ฝันว่ารถยนต์ไฟไหม้ กลายเป็นจริง จะรับมือยังไงได้บ้าง ?

ทำนายฝัน แก้ฝัน คืออะไร ?

ตอนหลับเรื่องความฝันทุกคนต้องมี “ความฝัน” คือ การแสดงออกทางความคิด ความรู้สึก รวมถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านการนอนหลับ ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำตอบเกี่ยวกับ “ความฝันเกิดขึ้นได้อย่างไร” เอาไว้อย่างหลากหลาย เช่น เกิดจากกระบวนการจัดการของสมอง หรือเกิดจากจิตใต้สำนึกของมนุษย์ มีทั้งการฝันแบบรู้ตัว ฝันซ้ำ และฝันร้าย

ส่วนการทำนายฝัน แก้ฝันถือเป็นความเชื่อโบราณอย่างหนึ่ง หลายคนเชื่อกันว่าความฝันเป็นลางบอกเหตุ เป็นได้ทั้งลางร้ายและลางดี ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต บ้างนำไปเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต บ้างใช้ไปตีเลขเด็ดเสี่ยงโชค ซึ่งแน่นอนว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แนะนำให้ใช้วิจารณญาณกันสักหน่อย

ฝันร้าย ฝันว่ารถยนต์ไฟไหม้ มีความหมายยังไง ?

หากคุณฝันว่ารถยนต์ไฟไหม้ อาจเป็นการเตือนภัยว่าอย่างเพิ่งใจร้อน หากมีคนเอ่ยปากชวนลงทุน หรือจะเดินทางไปที่ไหน ให้ไตร่ตรองให้ดีก่อนจะตอบตกลง เพราะมีเกณฑ์จะเสียทรัพย์ก้อนโต ควรให้เวลาตัวเองเยอะ ๆ ไม่เช่นกันอาจทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบากได้ง่าย ๆ

รถยนต์ไฟไหม้ ประกันรถคุ้มครองแค่ไหน ?

ถ้าความฝันที่ว่า รถไฟไหม้ เกิดจริงในตอนที่ตื่น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุก ๆ ครั้งที่รู้สึกว่าตัวเองเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน รถเสียหาย หรือไฟไหม้รถ สิ่งที่แรกที่หลายคนนึกถึง คือ “ประกันภัยรถยนต์” โดยเฉพาะเหตุการณ์ไฟไหม้รถ ที่ไม่ใช่แค่ฝันแต่เกิดขึ้นจริง ๆ แบบนี้ประกันจะรับเคลมประกันไฟไหม้ไหม ? ตามหลักการแล้วทางบริษัทจะพิจารณาจาก 2 เรื่อง ดังนี้

• 1. ประเภทของประกันภัยรถยนต์

  หากรถยนต์ของคุณทำประกันชั้น 1 , 2+ และ 2 เอาไว้ จะได้รับความคุ้มครองในกรณีรถไฟไหม้ ตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ถ้าหากทำประกันชั้น 3+ หรือ 3 เอาไว้ จะไม่ได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้

• 2. ระดับความเสียหาย

  ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์จะแบ่งระดับความเสียหายออกเป็น 2 กรณี ดังนี้

  • กรณีเสียหายบางส่วน

    ในกรณีที่รถยนต์สามารถซ่อมแซม เพื่อให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ บริษัทประกันอาจเสนอให้เลือกระหว่างซ่อม หรือรับเงินชดเชยความเสียหาย

  • กรณีเสียหายสิ้นเชิง

    ในกรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายมากกว่า 70% ไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ บริษัทฯ จะทำการจ่ายเงินค่าเสียหายให้เต็มจำนวนของทุนประกันสูงสุด

สำหรับคนที่กังวล กลัวฝันว่ารถยนต์ไฟไหม้จะกลายเป็นจริง การเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยธรรมชาติติดเอาไว้ โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะต้องซื้อแบบไหน กับบริษัทใด แนะนำให้เข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ก่อนได้เลย

ฝันว่ารถยนต์ไฟไหม้ ถ้าเกิดขึ้นจริง เกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ?

ฝันกลายเป็นจริงมีบ่อยไป แต่คงไม่มีใครอยากให้ความฝันที่ว่า “ฝันว่ารถไฟไหม้” เกิดขึ้นจริง ๆ แน่ รู้หรือไม่ว่าการที่รถยนต์ไฟไหม้นั้น ไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเพียงอย่างเดียวเสมอไป อาจเกิดจาก “สาเหตุอื่น” ได้อีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ? ตามไปดูกันเลย

• 1. อุบัติเหตุทางถนน

  แน่นอนว่าอุบัติเหตุทางถนนมาพร้อมกับ “ความเสี่ยง” เสมอ โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อชีวิต และเสี่ยงต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ หากประสบอุบัติเหตุรุนแรง นอกจากจะเสี่ยงหม้อน้ำแตก และเพิ่มความร้อนสะสมให้กับเครื่องยนต์แล้ว แรงชน แรงกระแทกที่เกิดขึ้นอาจทำให้เชื้อเพลิงรั่วไหล ปกติเชื้อเพลิงจะมีจุดเผาไหม้เพียง 72 องศาเซลเซียสเท่านั้น ทำให้ง่ายต่อการเกิดประกายไฟ และเกิดเหตุไฟไหม้ได้

• 2. การออกแบบรถยนต์ ที่ง่ายต่อการลุกไหม้

  การออกแบบที่มีความเสี่ยง เช่น การนำระบบเชื้อเพลิงไปไว้ด้านหลังรถยนต์ ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน กรณีชนท้าย อาจทำให้รถยนต์ไฟไหม้ได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงระบบหล่อเย็นที่ผิดพลาด ส่งผลให้เครื่องยนต์มีความร้อนสะสมสูง จนเครื่องยนต์เกิดอาการ “โอเวอร์ฮีท” เป็นผลให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รถตามมา

• 3. รถยนต์ขาดการบำรุงรักษา

  การดูแลรักษารถยนต์ถือว่าสำคัญมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ ระบบเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ ไปจนถึงตัวกรองไอเสียรถยนต์ หากชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย หรือเสื่อมสภาพเมื่อไหร่ อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมสูงและเกิดประกายไฟ ทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ตามมาได้เช่นกัน

• 4. ของเหลวในรถยนต์รั่วไหล

  “ของเหลวในรถยนต์” ได้แก่ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค น้ำมันเกียร์ มีจุดเผาไหม้ค่อนข้างต่ำ ง่ายต่อการเกิดประกายไฟ หากของเหลวต่าง ๆ ไม่ได้รับการดูแลที่ดี ไม่เปลี่ยนถ่ายตามระยะที่กำหนด หรือประสบอุบัติเหตุขึ้นมา อาจทำให้ของเหลวรั่วซึม และเพิ่มความเสี่ยงที่รถยนต์จะไฟไหม้ได้

• 5. นำวัตถุไวไฟเข้าไปในรถยนต์

  ไม่ว่าจะเป็นขวดสเปรย์ กระป๋องบรรจุสารเคมี หรือแม้กระทั่งน้ำหอมที่ใช้ภายในรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ ที่มีความไวต่อความร้อนและไฟ หากไม่บำรุงรักษาให้ดี อุปกรณ์หรือวัตถุต่าง ๆ อาจระเบิด และทำให้ไฟไหม้รถยนต์ได้เช่นกัน

วิธีรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รถ

หลังจากที่ได้รู้สาเหตุที่ทำให้รถยนต์ไฟไหม้แล้ว เรามาดู “วิธีรับมือ” กันบ้างดีกว่า หลัก ๆ มีทั้งหมด 3 วิธี ดังนี้

• 1. ตั้งสติ เปิดไฟฉุกเฉิน พร้อมนำรถเข้าข้างทาง

  สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อรถยนต์เกิดเหตุไฟไหม้ คือ “ตั้งสติ” จากนั้นเปิดไฟฉุกเฉินให้เพื่อนร่วมทางทราบ พร้อมกับรีบนำรถยนต์เข้าข้างทางทันที เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าเพลิงไหม้ดังกล่าว จะลุกลามไปยังบริเวณโดยรอย หรือเกิดเหตุระเบิดหรือไม่ ?

• 2. ดับเครื่องยนต์ และรีบหาทางดับเพลิง

  เมื่อนำรถยนต์จอดเข้าข้างทางเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้รีบหาทางดับเพลิงโดยเร็วที่สุด หากในรถมีถังดับเพลิงติดตั้งเอาไว้ ควรพิจารณา “ประเภทของเพลิง” ก่อนใช้งาน ดังนี้

  • เพลิงไหม้ประเภท A

    เกิดจากเชื้อเพลิงของแข็ง ให้ดับด้วย “ถังดับเพลิงแบบสเปรย์โฟม แบบผงเคมีแห้ง แบบสารเหลวระเหย หรือแบบเคมีสูตรน้ำ”

  • เพลิงไหม้ประเภท B

    เกิดจากน้ำมันเชื้อเพลิง ให้ดับด้วย “ถังดับเพลิงแบบสเปรย์โหม แบบผงเคมีแห้ง แบบสารเหลวระเหย หรือแบบเคมีสูตรน้ำ”

  • เพลิงไหม้ประเภท C

    เกิดจากไฟฟ้าขัดข้อง ลัดวงจร หรือแบตเตอรี่ทำงานผิดพลาด ให้ดับด้วย “ถังดับเพลิงแบบผงเคมีแห้ง แบบสารเหลวระเหย หรือแบบเคมีสูตรน้ำ” เท่านั้น

• 3. ไม่เปิดให้อากาศเจอกับเพลิง

  เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ไฟไหม้รถ หลายคนมักเลือกเปิดฝากระโปรงหน้ารถเพื่อดับไฟ แต่ในความเป็นจริงแล้วพฤติกรรมดังกล่าว มีแต่จะทำให้ไฟโหมแรงขึ้น เนื่องจากเพลิงสัมผัสกับออกซิเจน แนะนำว่าควรหาต้นตอที่เกิดเหตุไฟไหม้ให้เจอ แล้วค่อย ๆ ฉีดถังดับเพลิงเข้าไปตามช่องว่าง หากไฟไหม้เริ่มเบาลง ให้เปิดจุดที่ไฟไหม้และฉีดถังดับเพลิงให้ทั่ว