กับสถานการณ์ที่ไม่มีคนใช้รถคนไหนอยากเผชิญ แต่ถ้าวันนึงเกิดขึ้นกับคุณจะทำยังไง เกิดเหตุการณ์รถดับ รถเสีย โทรหาประกันได้ไหม? หรือโทรหาใครได้บ้าง ที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้แก่คุณ มิสเตอร์ คุ้มค่า รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจมาให้แล้ว ตามไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
รวมอาการที่พบบ่อย และวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีอะไรบ้าง ?
สำหรับเหตุการณ์รถเสียที่พบเจอได้บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะใช้รถในชีวิตประจำวัน หรือช่วงที่ต้องใช้รถเดินทางไกลอย่างช่วงเทศกาลหยุดยาวไม่ว่าจะปีใหม่ สงกรานต์ ฯลฯ หลัก ๆ มีทั้งหมด 3 อาการที่คนใช้รถมักเจอ แต่ละอาการมีวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่แตกต่างกันดังนี้
1. รถสตาร์ทไม่ติด รถดับกลางทาง
จริง ๆ แล้วเหตุการณ์รถสตาร์ทไม่ติดหรือรถดับกลางทาง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไดชาร์จชำรุด ขั้วลบของแบตเตอรี่หลวม หรือตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้ามีปัญหา เป็นต้น โดยวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นในกรณีที่รถยังไม่ดับทันที ให้รีบนำรถเข้าข้างทางก่อนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอื่น ๆ ที่อาจตามมา
แต่ถ้าเป็นกรณีที่รถดับไปแล้ว ไม่สามารถนำรถเข้าข้างทางหรือในจุดที่ปลอดภัยได้ ให้เปิดไฟฉุกเฉิน จะช่วยให้รถคันอื่น ๆ ระมัดระวังการขับขี่ให้มากขึ้น จากนั้นให้โทรขอความช่วยเหลือ
2. มีควันพุ่งออกมาจากฝากระโปรงรถ
อาการลักษณะนี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากเครื่องยนต์ร้อนเกินระดับการใช้งานปกติ ส่งผลให้น้ำในระบบหล่อเย็นเดือด และเกิดการระเหยจนดันออกมาจากฝาหม้อน้ำ วิธีแก้ คือ รีบเปิดไฟฉุกเฉินแล้วนำรถจอดริมทาง จากนั้นดับเครื่องยนต์ทันที พร้อมกับเปิดฝากระโปรงรถยนต์เพื่อระบายความร้อน
เมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์เริ่มเย็น ค่อย ๆ เปิดฝาหม้อน้ำออกทีละนิด เพื่อระบายความร้อนในหม้อน้ำก่อนเติมน้ำเข้าไป หากไม่พบความผิดปกติสามารถเดินทางต่อได้
3. รถยางแบน ยางรั่ว
การที่รถยางแบนระหว่างทาง เกิดจากการลืมเช็กลมยางก่อนออกเดินทาง ส่วนอาการรถยางรั่วเกิดจากการขับรถเหยียบของแหลมคม แนะนำว่าไม่ควรฝืนขับต่อ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ ตามมาได้ ทันทีที่สัมผัสได้ว่าช่วงล่างของรถเปลี่ยนไป ให้สังเกตก่อนว่ายางมีความผิดปกติหรือไม่
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น คือ หากมีอะไหล่ติดรถและเปลี่ยนเองเป็น ให้เปลี่ยนยางด้วยตัวเองก่อนนำรถเข้าศูนย์ที่ใกล้ที่สุด แต่ถ้าเปลี่ยนยางอะไหล่เองไม่เป็น ให้โทรขอความช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน หรือขอความช่วยเหลือจากผู้คนรอบ ๆ ก่อนนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็ก
ในกรณีที่ไม่รู้จะติดต่อใครเพื่อขอความช่วยเหลือเมื่อต้องเดินทางไกล โดยเฉพาะช่วงเทศกาลก็ไม่ต้องกังวล เพราะทางรัฐบาลยินดีให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน พร้อมอำนายความสะดวกตลอดการเดินทางอย่างเต็มที่ เช่น ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 ที่ผ่านมา นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน จัดขึ้น เพื่อให้บริการตรวจสภาพความพร้อมของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ก่อนการเดินทาง มีรายการตรวจเช็กมากกว่า 20 รายการ เช่น ระบบเบรก ยาง และเครื่องยนต์ เป็นต้น โดยไม่เสียค่าบริการใด ๆ (ที่มา : เริ่มแล้ว "ตรวจเช็คสภาพรถฟรี" ก่อนเที่ยวสงกรานต์)
รถเสียกลางทาง ทําอย่างไร ?
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์รถเสีย รถดับระหว่างทาง ในตอนที่ขับรถในต่างจังหวัดหรือในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน จะเรียกใช้บริการศูนย์ช่วยเหลือรถเสียก็ไม่รู้ว่าจะต้องติดต่อยังไง เราได้รวบรวมวิธีรับมือเบื้องต้นมาให้แล้ว ตามไปดูกันเลย
- อันดับแรก แนะนำให้ตั้งสติ เนื่องจากเหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด ฉะนั้นการใช้สติและคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้
- หากสามารถประคองรถเข้าข้างทางได้ จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ ให้เปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณให้กับรถคันอื่น ๆ
- จากนั้นโทรขอความช่วยเหลือรถเสียจากเบอร์ที่สามารถโทรไปได้ เช่น 191, 1193 หรือถ้ารถเสีย รถดับในพื้นที่ใกล้เคียงที่รู้จักช่างในละแวกนั้น ให้โทรหาได้เลย
แต่ในกรณีที่ไม่รู้จักใครเลย และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้ หรือล่าช้าเกินกว่าที่คุณจะรอไหว มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้รวบรวมเบอร์ติดต่ออื่น ๆ ที่คุณสามารถติดต่อได้มาไว้ให้ด้านล่าง
รถเสีย รถดับกลางทาง โทรหาใครได้บ้าง ?
เมื่อเกิดเหตุการณ์รถเสีย รถดับระหว่างทาง คุณสามารถติดต่อผู้ที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้โดยตรงทั้งหมด 3 ช่องทางด้วยกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. เบอร์ฉุกเฉิน
ทันทีที่เกิดเหตุการณ์รถเสียกลางทาง ควรแจ้งเบอร์ฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ ดังนี้
- 1193: สายด่วนตำรวจทางหลวง ช่วยเหลือด้านการจราจรและเหตุฉุกเฉินบนถนนหลวง
- 1644: ศูนย์บริการฉุกเฉินช่วยเหลือบนท้องถนน (สามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง)
- 1669: ศูนย์บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ในกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
2. บริษัทประกันรถยนต์
กรณีที่คุณทำประกันรถยนต์เอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้สามารถโทรเรียกประกันได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากประกันรถยนต์ส่วนใหญ่ครอบคลุมบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน เพียงแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับอาการรถเสีย และสถานที่เกิดเหตุ บริษัทประกันจะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือทันที ฉะนั้นถ้าอยากได้ความคุ้มครองจัดเต็ม แนะนำให้เปรียบเทียบประกันรถยนต์ให้ดีก่อนซื้อ
ประกันรถยนต์ชั้นไหน มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี ?
ตามปกติแล้ว ประกันรถยนต์ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี จะอยู่ในประกันชั้น 1 ซึ่งมักจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เช่น ส่งน้ำมัน, ลากรถเมื่อรถเสีย, เปิดประตูรถกรณีลืมกุญแจ หรือกุญแจหาย รวมถึงการช่วยเหลือในกรณีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนน
ในขณะที่ประกันชั้น 2 และชั้น 3 บางบริษัท อาจมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินเช่นกัน แต่อาจต้องตรวจสอบเงื่อนไขในกรมธรรม์ให้ชัดเจนก่อนโทรเรียกประกัน เพราะอาจจะเป็นบริการเสริมที่ต้องจ่ายเพิ่ม หรือขึ้นอยู่กับประเภทของกรมธรรม์ที่เลือก ทั้งนี้ประกันชั้น 3 มักไม่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินให้ในราคาพื้นฐาน
3. ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ
หากรถเสีย รถดับในจุดที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้ อาจต้องติดต่อศูนย์บริการ อู่ซ่อมรถ หรือศูนย์ช่วยเหลือรถเสียที่ใกล้ที่สุดให้มาช่วยลากรถไปยังสถานที่ซ่อมแซม
ไม่อยากรถดับ รถเสียระหว่างทาง ป้องกันยังไงได้ ?
นอกจากสถานการณ์รถดับ รถเสียระหว่างทาง จะทำให้เกิดความกังวลใจระหว่างเดินทางแล้ว แน่นอนว่ายังทำให้เสียเวลามาก ๆ ด้วย หากไม่อยากเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ดังกล่าว มีวิธีป้องกันง่าย ๆ ดังนี้
1. ตรวจเช็กรถยนต์เป็นประจำ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการดูแลรักษารถยนต์เป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาระหว่างขับขี่ได้เป็นอย่างดี แนะนำว่าควรตรวจสอบระบบเบรก ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ และระบบของเหลวต่าง ๆ ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
2. พกอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถ
นอกจากนี้ยังควรพกอุปกรณ์ฉุกเฉินติดรถเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเปลี่ยนยางรถยนต์ ยางอะไหล่ สายพ่วงแบตเตอรี่ ไฟฉาย ฯลฯ เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่นอกเหนือจากรถดับ รถเสีย จะได้ช่วยเหลือตัวเองในขั้นเบื้องต้นได้
3. ทำประกันรถยนต์ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
ทั้งนี้ การเลือกทำประกันรถยนต์ที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมาก ๆ เช่นกัน เพราะจะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์รถดับหรือรถเสีย ขอแค่มีประกันรถยนต์ก็อุ่นใจได้มากกว่า เพราะสามารถขอความช่วยเหลือรถเสีย โทรหาประกันได้ตลอดเวลา เพราะปกติแล้วบางบริษัทประกันจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีก็อาจได้แถมจากโบรคเกอร์ หรือจากยี่ห้อรถยนต์ ซึ่งสามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ทั้งหมดเช่นกัน
คำจำกัดความ
ปัญหาเฉพาะหน้า | ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ และจะต้องรีบแก้ไขให้ทันท่วงที |
โบรคเกอร์ | ตัวแทนขายประกันรถยนต์ หรือนายหน้าประกันวินาศภัย ที่เป็นคนกลางระหว่างผู้เอาประกันและบริษัทประกัน |
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน | บริการเสริมที่ทางบริษัทประกันมีไว้เพื่อคอยดูแลและบริการให้แก่ลูกค้า เมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดต่างๆ |