มือใหม่หัดขับ ! ยิ่งต้องมี ประกันภัยรถยนต์ เป็นวัยรุ่นควรเลือกกรมธรรม์ประกันภัยแบบไหนดี

อันดับแรกมาตอบคำถามยอดฮิตกันก่อนดีกว่า ต้องขอบอกก่อนว่าว่าการจะทำประกันรถยนต์หรือไม่ทำนั้น จะยึดตามประกันภัยรถยนต์ 2 ประเภท ดังต่อไปนี้

• 1. ประกันรถยนต์ภาคบังคับ (Compulsory Thrid Party Insurance)

  คือ การประกันภัยรถยนต์ที่กำหนดให้เจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถ “ต้องทำประกันรถยนต์” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือเรียกว่า “การประกันภัย พรบ รถยนต์” หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมายคือปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งวัตถุประสงค์ของประกันรถยนต์ภาคบังคับก็เพื่อให้ผู้ขับขี่หรือผู้ที่ประสบภัยจากรถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นการประสบภัยจากรถที่ใช้ สิ่งที่บรรทุกติดตั้งมากับตัวรถ หรืออยู่ในทาง จนส่งผลอันตรายต่อร่างกาย ชีวิต หรืออนามัย ได้รับการชดเชยและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น

   
• 2. ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ (Voluntary Motor Insurance)

  คือ ประกันที่เกิดจากความสมัครใจของเจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถ หรือผู้ขับขี่ โดยไม่ได้มีภาคกฎหมายบังคับ เพื่อวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวรถ หรือความรับผิดชอบของผู้เอาประกันภัยที่มีต่อบุคคลภายนอก ในปัจจุบันประกันรถยนต์ประเภทนี้ มีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่

   
  • ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1
  • ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 2
  • ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 3
  • ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 4 หรือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก
  • ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 5 หรือกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คุ้มครองภัยเฉพาะ แบบประกัน 2 พลัส และประกัน 3 พลัส

ในเมื่อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ใครจะทำก็ได้หรือไม่ทำก็ได้ แต่ถ้าหากคุณตัดสินใจที่จะไม่ทำ ผลที่ตามมาในภายภาคหน้า จะมีอะไรบ้างนะ ? ที่นี่มีคำตอบ

• ซื้อรถผ่านไฟแนนซ์ไม่ได้

  หากคุณซื้อรถยนต์ด้วยเงินสดก็คงจะไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ถ้าหากต้องการผ่อนไฟแนนซ์กับบริษัทสินเชื่อ จะบังคับให้ทำประกันภัยรถยนต์ในปีแรกของการผ่อนเพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ

   
• ต้องระมัดระวัง และมีสติในการขับรถมากกว่าเดิม

  เพราะอุบัติเหตุรถยนต์เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากคุณไม่มีบริษัทประกันภัยคอยซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็จะต้องมีสติและระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ไม่อย่างนั้นคุณนั่นแหละที่จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายหรือค่าซ่อมทั้งหมด

   
• รถน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือรถหาย หายแล้วหายเลย พังแล้วพังเลยไม่ได้อะไรคืน

  ภัยธรรมชาติ ถือเป็นภัยพิบัติที่ยากจะควบคุม หากคุณไม่มีประกันรถยนต์แล้วเกิดภัยพิบัติ หรือเกิดการโจรกรรมขึ้น คุณก็จะไม่สามารถเคลมประกันหรือรับค่าชดเชยอะไรเลย

   

• เบี้ยประกัน 21,338 บาท  
  • ทุนประกันภัย : 1,100,000 บาท
  • ค่าส่วนแรก : -
  • ทรัพย์สินบุคคลภายนอก : 1,000,000 บาท
  • อู่ซ่อม : ซ่อมอู่
  • ไฟไหม้ และการโจรกรรม : 1,100,000 บาท
  • ประกันน้ำท่วม : 1,100,000 บาท
  • อุบัติเหตุส่วนบุคคล : 100,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาล : 100,000 บาท
  • ประกันตัวผู้ขับขี่ : 200,000 บาท
  • รับผิดชอบต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก : 1,000,000 บาท
  • การเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (ต่อคน) : 1,000,000 บาท
  • การเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (สูงสุด) : 10,000,000 บาท

• เบี้ยประกัน 22,700 บาท  
  • ทุนประกันภัย : 1,100,000 บาท
  • ค่าส่วนแรก : -
  • ทรัพย์สินบุคคลภายนอก : 5,000,000 บาท
  • อู่ซ่อม : ซ่อมอู่
  • ไฟไหม้ และการโจรกรรม : 1,100,000 บาท
  • ประกันน้ำท่วม : 1,100,000 บาท
  • อุบัติเหตุส่วนบุคคล : 200,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาล : 200,000 บาท
  • ประกันตัวผู้ขับขี่ : 300,000 บาท
  • รับผิดชอบต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก : 5,000,000 บาท
  • การเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (ต่อคน) : 1,000,000 บาท
  • การเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (สูงสุด) : 10,000,000 บาท

• เบี้ยประกัน 17,200 บาท  
  • ทุนประกันภัย : 1,100,000 บาท
  • ค่าส่วนแรก : -
  • ทรัพย์สินบุคคลภายนอก : 5,000,000 บาท
  • อู่ซ่อม : ซ่อมอู่
  • ไฟไหม้ และการโจรกรรม : 1,100,000 บาท
  • ประกันน้ำท่วม : 1,100,000 บาท
  • อุบัติเหตุส่วนบุคคล : 100,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาล : 100,000 บาท
  • ประกันตัวผู้ขับขี่ : 200,000 บาท
  • รับผิดชอบต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก : 5,000,000 บาท
  • การเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (ต่อคน) : 1,000,000 บาท
  • การเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (สูงสุด) : 10,000,000 บาท