ลดเสี่ยงมะเร็งเต้านม เริ่มได้ที่ตัวคุณเพียงหมั่นตรวจสอบอยู่เป็นประจำ!

       สาวๆ รู้ไหมว่า? การตรวจสอบตัวเองอยู่เป็นประจำช่วยลดเสี่ยงมะเร็งได้! เพราะถึงแม้ว่า มะเร็งเต้านม จะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของผู้หญิงชายไทย แต่ถ้าหากตรวจพบตั้งแต่ “ระยะเริ่มแรก” และเข้ารับการรักษาทันเวลาจะสามารถ “หายขาด” จากโรคร้ายคร่าชีวิตได้เลยล่ะ ซึ่งในวันนี้ MrKumka จะพาสาวทุกคนไปทำความรู้จักโรคร้าย สาเหตุ และวิธีรักษา เพื่อเตรียมรับมือก่อนสายเกินแก้ แต่จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร? ไปติดตามพร้อมๆ กันได้เลย

ตามปกติแล้วผู้ป่วยมะเร็งเต้านม มักไม่มี “อาการเริ่มแรก” แสดงให้เห็น แต่สามารถจับสังเกตสัญญาณเตือนได้ง่ายๆ โดย 6 สัญญาณเตือนที่ว่า มีรายละเอียดดังนี้

• 1. คลำพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านม หรือใต้รักแร้

  วิธีนี้สาวๆ สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยก้อนเนื้อที่พบมักจะเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้ ซึ่งสาว ๆ ควรจะตรวจเต้านมด้วยตัวเอง “ทุกเดือน” หลังรอบเดือนหมด ประมาณ 1 สัปดาห์

   

• 2. ขนาดหรือรูปร่างของเต้านมเปลี่ยน

  ตามปกติแล้วเต้านมของคนเรา มักจะมีขนาดและรูปร่างที่ต่างกันอยู่แล้ว แนะนำให้สังเกตความเปลี่ยนแปลงของเต้านมข้างใดข้างหนึ่ง หากพบว่ามีลักษณะผิดปกติไปจากเดิม จะช่วยให้รู้เท่าทันโรคร้ายตั้งแต่ “ระยะเริ่มต้น”

   

• 3. ผิวหนังที่เต้านมบุ๋ม คล้ายลักยิ้ม

  รวมถึงลักษณะบวมหนาเหมือนเปลือกส้ม มีสีและบริเวณลานหัวนมที่เปลี่ยนไป แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เนื่องจากอาจเป็นอาการของเซลล์มะเร็งที่ลุกลามมาถึงชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง

   

• 4. มีน้ำเหลืองหรือของเหลวไหลออกจากหัวนม

  หากน้ำเหลืองหรือของเหลวไหลออกจากหัวนม ในลักษณะคล้ายสีเลือด และออกจากหัวนมเพียงรูเดียว ควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจเต้านมโดยละเอียด

   

• 5. มีอาการเจ็บผิดปกติที่เต้านม หรือผิวหนังของเต้านมอักเสบ

  หากอาการเจ็บเต้านมเกิดขึ้นในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน หรือพบว่าผิวหนังรอบ ๆ เต้านมบวม อักเสบ โดยเฉพาะในขณะที่คลำพบก้อนเนื้อร่วมด้วย ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเต้านมทันที อย่าละเลยหรือคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาเด็ดขาด

   

• 6. มีผื่นคันบริเวณเต้านม รักษาแล้วไม่หายขาด

  เบื้องต้นผื่นคันอาจเกิดขึ้นที่หัวนม หรือบริเวณเต้านม ลักษณะเป็นผื่นแดง แสบๆ คันๆ แม้จะเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผิวหนังแต่ยังไม่หายขาด จนกลายเป็นแผลตกสะเก็ด ควรพบแพทย์เพื่อตรวจมะเร็งเต้านม เนื่องจากเซลล์มะเร็งลามขึ้นมาที่ผิวหนังด้านบน บริเวณหัวนมหรือเต้านม ทำให้เกิดอาการคันหัวนม

   

• 1. ความผิดปกติทางกรรมพันธุ์

  คนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะ “ญาติสายตรง” ยิ่งมีความเสี่ยงสูง ผู้หญิงที่มีแม่ น้องสาว พี่สาว หรือบุตรเป็นมะเร็งเต้านมก่อนอายุ 50 ปี ควรได้รับการตรวจมะเร็งเต้านม

   

• 2. อายุ

  เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความผิดปกติของยีนส์ในเซลล์เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดมะเร็งได้

   

• 3. มีประจำเดือนตอนอายุน้อย

  หากมีประจำเดือนในตอนที่อายุน้อยกว่า 12 ปี หรือหมดประจำเดือนช้าตอนที่อายุมากกว่า 50 ปี ส่งผลให้ร่างกายสัมผัสกับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจนเตอโรนนานกว่าผู้หญิงปกติ

   

• 4. เต้านมมีเนื้อเยื่อแน่น

  หมายความว่า มี “ต่อมน้ำนม” มากกว่าผู้หญิงทั่วไป ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับแพทย์พบความผิดปกติได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเต้านมหรือการใช้เครื่องมือเพื่อวินิจฉัย

   

• 5. ประวัติดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านม สาวๆ ที่ดื่มมากกว่า 2-5 แก้วต่อวัน มีความเสี่ยง “สูงกว่า” ผู้หญิงที่ไม่ดื่ม 1.5 เท่า

   

การวินิจฉัยมะเร็งเต้านมจะสามารถทำได้ในกรณีที่ตรวจพบก้อนผิดปกติแล้ว รวมถึงในกรณีที่พบ “แคลเซียม” เป็นจุดที่ผิดปกติจากการเอกซเรย์ ซึ่งวิธีวินิจฉัยที่แม่นยำคือการนำ “ชิ้นเนื้อ” ออกมาตรวจ แต่ถ้าหากไม่สามารถตรวจด้วยวิธีการนี้ได้ แพทย์จะพิจารณาการตรวจด้วยวิธีอื่นแทน ได้แก่

• 1. การตรวจทางรังสีวิทยา

  • การใช้เครื่องถ่ายภาพรังสีเต้านม เพื่อการวินิจฉัย
  • การใช้คลื่นเสียงความถี่สูงถ่ายภาพเต้านม
  • การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าถ่ายภาพเต้านม
• 2. การเก็บชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา
• 3. การตรวจชิ้นเนื้อทางพยาธิวิทยา
• 4. การตรวจเลือด

• 5. การตรวจเพิ่ม

  • การถ่ายภาพเอกซเรย์ทรวงอก
  • การตรวจการลุกลามของมะเร็งไปยังกระดูก
  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อสร้างภาพ 3 มิติ ของอวัยวะต่าง ๆ เพื่อความละเอียดในการตรวจหาการลุกลามของมะเร็ง

การรักษามะเร็งเต้านมในปัจจุบัน จะแบ่งออกเป็น 2 วิธี โดยมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน ดังนี้

• 1. เทคนิค 3 มิติ ค่ารักษาประมาณ 84,500 บาท แบ่งเป็น

  • ค่าจำลองการฉายรังสี 8,500 บาท
  • ค่าคำนวณ 6,000 บาท
  • ค่าฉายรังสี 62,500 บาท (2,500x25 ครั้ง)
  • Boote electron 3,500 บาท
  • ค่า Port Film 4,000 บาท

• 2. เทคนิค 2 มิติ ค่ารักษาประมาณ 69,300 บาท แบ่งเป็น

  • ค่าจำลองการฉายรังสี 2,000 บาท
  • ค่าคำนวณ 800 บาท
  • ค่าฉายรังสี 60,000 บาท (2,400x25 ครั้ง)
  • Boote electron 3,500 บาท
  • ค่า Port Film 3,000 บาท

ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม โดยปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงมีมากมาย อาทิ อายุ พันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งนับเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงค่อนข้างยาก จึงเป็นเหตุผลที่สาว ๆ ควรสำรวจความผิดปกติของร่างกายและเต้านมสม่ำเสมอ เพราะค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล “แพงมาก” แต่ถ้าหากคุณกังวลใจ กลัวว่าวันหนึ่งเป็นขึ้นมาจะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว MrKumka ช่วยคุณได้ ! เพราะเรามีบริการ เปรียบเทียบประกันมะเร็งออนไลน์ ที่สามารถเช็คเบี้ยประกันเริ่มต้น ความคุ้มครอง และโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ แบบครบ จบทุกความต้องการ !