เคล็ดลับชะลอวัย ดูอ่อนกว่าวัยแถมสุขภาพดีด้วย ต้องทำยังไงบ้างนะ ?

เคล็ดลับชะลอวัย พาคุณห่างไกลความแก่

“ความเจ็บป่วย” คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณ “แก่เร็ว” โดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วนลงพุง และโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งความเจ็บป่วยทั้งหมดนี้สืบเนื่องมาจากการที่ “ร่างกายของคนเราสร้างอนุมูลอิสระมากเกินไป”

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าร่างกายของคนเราสามารถสร้างอนุมูลอิสระได้เอง และในร่างกายยังมี “สารต้านอนุมูลอิสระ” ที่ช่วยรักษาสมดุลไม่ให้มีอนุมูลอิสระมากเกินไป แต่ก็นับเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงแต่ต้านได้อย่าง เนื่องจากในปัจจุบันมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ช่วยให้คุณแก่กว่าวัยได้มากมาย เช่น การสูบบุหรี่ มลภาวะ ความเครียด และอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน ซึ่งเราก็ได้รวบรวม “สารอาหาร” ที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระมาให้คุณทำความเข้าใจดังนี้

สารอาหารที่มีฤทธิ์ “ต้าน” อนุมูลอิสระ

1. วิตามิน อี

   มีคุณสมบัติในการชะลอปฏิกิริยาลูกโซ่ของอนุมูลอิสระ ส่วนใหญ่จะพบในน้ำมันพืชที่ไม่โดนความร้อน เช่น น้ำมันเมล็ดคำฝอย น้ำมันเมล็ดทานตะวัน หากต้องการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย ควรรับประทาน (ทั้งหญิงและชาย) วันละ 15 มิลลิกรัม และควรรับประทานหลังมื้ออาหารทันที

2. วิตามิน ซี

   มีคุณสมบัติในการป้องกันและช่วยชะลอการเกิดออกซิเดชั่น หรือตัวที่ทำให้เซลล์แก่เร็ว ป่วยง่าย ส่วนใหญ่พบเจอได้ในมะละกอดิบ ฝรั่ง ถ้าจะให้ดีที่สุดแนะนำให้เพศชายทานวันละ 90 มิลลิกรัม และเพศหญิงทานวันละ 75 มิลลิกรัม รวมถึงควรรับประทานจากอาหารสด เนื่องจากวิตามินซีสลายตัวได้ค่อนข้างเร็ว

3. สังกะสี

   มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นและควบคุมการทำงานของเอนไซม์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย พบมากที่สุดในเนื้อสัตว์และหอยนางรม แนะนำให้รับประทานร่วมกับโปรตีน เพราะจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสังกะสีได้ดี และไม่ควรรับประทานคู่กับชา กาแฟ ปริมาณที่แนะนำคือเพศชายทานวันละ 13 มิลลิกรัม และเพศหญิงทานวันละ 7 มิลลิกรัม

อยาก “โกงความแก่” ห้ามทำ 3 สิ่งนี้ !

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจสิ่งที่ควรทำ/ทาน เพื่อชะลอวัยของคุณให้สดใสและสุขภาพดีอยู่เสมอแล้ว ลำดับต่อมาเรามาดู “สิ่งต้องห้าม” กันบ้างดีกว่า ซึ่งมีทั้งหมด 3 ข้อดังนี้

• 1. ความอ้วน

  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้ชีวิตประจำวันของคนในปัจจุบัน นับเป็นบ่อเกิดของโรคอ้วนที่น่ากลัวที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคม การตามหาร้านอาหารใหม่ ๆ หรือแม้กระทั่งการนั่งทำงานอยู่กับหน้าจอ โดยไม่ลุกไปไหนเลยทั้งวัน และหลายคนก็มีความคิดว่า “แค่ลงพุง” คงไม่เป็นอะไรมากนัก เพราะไม่ได้อ้วน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การลงพุงอันตรายมากที่สุดแล้วล่ะ

  เพราะการอ้วนลงพุงมักเป็น “สาเหตุ” ของโรคร้ายต่าง ๆ มากมาย เช่น เบาหวาน ตับอักเสบ-ตับแข็ง ความดันโลหิตสูง โรคข้อและกระดูก รวมถึงโรคมะเร็งด้วย แนะนำให้หมั่นสังเกตร่างกายของตัวเองให้ดี ซึ่งตามเกณฑ์แล้วผู้ชายควรมีรอบเอวไม่เกิน 36 นิ้ว และผู้หญิงควรมีรอบเอวไม่เกิน 32 นิ้ว

• 2. รับประทานสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

  “สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม” นับเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูหรือเนื้อวัว เพราะจะทำให้ร่างกายสะสมพิษชนิดเดียวกัน แถมยังมีไขมันและกล้ามเนื้อที่ย่อยยาก แนะนำให้หา “แหล่งโปรตีนอื่น” ที่มีคุณภาพมารับประทานแทน เช่น ธัญพืช เห็ด ปลาทะเลน้ำลึก เป็นต้น

• 3. บริโภคไขมันทรานส์

  “ไขมันทรานส์” เกิดจากการแปรรูป ที่ย่อยสลายได้ค่อนข้างยากเมื่อเทียบกับไขมันประเภทอื่น ๆ เช่น ขนมเค้ก ครีมเทียม เบเกอรี่ ฯลฯ และหลายคนยังมีความเชื่อผิด ๆ ว่า การใช้ “น้ำมันไม่อิ่มตัว” เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันพืช มาปรุงอาหารประเภททอดจะดีกว่าการใช้น้ำมันอิ่มตัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว น้ำมันประเภทไขมันไม่อิ่มตัวสามารถจับไฮโดรเจน จนกลายเป็นไขมันทรานส์ได้ รวมถึงก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในร่างกาย และกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระในร่างกายด้วย

หากอ่านทั้ง 3 ข้อจบแล้ว หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องยากที่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ค่อยได้ แต่ถ้าคุณลองปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต และเลือกรับประทานอาหาร/สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย งดสิ่งที่เป็นอันตรายลงสักหน่อย รับรองเลยว่าจะช่วยชะลอวัย และช่วยให้คุณมีสุขภาพดี สภาพร่างกายที่แข็งแรง สมบูรณ์ ซึ่งการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ดี ห่างไกลจากโรคร้ายต่าง ๆ ได้มากเลยทีเดียว