ผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิต กับข้อดีที่หลายคนมองข้าม

แชร์ต่อ
ผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิต กับข้อดีที่หลายคนมองข้าม | มิสเตอร์ คุ้มค่า

อยากได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ แต่งบน้อย ไม่อยากจ่ายเงินก้อน ผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิตเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะคนที่เล็งประกันชั้น 1 คุ้มครองมาก จ่ายเบี้ยสูง คนที่อยากผ่อนประกันรถยนต์จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง มิสเตอร์ คุ้มค่า ลิสต์รายละเอียดที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์มาให้แล้ว ตามไปดูกันหน่อยดีกว่า

เลือกซื้อประกันรถยนต์แบบผ่อน เลือกแบบไหนดี ?

อยากที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันประกันรถยนต์ผ่อนได้แล้ว แต่จะเลือกแบบไหนดี ที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด ถ้าอย่างนั้นตามไปทำความรู้จักการผ่อนประกันรถยนต์ทั้ง 2 ช่องทางกันหน่อยดีกว่า

  • 1. ประกันรถยนต์ ผ่อนเงินสด 

    สำหรับประกันรถยนต์ ผ่อนเงินสดเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ สามารถชำระค่าเบี้ยประกันได้ง่าย ๆ ด้วยการโอนผ่านช่องทาง Mobile Banking, เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือเคาน์เตอร์ธนาคารที่ร่วมรายการตามวันและเวลาที่กำหนด

  • 2. ผ่อนประกันรถยนต์ด้วยบัตรเดบิต หรือบัตร ATM

    หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิต หรือเลือกประกันรถยนต์ ผ่อนไม่ใช้บัตร การจ่าย (ผ่อน) ด้วยบัตรเดบิตหรือบัตร ATM ตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ เพียงกรอกข้อมูลให้บริษัทประกัน จากนั้นบริษัทจะทำเรื่องหักค่าเบี้ยประกันอัตโนมัติผ่านบัญชีที่ผูกบัตรเอาไว้ โดยไม่ต้องจ่ายเองให้เสียเวลา ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมจ่ายค่าเบี้ยอีกต่อไป

ถ้าถามว่าประกันรถยนต์ ผ่อน 10 เดือน เงินสด หรือประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อน 10 เดือน เหมาะกับใคร ? คำตอบคือ เหมาะกับคนที่มีวินัยทางการเงิน สามารถผ่อนจ่ายตามวันและเวลาที่กำหนดทุกงวด เพราะถ้าหากค้างชำระเกินกำหนด ‘ประกันรถยนต์จะขาดทันที’

ประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อนได้ จ่ายช้าสุดได้กี่วัน ?

หนึ่งในประเด็นที่หลายคนคาใจ และไม่รู้ว่าจะหาคำตอบจากที่ไหน อย่างผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิตช้าได้กี่วัน และจะเกิดอะไรขึ้นหากจ่ายค่าเบี้ยช้าจนประกันขาด โดยคำตอบของแต่ละประเด็นมีดังนี้

จ่ายหรือผ่อนประกันรถยนต์ช้าสุดได้กี่วัน ?

ไม่ว่าคุณจะลืมหรือมีเหตุผลจำเป็นที่ทำให้จ่ายค่าเบี้ยประกันช้า หากเป็นการจ่ายกับบริษัทโดยตรงบอกไว้เลยว่า ‘มีผลต่อความคุ้มครองแน่นอน’ โดยบริษัทอาจไม่คุ้มครอง หรือบางบริษัทอาจปฏิเสธการคุ้มครองไปเลย เนื่องจาก “จ่ายค่าเบี้ยไม่ครบ กรมธรรม์ยังไม่สมบูรณ์” นอกจากนี้หากค้างจ่ายเกินที่กำหนดไว้ในสัญญา ผู้เอาประกันต้องจ่ายค่าปรับอีกด้วย

ตามปกติแล้ว ประกันภัยรถยนต์จะมีข้อกำหนดในการจ่ายค่าเบี้ย “ล่าช้าไม่เกิน 30 หรือ 60 วัน” ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท หากสงสัยว่าประกันรถยนต์แบบผ่อนจ่ายช้าได้ไหม คำตอบคือจ่ายตรงเวลาดีที่สุด เพื่อความอุ่นใจ มั่นใจในความคุ้มครอง ที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

แต่ถ้าจ่ายหรือเลือกประกันรถยนต์ ผ่อนไม่ใช้บัตรกับไฟแนนซ์ โบรกเกอร์ต่าง ๆ จะไม่มีผลต่อความคุ้มครอง และไม่มีกำหนดว่าจะต้องจ่ายภายในกี่วัน เนื่องจากทั้งสองจะทำหน้าที่จ่ายค่าประกันให้กับผู้เอาประกันก่อน (เต็มจำนวน) แล้วค่อยมาเรียกเก็บในภายหลัง หากจ่ายช้าเกินกว่าที่กำหนด ทางไฟแนนซ์หรือโบรกเกอร์จะมีการติดต่อเพื่อทวงถาม

จะเกิดอะไรขึ้นหากจ่ายค่าเบี้ยช้า จนประกันรถยนต์ขาด ?

หากจ่ายเบี้ยประกันช้า จนเป็นเหตุให้ประกันรถยนต์ขาด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือ “ความคุ้มครองสิ้นสุดทันที” ซึ่งตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุเกี่ยวกับวันและเวลาหมดอายุความคุ้มครองเอาไว้ว่า “หากเกิดอุบัติเหตุก่อนเวลา 16.30 น. ของวันครบกำหนดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันสามารถยื่นเคลมประกันได้”

ทั้งนี้ หากเบี้ยประกันขาดไปแล้ว แต่ยังมีใบเคลมอยู่ในมือ ผู้เอาประกันยังคงสามารถนำรถไปเคลมกับศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมในเครือได้ตามปกติ แต่ต้องอยู่ภายในระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ทางบริษัทประกันรถยนต์ออกใบเคลมให้เท่านั้น

ทำประกันรถยนต์แบบผ่อนกับที่ไหนได้บ้าง ?

ในส่วนของการเลือกประกันรถยนต์แบบผ่อน ในปัจจุบันสามารถเลือกได้ว่าต้องการทำประกันกับใคร โดยมีรายละเอียดในส่วนของ ‘ขั้นตอน’ ที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • 1. ทำประกันรถยนต์ ผ่อนเงินสดกับบริษัทโดยตรง

    แบบแรก คือ ทำประกันรถยนต์ ผ่อนไม่ใช้บัตรกับบริษัทประกันภัยโดยตรง ซึ่งสามารถเลือกบริษัทได้อย่างอิสระ พร้อมดำเนินการต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ตามต้องการ เมื่อต้องการเคลมประกันก็สามารถยื่นเรื่องได้เองกับบริษัทที่เลือกทำประกันไว้ โดยจะได้รับความคุ้มครองตามแบบประกันที่เลือกซื้อ

  • 2. ผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิตผ่านนายหน้าขายประกัน

    อีกหนึ่งช่องทางผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิต คือ การผ่อนผ่านโบรกเกอร์หรือนายหน้าขายประกัน ซึ่งเป็น ‘คนกลาง’ ระหว่างบริษัทประกันภัยกับผู้เอาประกัน ข้อดีของการผ่อนประกันรถยนต์แบบนี้ คือ สามารถเลือกเทียบได้จากหลายบริษัทประกันภัยชั้นนำ รวมถึงเปรียบเทียบประกันรถยนต์ต่าง ๆ ที่คุ้มค่ากับค่าเบี้ยมากที่สุด

ในกรณีที่ยังลังเล หรือไม่รู้ว่าจะทำประกันกับบริษัทไหนดี ที่ให้ความคุ้มครองตอบโจทย์ ค่าเบี้ยเหมาะสม ลองใช้โบรกเกอร์เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มครอง ก็ถือว่าเป็นการเลือกที่ช่วยคุณได้มากเลยทีเดียว

ข้อดีของการผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิต มีอะไรบ้าง ?

หลายคนอาจมองว่าประกันรถยนต์แบบผ่อน จะทำให้อดได้สิทธิพิเศษต่าง ๆ จากบัตรเครดิต หรือพลาดโอกาสในการสร้างเครดิตทางการเงินกับธนาคาร แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิตมีข้อดีที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ดังนี้

  • ได้รับความคุ้มครองเหมือนการผ่อนประกันรถยนต์ผ่านบัตรเครดิตทุกอย่าง
  • เลือกช่องทางการผ่อนเบี้ยประกันได้ รวมถึงเลือกงวดในการชำระได้ ไม่ว่าจะเป็น 6 เดือน หรือประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อน 10 เดือน เป็นต้น (เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัท)
  • มีเงินสำรองไว้ใช้เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
  • ผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ ได้ โดยไม่เสียดอกเบี้ย (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท)
  • ได้รับความคุ้มครองทันที ไม่จำเป็นต้องผ่อนชำระหมดก่อน
  • ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนครั้งเดียว ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น

ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อน 10 เดือน กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้ไหม ?

ซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อน 10 เดือน กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้ไหม ? | มิสเตอร์ คุ้มค่า

มิสเตอร์ คุ้มค่า เชี่ยวชาญในเรื่องประกันภัย และทำให้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินเป็นเรื่องง่าย สามารถเช็คราคาประกันภัยจากบริษัทชั้นนำในไทยได้อย่างอิสระ เพียงคลิกไม่กี่ครั้งก็เห็นราคาทันที ไม่ต้องรอติดต่อกลับ หรือถ้าหากสนใจประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อนได้ ที่นี่ก็มีให้เลือก โดยสามารถผ่อนชำระได้สูงสุด 10 เดือนผ่านบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ไม่บล็อกวงเงิน โดยมีขั้นตอนการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ดังนี้

  • 1. เข้าสู่เว็บไซต์ มิสเตอร์ คุ้มค่า

    ไปที่หน้าแรกของเว็บไซต์ มิสเตอร์ คุ้มค่า หรือไปที่หน้าประกันภัยรถยนต์ เพื่อดูข้อมูลประกันภัยประเภทต่าง ๆ รวมถึงประกันรถยนต์ไฟฟ้า คลิกปุ่ม “เช็คราคา” (ปุ่มสีม่วง) เพื่อเริ่มขั้นตอนการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์กับเราได้เลย

  • 2. ใส่ข้อมูลของคุณ

    เพียงตอบคำถามไม่กี่ข้อ ก็สามารถดูใบเสนอราคาประกันรถยนต์ของคุณได้ทันที โดยข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้เราคัดเลือกแผนประกัน และเสนอกรมธรรม์ที่ดีที่สุด ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

    • ข้อมูลส่วนบุคคล : เช่น ระยะเวลาที่ถือครองใบขับขี่, อายุ, สถานภาพสมรส
    • ข้อมูลรถยนต์ : เช่น ยี่ห้อรถ, รุ่นรถ, ปีที่ผลิต, ข้อมูลจดทะเบียน
    • ข้อมูลการขับขี่ : เช่น ลักษณะการใช้รถ, เลขไมล์ปัจจุบัน, ประกันการเคลมประกัน
  • 3. เปรียบเทียบราคา

    สามารถเช็คราคาประกันรถยนต์ พร้อมกับเปรียบเทียบกรมธรรม์จากบริษัทชั้นนำในประเทศไทย โดยใช้ตัวกรองเพื่อเลือกปรับค่าเสียหายส่วนแรก, ทุนประกัน, ส่วนผู้ขับขี่, ประเภทการซ่อม และความคุ้มครองต่าง ๆ เช่น การรับผิด, การชน หรือคุ้มครองครอบคลุมทั้งหมด

  • 4. เลือกแผนประกันรถยนต์

    หากได้แผนประกันที่ถูกใจแล้ว ให้คลิกปุ่ม “สนใจ” เพื่อดูรายละเอียด หรือคลิกปุ่ม “ดูแผนเพิ่มเติม” เพื่อดูแผนประกันรถยนต์เพิ่มเติมจากบริษัทเดียวกัน

  • 5. ยืนยันการซื้อประกันรถยนต์

    หลังจากเลือกแผนประกันรถยนต์ที่ดีที่สุดได้แล้ว ให้กรอกชื่อและเบอร์โทรศัพท์ พร้อมคลิกปุ่ม “ยืนยันข้อมูล” เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับหาคุณเพื่อสรุปการซื้อประกัน และให้รายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การตรวจสภาพรถ ช่องทางการชำระเบี้ย เป็นต้น

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่มั่นใจว่ามีวินัยทางการเงิน และไม่อยากจ่ายเงินก้อนในคราวเดียว ผ่อนประกันรถยนต์ ไม่มีบัตรเครดิตเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ และตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ แม้จะทำให้พลาดสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิต แต่การผ่อนประกันรถยนต์ก็ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่สามารถทดแทนกันได้ แต่ระวังอย่าขาดผ่อนเด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นอาจส่งผลต่อความคุ้มครองได้

คำจำกัดความ
​​สภาพคล่องทางการเงิน ​ความสามารถในการแปลงสินทรัพย์กลับเป็นเงินสด
​โบรกเกอร์ ​ตัวแทนขายประกันรถยนต์ หรือนายหน้าประกันวินาศภัย ที่เป็นคนกลางระหว่างผู้เอาประกันและบริษัทประกัน
​ใบเสนอราคา ​เอกสารที่เจ้าของธุรกิจจะต้องออกให้กับฝ่ายลูกค้า (ผู้ซื้อ) เพื่อให้ลูกค้าพิจารณาราคาสินค้าหรือบริการ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ​

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่