- แบบเข็ม โดยจะมีเข็มชี้วัด ทำงานปกติเมื่อเครื่องยนต์อยู่ในช่วงอุณหภูมิที่ไม่เกินครึ่งหนึ่งของมาตรวัด แต่เมื่อเข็มชี้วัดเด้งขึ้นมาเกินครึ่งหนึ่ง แสดงว่าเครื่องยนต์ร้อนแล้ว ต้องพึงระวังว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบหล่อเย็น หรือส่วนอื่น ๆ
- แบบไฟเตือน สำหรับรถรุ่นใหม่ มักจะใช้ระบบนี้เป็นส่วนใหญ่ โดยการสังเกตไฟเตือนนี้ จะมีสีที่แตกต่างเป็นตัวบอกความหมาย อันนี้ควรลองศึกษารายละเอียดสำหรับรุ่นรถของคุณเอง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ถ้ารถมีไฟสีเขียวหรือสีฟ้าขึ้น แสดงว่าเครื่องยนต์หรือระบบหล่อเย็น มีอุณหภูมิต่ำเกิน แต่ถ้าเป็นไฟสีแดง ก็ชัดเจนเลยว่าเครื่องยนต์หรือระบบหล่อเย็น มีอุณหภูมิสูงเกิน
- เมื่อขับรถอยู่ดี ๆ แล้วไฟเตือนความร้อนขึ้น ให้ใจเย็น ๆ ตั้งสติแล้วขับรถไปจอดในที่ปลอดภัย สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เปิดฝากระโปรงหน้าขึ้น เพื่อระบายความร้อนให้ออกจากห้องเครื่อง
- สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ อย่าเปิดฝาหม้อน้ำขณะเครื่องร้อน ย้ำนะว่า! อย่าเปิดฝาหม้อน้ำขณะเครื่องร้อน! ถ้าไม่อยากหน้าพัง เพราะน้ำที่ร้อนระอุอาจจะพุ่งมาเข้าหน้าเข้าตาได้ ควรรอสักพักให้เครื่องเริ่มเย็นลง ค่อยหาผ้าช่วยรองมืออีกชั้น แล้วค่อย ๆ เปิดฝาหม้อน้ำออก
- จากนั้นค่อย ๆ เติมน้ำในหม้อน้ำทีละนิด ๆ โดยให้ทิ้งช่วงไว้ครั้งละประมาณ 5 นาที ระหว่างที่เติมก็ต้องคอยสังเกตดูระกับน้ำในหม้อน้ำไปด้วย ว่ามันค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาหรือเปล่า ถ้าเติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม นั่นแสดงว่าหม้อน้ำอาจจะรั่ว หากมองใต้ท้องรถก็จะเห็นน้ำที่เจิ่งนองพื้นอยู่อย่างสงบ ถ้าแบบนี้เตรียมแจ้งศูนย์บริการหรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินของประกันได้เลย
- กรณีที่หม้อน้ำแค่รั่วแบบซึมเล็ก คุณอาจจะยังสามารถขับรถต่อไปได้ โดยต้องแวะเติมน้ำบ่อย ๆ เป็นระยะ ๆ จนไปถึงอู่หรือศูนย์ซ่อม แต่อย่าลืมว่า ทุกครั้งที่จอดรถ ต้องจอดในที่ปลอดภัย รอเครื่องเย็น แล้วค่อยๆ เติมน้ำเข้าไป
ถ้าหากคุณไม่อยากเจอปัญหาเหล่านี้ สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ การเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ซึ่งแต่ละแผนประกัน จะมีความแตกต่างกันออกไป รีบมองหาประกันที่ที่คุ้มค่า คลิกเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ ผ่าน Mr.คุ้มค่า ได้เลย เร็ว ง่าย จริงใจ เลือกความคุ้มครองที่ใช่ ในราคาที่ชอบ