โรคมะเร็ง (Cancer) หรือการ เป็นมะเร็ง คือภาวะที่เซลล์ในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงในระดับพันธุกรรม มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ยากต่อการควบคุม และในท้ายที่สุดก็แพร่กระจายไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย เช่น สมอง กระดูก ตับ ปอด เป็นต้น หลายคนจึงเกิดอาการวิตกกังวล กลัวว่าชีวิตของตัวเองจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เนื่องจากยังไม่รู้จักโรคนี้ดีพอ ดังนั้นวันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับโรคมะเร็งให้มากขึ้น เพื่อเรียนรู้วิธีดูแลสุขภาพ และเตรียมพร้อมรับมือกับโรคร้ายได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ก็ยังจะมาชี้แนะแนวทาง “การเลือกซื้อประกันมะเร็ง” ว่าควรดูจากอะไร และไม่ควรมองข้ามอะไร เพื่อให้คุณสามารถเลือกความคุ้มครองได้อย่างเหมาะสม รวมถึงสามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้มากที่สุด หากเรื่องราวที่พูดถึงไปเมื่อสักครู่ เปรียบเสมือนเรื่องราวที่เขียนขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ แนะนำให้คุณเลื่อนอ่านจนจบ เพราะ มิสเตอร์ คุ้มค่า หยิบยกรายละเอียดต่าง ๆ มาบอกต่อคุณแบบละเอียดยิบ รับรองว่าช่วยคุณได้เยอะแน่นอน !
สาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็ง มีอะไรบ้าง ?
ในทางการแพทย์ปัจจุบัน ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า สาเหตุของโรคมะเร็ง เซลล์มะเร็งเกิดจากอะไร แต่ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ถือเป็นชนวนสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้เช่นกัน โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย
- สารเคมีบางชนิด
เช่น สารก่อมะเร็ง ควันบุหรี่ เขม่ารถยนต์ เชื้อรา เนื้อสัตว์รมควัน สีย้อมผ้า และสารเคมีบางชนิดที่เกิดจากขบวนการทางอุตสาหกรรม
- รังสีต่าง ๆ
เช่น รังสีอัลตราไวโอเลตแสงแดด และรังสีอื่น ๆ
- การติดเชื้อเรื้อรัง
เช่น ไวรัสตับอักเสบบี (ก่อให้เกิดโรคมะเร็งตับ), Human Papilloma Virus (ก่อให้เกิดโรคมะเร็งของเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ), Epstein Barr Virus (ก่อให้เกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง หรือมะเร็งโพรงหลังจมูก) และ Helicobacter Pylori (ก่อให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร
- พยาธิ
เช่น พยาธิใบไม้ตับ ก่อให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
สาเหตุจากภายในร่างกาย
-
การระคายเคืองที่เกิดซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน
-
ภาวะทุพโภชนาการ
-
กรรมพันธุ์ที่ผิดปกติ
-
ภูมิคุ้มกันที่บกพร่อง
-
ความไม่สมดุลทางฮอร์โมน
อาการที่ส่อว่าคุณอาจเป็นมะเร็ง
โรคมะเร็งไม่มีอาการเฉพาะ อาการโรคมะเร็งที่สามารถบ่งบอกได้ทันทีว่า “นี่แหละคืออาการแรกเริ่มของการเป็นมะเร็ง” แต่จะมีอาการคล้ายกับการอักเสบของเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เป็นมะเร็ง และมีอาการแย่ลงเรื่อย ๆ หากมีอาการดังต่อไปนี้ นานติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ ตรวจมะเร็งเป็นการด่วน
-
มีเสมหะ น้ำลาย หรือเสลดปนเลือดบ่อย
-
ไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด
-
ลมหายใจหรือกลิ่นปากรุนแรง
-
เลือดกำเดาออกเรื้อรัง
-
ปาน ไฝ หรือหูด โตเร็วผิดปกติหรือเป็นแผลจากการแตก
-
ต่อมน้ำเหลืองโต คลำได้ แข็งแต่ไม่เจ็บ และโตขึ้นเรื่อย ๆ
-
มีก้อนเนื้อโตเร็ว หรือมีแผลเรื้อรังนานกว่า 1-2 สัปดาห์
ระยะของโรคมะเร็ง
ความรุนแรงของโรคมะเร็ง สามารถสังเกตได้จากระยะของโรคมะเร็ง หรือที่ทางการแพทย์เรียกกันว่า การลุกลามและแพร่กระจาย โดยทั่วไปโรคมะเร็งจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังนี้
- ระยะที่ 1
มีก้อนเนื้อและแผลมะเร็งขนาดเล็ก ยังไม่เกิดการลุกลาม
- ระยะที่ 2
มีก้อนเนื้อและแผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มเกิดการลุกลามไปยังภายในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ
- ระยะที่ 3
มีก้อนเนื้อและแผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มเกิดการลุกลามไปยังเนื้อเยื่อ อวัยวะข้างเคียง และลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้กับเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะที่เป็นมะเร็ง
- ระยะที่ 4
ถือเป็นระยะที่รุนแรง มีก้อนเนื้อและแผลมะเร็งขนาดใหญ่มาก เริ่มเกิดการลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ อวัยวะข้างเคียงจนทะลุ ต่อมน้ำเหลือง กระแสโลหิต หลอดน้ำเหลือง กระแสน้ำเหลือง รวมถึงเนื้อเยื่อบริเวณอื่น ๆ เช่น สมอง ไขกระดูก กระดูก ปอด ตับ ต่อมหมวกไต เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีมะเร็งระยะ 0 (ศูนย์) ยังไม่จัดเป็นมะเร็ง เนื่องจากเกิดการลุกลามไปส่วนอื่น ๆ ซึ่งจากอาการของมะเร็งทั้ง 4 ระยะจะเห็นว่า แค่เริ่มออกอาการเยอะ ๆ เริ่มมีการลุกลามอย่างในระยะที่ 2 ก็สามารถตีเป็นมะเร็งขั้นวิกฤติได้แล้ว
หลักการ เลือกซื้อประกันมะเร็ง
ประกันมะเร็ง ถือเป็นความคุ้มครองที่ช่วยคลายความกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดจากการพักรักษาโรคมะเร็ง การเบิกค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าชดเชยต่าง ๆ แต่การตัดสินใจซื้อประกันมะเร็ง จะต้องดูเรื่องอะไรกันบ้าง ? ที่นี่มีคำตอบ
รูปแบบกรมธรรม์
ส่วนใหญ่ประกันมะเร็งจะแบ่งความคุ้มครองออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
-
แบบจ่ายเงินก้อน: ได้รับเมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง
-
แบบจ่ายวงเงินค่ารักษา: คุ้มครองการรักษาตามวงเงินที่กำหนด
หากต้องลดภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูง แนะนำว่าควรมีทั้งแบบจ่ายเงินก้อน และจ่ายวงเงินค่ารักษาพยาบาล เพราะคุณจะได้รับเงินก้อนไว้ใช้จ่ายสำรอง และมีเงินค่ารักษาในระหว่างที่รักษาตัว
ค่าเบี้ยประกัน
การคิดค่าเบี้ยประกันมะเร็งรายปี แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
-
ค่าเบี้ยประกันแบบคงที่
-
ค่าเบี้ยประกันแบบปรับเพิ่มตามช่วงอายุ
สำหรับค่าเบี้ยประกันแบบคงที่ จะให้ความคุ้มค่าที่มากกว่า เพราะถ้าหากคุณทำประกันในตอนที่อายุยังน้อย ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งถูก ทำให้คุณสามารถวางแผนการเงินในระยะยาวได้ง่ายขึ้น
ข้อยกเว้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม ก็คือข้อยกเว้นในเรื่องต่าง ๆ ว่าประกันมะเร็งที่คุณสนใจไม่คุ้มครองมะเร็งอะไร ระยะไหน ถ้าจะให้ดีควรตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน และควรเลือกประกันที่ครอบคลุมทุกระยะของโรคมะเร็ง