกวัน โดยระดับการสั่นสะเทือนล้วนสร้างความเสียหายให้กับชีวิต และทรัพย์สินของผู้คนได้อย่างไม่เหลือชิ้นดี กรณีรถยนต์ที่ทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ ทั้งประกันชั้น 1 รถไฟฟ้า จะได้รับความคุ้มครองตามที่ระบุในกรมธรรม์ทุกประการ
4. ประกันรถไฟฟ้าคุ้มครองดินโคลนถล่ม
ก้อนหินหรือก้อนดินที่ไหล ร่วงหล่นลงมาจากที่สูง แน่นอนว่าเป็นอันตรายต่อการขับขี่บนท้องถนนมาก ๆ ในกรณีที่รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว แล้วทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ บอกเลยว่าสบายใจหายห่วง เพราะได้รับความคุ้มครองในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
5. ประกันรถยนต์คุ้มครองอุกกาบาต
แม้ว่าเหตุการณ์ที่รถยนต์ได้รับความเสียหายจากอุกกาบาต หรือเศษซากจากกระสวยอวกาศจากนอกโลกจะเกิดขึ้นได้น้อยมาก ๆ แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่เกิดจากภัยธรรมชาติ แต่ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็ให้ความคุ้มครองในกรณีด้วยเช่นกัน
ประกันรถไฟฟ้า ราคาสูง ให้ความคุ้มครองตอบโจทย์แค่ไหน ?
อย่างที่ทราบกันดีว่าประกันรถไฟฟ้า ราคาสูงมาก ๆ ทำให้หลายคนที่มีรถ ev ไว้ในครอบครอง หรือมีแพลนที่จะซื้อรถไฟฟ้าต่างเกิดคำถามตามมาว่าประกันรถยนต์ไฟฟ้า ราคาสูงขนาดนี้ ให้ความคุ้มครองคุ้มค่าจริงไหม? คำตอบคือ “คุ้มค่าแน่นอน”
เพราะเหตุผลที่ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ราคาสูง เนื่องจากให้ความคุ้มครองอย่างครบครัน ทั้งอะไหล่ที่มีราคาแพง หายาก โดยเฉพาะแบตเตอรี่ “หัวใจสำคัญ” ของรถไฟฟ้า นอกจากนี้ประกันชั้น 1 รถไฟฟ้าก็ให้ความคุ้มครองครอบคลุมไม่ต่างจากประกันชั้น 1 ของรถยนต์ทั่วไป รวมถึงกรณีเกิดภัยธรรมชาติด้วยเช่นกัน
เมื่อได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ต้องทำยังไง ?
หลังจากทำความเข้าใจ “ความคุ้มครอง” ด้านภัยธรรมชาติมาคร่าว ๆ แล้ว ในกรณีที่คุณกลายเป็นผู้ประสบภัยซะเอง แล้วพบว่าประกันรถยนต์ที่ทำให้ความคุ้มครองในเรื่องนี้ด้วย จะต้องเตรียมตัวเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ? ตามไปดูกันเลย
- เอกสารตัวรถ เล่มทะเบียน และกรมธรรม์ประกันรถไฟฟ้า/รถยนต์ของคุณ แนะนำว่าควรทำสำเนาเอาไว้บ้าง สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน
- เอกสารที่แสดงตัวว่าคุณเป็นเจ้าของรถ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่
- หลักฐานในที่เกิดเหตุ ดังนี้
- ภาพถ่ายขณะน้ำท่วมรถดินโคลน ถล่มใส่รถ รถได้รับความเสียหายภัยธรรมชาติอื่น ๆ เช่น วาตภัย, แผ่นดินไหว ฯลฯ
- เพิ่มการจดบันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์ให้ละเอียดที่สุด เช่น ความสูงของน้ำ ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ลักษณะการเกิดเหตุ
- หรือจะเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจในเขตพื้นที่ เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐานก็ได้เช่นกัน เพราะจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ประกันสามารถประเมินความเสียหายได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
ซื้อประกันรถไฟฟ้าราคาเท่าไหร่ ถึงตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ?
หลายคนมีทัศนคติที่ว่า “จ่ายแพง = ดี” โดยไม่ได้สนใจปัจจัยอื่น ๆ และเอาความคิดดังกล่าวมาใช้กับประกันภัยรถยนต์ ทำให้หลายคนเลือกซื้อประกันชั้น 1 รถไฟฟ้าทันที แถมยังไม่เปรียบเทียบความคุ้มครองใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วค่า ประกันรถไฟฟ้าแม้จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าประกันชั้น 3 แต่ไม่ได้ชี้วัดว่ามันจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
เพราะ “ความคุ้มค่า” ที่บอกได้ว่าเหมาะสม คือ การเลือกซื้อประกันรถไฟฟ้า ราคาสบายกระเป๋า ที่ให้ความคุ้มครองพอเหมาะพอดีกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ของตัวเอง จึงเป็นเหตุผลที่ผู้เอาประกันควรสำรวจตัวเองให้ดี ว่าจริง ๆ แล้วมีพฤติกรรมการใช้รถยังไง ขับขี่บ่อยไหม? ปกติขับออกต่างจังหวัดหรือขับในเมืองมากกว่า เป็นมือใหม่หัดขับหรือไม่ ฯลฯ เพราะทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อประกันรถไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
แม้ว่าภัยธรรมชาติต่าง ๆ เช่น แผ่นดินไหว, อุทกภัย, วาตภัย, ดิน โคลน ถล่ม, อัคคีภัย และอุกกาบาต จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก เมื่อเทียบกับอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่ถ้าหากเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็สร้างความเสียหายอยู่ไม่น้อย ดังนั้นการทำประกันรถยนต์ไฟฟ้า หรือประกันภัยรถยนต์ทั่วไปที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุม ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ เพราะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองในด้านค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยไม่ต้องควักจ่ายเองให้มากมาย
คำจำกัดความ
เข็ดขยาด | กลัวจนเข็ดหลาบ, กลัวมากจนไม่กล้าทำซ้ำอีก |
อกสั่นขวัญแขวน | ตกใจกลัวมาก, ตกใจกลัวจนตัวสั่น, ตกใจสุดขีด |