หัวข้อที่น่าสนใจ
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง ?
- ทำไมประกันชั้น 2+ ถึงจ่ายน้อยกว่าประกันชั้น 1 ?
- แล้วต่างจากประกันชั้น 2 ยังไง ?
- ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับบริษัทประกันภัยไหนดี ?
- 1. วิริยะประกันภัย
- 2. เมืองไทยประกันภัย
- 3. รู้ใจ ประกันภัยออนไลน์
- 4. กรุงเทพประกันภัย
- 5. อลิอันช์ อยุธยา ประกันภัย
- 6. แอลเอ็มจี ประกันภัย
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับใคร ?
- 1. คนที่อยากได้รับความคุ้มครองคุ้มค่า แต่จ่ายน้อยกว่า
- 2. คนที่มีประสบการณ์การขับขี่สูง
- 3. รถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี หรือรถยนต์มือสอง
สำหรับคนที่อยากซื้อประกันรถยนต์ที่ครอบคลุม แต่ไม่อยากซื้อประกันชั้น 1 เนื่องจากราคาสูง ประกันชั้น 2+ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เพราะเมื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์แล้ว ก็ให้ความคุ้มครองไม่ต่างกันมากนัก แต่จะต้องซื้อกับบริษัทประกันภัยเจ้าไหน ถึงจะตอบโจทย์ได้มากกว่า มิสเตอร์ คุ้มค่า ลิสต์รายละเอียดที่น่าสนใจมาให้แล้ว ไปดูกันเลยดีกว่า
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คืออะไร คุ้มครองอะไรบ้าง ?
อันดับแรกเรามาทำความรู้จักประกันชั้น 2+ กันก่อนดีกว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คือประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครอง “ใกล้เคียง” กับประกันชั้น 1 ค่าเบี้ยประกันถูกกว่า แต่จะเคลมได้เฉพาะกรณี “รถชนรถ แบบมีคู่กรณี” เท่านั้น โดยมีรายละเอียดความคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีรถชนชน แบบมีคู่กรณี
- คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น รถไฟไหม้ น้ำท่วม
- คุ้มครองความเสียหายจากการระเบิดของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้รถไฟไหม้
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
- คุ้มครองความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ทั้งชีวิตและร่างกาย
- คุ้มครองการเสียชีวิต พิการ สูญเสียมือและเท้า รวมถึงสายตาของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- คุ้มครองค่าประกันตัวผู้ขับขี่
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ที่มาพร้อมกับประกันรถยนต์ มีอะไรบ้าง ?
อีกหนึ่งประเด็นที่คนมีรถไม่ควรมองข้าม คือ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ที่มาพร้อมกับประกันภัยรถยนต์ ซึ่งจะคอยช่วยเหลือคุณในสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ แบบทันที ซึ่งจะช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีไหนบ้าง ? ตามไปดูกันเลย
บริการเติมน้ำมันฉุกเฉิน
ในกรณีเกิดเหตุน้ำมันหมดกะทันหัน หาปั้มที่ใกล้ที่สุดไม่ทัน แถมยังไม่คุ้นเคยกับเส้นทาง ไม่ต้องกังวล เพราะบริษัทประกันภัยมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ด้วยการจัดหาเจ้าหน้าที่ไปเติมน้ำมันให้ ในปริมาณที่เพียงพอต่อการขับไปหาปั๊มที่ใกล้ที่สุด แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของ “จำนวนครั้ง” รวมถึง “ปริมาณ” ในการเติมน้ำมันเป็นลิตรต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
บริการกุญแจสำรอง
ถ้าหากคุณเผลอล็อครถโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เปิดรถไม่ได้ หรือทำกุญแจรถหาย บริษัทประกันภัยจะประสานเจ้าหน้าที่เพื่อนำกุญแจสำรองมาให้ ณ จุดเกิดเหตุ หรือกรณีที่ต้องการช่างซ่อมกุญแจ ทางบริษัทจะต้องได้รับความยินยอมจากคุณก่อน เพื่อเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับช่างกุญแจเอง
บริการพ่วงแบตเตอรี่
กรณีที่รถยนต์สตาร์ทไม่ติด เนื่องจากแบตเตอรี่รถยนต์หมดหรือเสื่อม บริษัทจะช่วยจัดหาเจ้าหน้าที่มาพ่วงแบตเตอรี่ เพื่อให้รถสามารถขับไปศูนย์ซ่อมที่ใกล้ที่สุดได้
บริการช่วยเหลือรถยก รถลาก
หากรถยนต์ของคุณเสียกลางทาง ไม่สามารถขับเคลื่อนไปไหนได้ บริษัทประกันภัยยินดีช่วยเหลือฉุกเฉิน ด้วยการประสานงานจัดหารถยกหรือรถลากจูง เพื่อนำรถส่งอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด ในระยะทางที่ให้บริการ 30 กิโลเมตร แต่ถ้าหากไกลกว่านั้น ผู้เอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเอง
ทำไมประกันชั้น 2+ ถึงจ่ายน้อยกว่าประกันชั้น 1 ?
เหตุผลที่ประกันชั้น 2+ จ่ายน้อยกว่าประกันชั้น 1 เป็นเพราะ “ความคุ้มครอง” ที่ต่างกัน เนื่องจากประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองที่ลดหลั่นลงมา และจะสามารถเคลมได้เมื่อมีคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองกระจกรถยนต์ และภัยธรรมชาติ
แล้วต่างจากประกันชั้น 2 ยังไง ?
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงมองว่าประกันชั้น 2+ ก็ไม่ได้ต่างจากประกันชั้น 2 สักเท่าไหร่ แต่ในความเป็นจริงแล้วต่างกันไม่น้อยเลย เพราะประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองบุคคลภายนอก กรณีรถหาย ไฟไหม้ ค่ารักษาพยาบาล การประกันตัวผู้ขับขี่ และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเท่านั้น หากเป็นกรณีอื่น ๆ จะไม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้
กรณีที่ทำประกันชั้น 2 แล้วเกิดอุบัติเหตุโดยที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ก็จะต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถของตัวเองทั้งหมด เพราะบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบซ่อมให้เฉพาะรถคู่กรณีเท่านั้น ต่างจากประกันชั้น 2+ ที่ไม่ว่าผู้เอาประกันจะถูกหรือผิด แค่มีคู่กรณีก็จะได้รับความคุ้มครองในส่วน “ค่าซ่อมรถคันที่เอาประกัน”
ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 2+ กับบริษัทประกันภัยไหนดี ?
สำหรับคนที่สนใจและอยากทำ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำกับบริษัทประกันภัยไหนดี มิสเตอร์ คุ้มค่า มี “ตัวเลือก” ที่น่าสนใจมาให้เรียบร้อยแล้ว จะมีบริษัทไหนบ้าง ? ตามไปเปรียบเทียบประกันรถยนต์กันเลย
1. วิริยะประกันภัย
บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำของประเทศไทย ที่ให้บริการมาอย่างยาวนาน มีคุณภาพการให้บริการที่เป็นเลิศ ยินดีนำเสนอแผนประกันที่ดีที่สุดให้คุณ โดยเฉพาะประกันชั้น 2+ ที่ให้ความคุ้มครองตอบโจทย์ ราคาสบายกระเป๋า ดังนี้
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองความสูญหายและไฟไหม้ ของตัวรถยนต์คันที่เอาประกัน
2. เมืองไทยประกันภัย
บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทประกันภัยอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้บริการประกันภัยคุณภาพสูง โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ให้ความคุ้มครองพื้นฐาน ดังนี้
- ความคุ้มครองสำหรับบริการยกรถตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
- ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ ที่เป็นอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีเท่านั้น
- ความคุ้มครองรถยนต์ไฟไหม้ หรือจากภัยธรรมชาติ
- ความคุ้มครองรถยนต์น้ำท่วม
- ความคุ้มครองรถยนต์สูญหาย ถูกโจรกรรม
- ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
- ความคุ้มครองความเสียหายต่อบุคคลภายนอก และการบาดเจ็บทางร่างกาย
3. รู้ใจ ประกันภัยออนไลน์
“รู้ใจ” ยินดีนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านประกันภัย ที่ไม่ซับซ้อน ตรงไปตรงมา คุ้มค่า และประหยัดกว่าให้กับผู้เอาประกันทุกคน สามารถปรับแผนประกันให้ตรงตามความต้องการได้อย่างอิสระ สำหรับประกันชั้น 2+ รู้ใจยินดีให้ความคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์
- คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ
- คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองเพิ่มเติมแนบท้าย เช่น ค่ารักษาพยาบาล, ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันตัวผู้ขับขี่
4. กรุงเทพประกันภัย
กรุงเทพประกันภัย เป็นบริษัทประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองครบครัน มีความมั่นคงสูง เปิดให้บริการมามากกว่า 70 ปี สามารถเลือกหาแผนประกันที่ครอบคลุมตามต้องการได้ หรือถ้าหากต้องการเปลี่ยนแผนประกัน ก็สามารถเปลี่ยนได้อย่างอิสระ โดยให้ความคุ้มครองประกันชั้น 2+ ดังนี้
- ความเสียหายต่อรถยนต์ เนื่องจากการชนกับยานพาหนะทางบก
- ความเสียหายต่อรถยนต์ เนื่องจากสูญหาย/ไฟไหม้
- ภัยก่อการร้าย
- ความเสียหายสิ้นเชิงต่อรถยนต์ เนื่องจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ/รถตกทาง
- ความเสียหายต่อกระจกบังลมรถยนต์ อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุอื่นที่นอกเหนือจากการชน
- ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม, แผ่นดินไหว, ลูกเห็บ และลมพายุ
- อุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
- ประกันตัวผู้ขับขี่
- ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ทั้งความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย และความเสียหายต่อทรัพย์สิน
5. อลิอันช์ อยุธยา ประกันภัย
อลิอันช์ อยุธยา หนึ่งในบริษัทประกันภัยที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ยินดีมอบความคุ้มครองที่ครอบคลุม ในราคาที่เอื้อมถึงได้ สำหรับประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองตัวรถเสียหาย (กรณีรถชนรถ)
- คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้
- คุ้มครองบุคคลภายนอก
- คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัย
- คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน
6. แอลเอ็มจี ประกันภัย
ประกัน LMG ช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น แถมยังมีความสุขในทุกช่วงจังหวะของชีวิต ด้วยผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย พร้อมตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 2+ ที่ให้ความคุ้มครองดังนี้
- คุ้มครองรถยนต์เมื่อสูญหาย ไฟไหม้
- คุ้มครองรถยนต์เมื่อชนกับยานพาหนะทางบก
- คุ้มครองค่าเสียหายแก่รถคู่กรณี
- ฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (อุบัติเหตุ, ยางแบน, น้ำมันหมด, รถเสียกลางทาง)
- บริการศูนย์รับแจ้งเหตุ 24 ชั่วโมง
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับใคร ?
หรือถ้าหากคุณลังเล ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะเหมาะกับตัวเอง และรถยนต์คันโปรดหรือไม่ ถ้าอย่างนั้นตามไปดูกันเลยดีกว่า ว่าใครบ้างเหมาะกับประกันรถยนต์ประเภทนี้ แล้วตัวคุณเองเข้าข่ายด้วยหรือไม่ ?
1. คนที่อยากได้รับความคุ้มครองคุ้มค่า แต่จ่ายน้อยกว่า
สำหรับคนที่มีงบประมาณค่อนข้างจำกัด อยากได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม แต่อยากจ่ายน้อยกว่าประกันชั้น 1 เมื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์ดี ๆ แล้ว ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็ตอบโจทย์ได้ไม่แพ้กัน แถมราคายังสบายกระเป๋ามาก ๆ สามารถเคลมประกันเมื่อมีคู่กรณีได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิดก็ตาม
2. คนที่มีประสบการณ์การขับขี่สูง
หากคุณมีความชำนาญ และเชี่ยวชาญการขับขี่พอสมควร และไม่เคยผ่านการเคลมประกันกรณีเป็นฝ่ายผิดมาก่อน การเลือกทำประกันชั้น 2+ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากจะจ่ายค่าเบี้ยน้อยกว่าแล้ว ยังไม่ต้องกังวลเรื่องการเคลม เนื่องจากมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีน้อยมาก
3. รถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี หรือรถยนต์มือสอง
ตามปกติแล้ว “รถยนต์มือสอง” มักเป็นรถที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 3 ปีขึ้นไป หรืออาจเป็นรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่นัก การเลือกทำประกันประกันชั้น 2+ ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ เพราะให้ความคุ้มครองคุ้มค่า และใช้เป็นเกราะป้องกันเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ดีมาก ๆ
จะเห็นได้ว่าประกันชั้น 2+ ที่ราคาสบายกระเป๋า แต่ให้ความคุ้มครองลดหลั่นลงมา เมื่อเทียบกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี และให้ความคุ้มครองที่อุ่นใจ หากคุณอยากเลือกซื้อประกันประเภทนี้ แนะนำให้เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ให้ดี รวมถึงดูเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ, บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และอื่น ๆ เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่น ไร้อุปสรรคมากที่สุด
คำจำกัดความ
ลดหลั่น | ต่ำลงไปเป็นชั้น ๆ, ก่อนหลังกันเป็นลำดับ |
ลังเล | ไม่แน่ใจ, สองจิตสองใจ, ตัดสินใจไม่ได้ |
เข้าข่าย | อยู่ในข่าย, เข้าเกณฑ์ |