ผ่อนประกันภัยรถยนต์ยังไม่ครบ แต่ไม่ตอบโจทย์ เปลี่ยนเลยได้ไหม

ผ่อนประกันภัยรถยนต์ คืออะไร ?

เชื่อว่าหลายคนเมื่อเห็นประกันรถยนต์ ชั้น 1 แบบผ่อน คงเกิดความสงสัยว่าคืออะไร ซื้อประกันรถยนต์แบบผ่อนรูปแบบไหนได้บ้าง ? “ ประกันรถยนต์แบบผ่อนได้ ” คือ การแบ่งจ่ายเบี้ยประกันออกเป็นงวด ๆ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้ดี เนื่องจากผู้เอาประกันไม่ต้องจ่ายเงินก้อน แถมยังได้รับความคุ้มครองเต็มตั้งแต่เดือนแรก ปัจจุบันมี 2 รูปแบบให้เลือก ดังนี้

• 1. ประกันรถยนต์ผ่อน 10 เดือน จ่ายด้วยเงินสด

  อยากผ่อนประกันภัยแต่ไม่มีบัตรเครดิต ไม่ต้องกังวล เพราะยังสามารถซื้อประกันรถยนต์แบบผ่อนได้ ไม่ว่าจะเป็นการโอนจ่ายผ่านธนาคาร, บัตรเดบิต, เคาน์เตอร์เซอร์วิส และกระเป๋าเงินออนไลน์ เช่น Line Pay, True Money Wallet โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบริษัทประกันนั้น ๆ

• 2. ประกันรถยนต์ผ่อนจ่ายด้วยบัตรเครดิต

  กรณีที่มีบัตรเครดิตอยู่ในมือสามารถเลือกประกันรถยนต์แบบผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้เลย โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนทันที แถมบางบริษัทประกันยังมีโปรโมชั่นกับบัตรเครดิต ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้อีกด้วย

เลือกบริษัทผ่อนประกันภัยรถยนต์ ยังไงดี ?

สำหรับคนที่อยากซื้อประกันรถยนต์แบบผ่อน แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะเลือกบริษัทไหนดี เนื่องจากมีข้อควรพิจารณาเยอะไปหมด ทั้งนี้เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ คุ้มค่า ตามไปดูทริคการเลือกกันหน่อยดีกว่า

• 1. บริษัทมีชื่อเสียง

  แนะนำให้เลือกซื้อประกันรถยนต์ผ่อนจ่ายกับบริษัทที่มีชื่อเสียง เชื่อถือได้ และมีมาตรฐาน หากไม่รู้ หรือไม่แน่ใจ เลือกบริษัทไม่ถูก เพราะในปัจจุบันมีให้เลือกเยอะมาก แนะนำให้สอบถามจากคนที่เคยใช้บริการมาก่อน รวมถึงตรวจสอบผ่านช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ว่าเป็นยังไง โกงไหม เอาเปรียบหรือเคลมยากหรือเปล่า

• 2. เบี้ยประกันต่ำ ผ่อนได้

  บอกไว้ก่อนเลยว่าการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองสูงสุด แพงที่สุด อาจไม่ใช่คำตอบที่เหมาะสำหรับทุกคนเสมอไป เนื่องจากตัวเลือกที่ดีที่สุด คือ การเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการใช้งาน แนะนำให้ถามตัวเองให้ดีก่อน ว่าปกติขับรถแบบไหน ในเมืองหรือออกต่างจังหวัดเป็นหลัก จากนั้นค่อยเปรียบเทียบประกันรถยนต์แต่ละประเภท

  รวมถึงตรวจสอบกรมธรรม์ของทุก ๆ บริษัทที่สนใจ ว่าแบบไหนให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ได้มากกว่า โดยเน้นไปที่ “เบี้ยประกันต่ำ ผ่อนประกันภัยได้” ยิ่งเบี้ยต่ำแถมยังผ่อนได้นานโดยไม่บวกเพิ่ม บอกเลยว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

• 3. อู่บริการดี มีมาตรฐาน

  อู่ซ่อมในเครือ ถือเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในการเลือกบริษัทประกันก็ว่าได้ แนะนำให้เลือกบริษัทที่มีอู่ใกล้บ้าน เพื่อให้คุณเดินทางไปใช้บริการได้อย่างสะดวก โดยจะต้องเป็นอู่ซ่อมที่ได้มาตรฐาน อะไหล่ดี และมีช่างผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา

  เหตุผลที่ให้พิจารณา “อู่ซ่อม” เป็นหลัก เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้ผู้เอาประกันประหยัดค่าเบี้ย แถมยังไม่ต้องรอคิวนานเหมือนกับการซ่อมศูนย์บริการ (ซ่อมห้าง) อีกด้วย

เปลี่ยนประกันก่อนครบปี แถมยังผ่อนไม่หมดได้ไหม ?

เมื่อเกิดความรู้สึกอยากเปลี่ยนประกันภัยรถยนต์ก่อนครบปี ทั้ง ๆ ที่ยังผ่อนประกันภัยยังไม่ครบ เนื่องจากไม่พอใจในการบริการ เจอตัวเลือกอื่นที่ดีกว่า เปลี่ยนรถ หรือใด ๆ ก็ตาม ‘สามารถทำได้’ ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถที่ต้องการจะเปลี่ยนประกันใหม่ หรือเปลี่ยนชั้นประกันรถหรือไม่ โดยจะเป็นก่อนหรือหลังทำประกันก็ได้

เพียงแต่ถ้าเลือกที่จะเปลี่ยนประกันรถยนต์หลังจากทำประกันแล้ว อาจต้องมีการจัดส่งเอกสารเพื่อ ‘ขอยกเลิกกรมธรรม์และรับเงินคืน’ แต่จะไม่ได้เงินคืนเต็มจำนวนจากตอนที่จ่ายเบี้ยประกันไว้ตอนแรก ทั้งนี้แนะนำให้สอบถามรายละเอียดอื่น ๆ จากบริษัทก่อนตัดสินใจ เพื่อให้คุณไม่พลาดสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อย่างไม่รู้ตัว รวมถึงการดำเนินการผิดขั้นตอน เป็นต้น

ข้อดีของการเปลี่ยนประกันรถก่อนครบปี มีอะไรบ้าง ?

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่เลือกซื้อประกันรถยนต์แบบผ่อนจ่าย และอยากจะเปลี่ยนใหม่ด้วยเหตุผลต่าง ๆ แต่ยังคงลังเล เพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะการไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วการยกเลิกกลางคันแบบนี้ มีข้อดีมากกว่าที่คิด แต่จะมีอะไรบ้าง? ตามไปหาคำตอบกันเลย

• 1. ได้ผ่อนประกันภัยที่ถูกใจ

  แน่นอนว่าการเปลี่ยนประกันรถก่อนหมดปี มาจากสาเหตุที่ว่า ‘ประกันรถยนต์ที่ทำอยู่นั้นไม่ตอบโจทย์กับการใช้รถของคุณ’ รวมถึงเหตุผลอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นการเปลี่ยนประกันรถก่อนหมดปี ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้คุณได้รับประกันรถยนต์ที่ถูกใจ และตอบโจทย์จริง ๆ สักที

• 2. ได้เบี้ยประกันภัยผ่อนได้ ที่ราคาสบายกระเป๋า

  เรื่องนี้อาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่สำหรับคนที่เลือกประกันรถยนต์ ชั้น 1 แบบผ่อน แต่กับบางคนก็ไม่แน่ แถมยังอาจเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ตัดสินใจเปลี่ยนประกันรถก่อนครบปีก็เป็นได้ และถ้าหากเปลี่ยนแล้วได้เบี้ยประกันที่ถูกลง แต่ได้ความคุ้มครองเทียบเท่ากับราคาที่จ่ายก่อนหน้า ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าสุด ๆ

  ในกรณีที่เปลี่ยนประกันแล้วได้เบี้ยประกันที่ถูกลง แต่ไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมการขับขี่ ก็ไม่แนะนำให้เปลี่ยน เพราะอาจเป็นการเพิ่มภาระความเสี่ยงแทน

• 3. ได้โปรโมชั่นสุดคุ้ม

  อีกหนึ่งจุดที่บริษัทประกันแข่งขันกันอย่างดุเดือด เพื่อให้ได้ ‘ฐานลูกค้าใหม่’ เข้ามาทำประกันรถยนต์กับบริษัท ก็คือโปรโมชั่นของประกันรถยนต์ ทำให้ผู้เอาประกันสามารถเปรียบเทียบโปรโมชั่นของบริษัทต่าง ๆ เพื่อหาโปรฯ ที่ถูกใจ และตอบโจทย์จริง ๆ กับลักษณะการขับขี่ของตัวเอง นอกจากนี้ยังอาจได้รับของแถมจากโปรโมชั่นอีกด้วย