หากคุณอยากใช้ชีวิตประจำวันให้มีความสุข การดูแลฟันและสุขภาพในช่องปาก ก็นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในเรื่องของ “การรับประทานอาหาร” คุณจะมีความสุขมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องพบเจอกับอาการเสียวฟัน แถมยังมีรอยยิ้มที่สดใส สามารถดูแลช่องปากตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการเข้ารับการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่อง อย่าได้คิดปล่อยปละละเลยเด็ดขาด
4 พื้นฐานการดูแลฟัน เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี ที่ทุกคนต้องรู้
การดูแลช่องปากให้มีสุขภาพดีเริ่มง่าย ๆ ที่ตัวคุณ โดยจะต้องให้ความเอาใจใส่ในเรื่องของ “ความสะอาด” ให้มาก ๆ เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามารบกวน ซึ่งเราได้รวบรวม 4 วิธีดูแลช่องปาก มาให้คุณได้ทำความเข้าใจ ดังนี้
1. ดูแลเรื่องการรับประทานอาหาร
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า คนเราควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แต่คุณรู้ไหมว่า ? การรับประทานดังกล่าวส่งผลดีต่อฟันด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการรับประทานผักและผลไม้ ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำให้เหงือกแข็งแรง แถมยังไม่เป็นโรคอีกด้วย
หากต้องการดูแลสุขภาพช่องปาก แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนนอน เนื่องจาก “จุลินทรีย์ และแบคทีเรีย” ที่ทำหน้าที่ย่อยสารอาหารจำพวกนี้ มีฤทธิ์กัดกร่อนผิวฝัน ซึ่งในระยะยาวอาจทำให้ฟันผุได้
2. ทำความสะอาดฟันอย่างทั่วถึง
วิธีแปรงฟันที่ดีไม่ใช่แค่แปรงวันละหลาย ๆ รอบ แต่จะต้องแปรงให้ได้อย่างน้อย 5-10 นาที ต่อ 1 ครั้ง เพื่อให้การทำความสะอาดซอกฟันเป็นไปอย่างทั่วถึง แถมยังจะต้องแปรงทั้งตอนเช้าและก่อนนอนด้วย นอกจากนี้ก็ควรจะใช้ “ไหมขัดฟัน” ทำความสะอาดเพิ่มอีก 1 ครั้ง เพื่อขจัดเศษอาหารหรือคราบที่ติดอยู่จนหมด
3. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิด “การสึกกร่อน”
พฤติกรรมที่ทำให้ฟันเกิดการสึกกร่อน ก็มีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบ เช่น การกัดหรือขบฟันกับของแข็ง การเคี้ยวอาหารที่มีรสเปรี้ยว เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว นอกจากจะทำให้มีโอกาสฟันแตก บิ่น หัก ได้แล้ว ยังทำให้กล้ามเนื้อกราม หรือข้อต่อขากรรไกรทำงานหนักขึ้น ซึ่งในระยะยาวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
4. ควรพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน
สิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญมากที่สุด คือ การพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน เพื่อดูแลสุขภาพช่องปากอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะในความเป็นจริงแล้ว การดูแลช่องปากด้วยตัวเอง อาจจะไม่ทั่วถึงอย่างที่คิดไว้ ดังนั้นการเข้ารับคำปรึกษา ตรวจเช็กจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ก็จะเป็นการดูแลรักษาฟันของคุณให้สวย สุขภาพดียาวนานยิ่งขึ้น
หากคุณสามารถทำตามการดูแลสุขภาพช่องปากที่เรานำมาบอกต่อเมื่อข้างต้นได้ครบทุกข้อแล้วล่ะก็ สุขภาพช่องปากของคุณก็จะไม่มีส่วนไหนน่าเป็นห่วง แถมยังสามารถยิ้มและพูดคุยได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของกลิ่นปาก หรืออาการเจ็บปวดภายในช่องปากต่าง ๆ แต่อย่างใด
การดูแลฟัน และสุขภาพช่องปาก สำคัญอย่างไรกับผู้มีโรคประจำตัว
ใครจะไปคิดว่าสุขภาพช่องปากที่เลวร้ายอาจส่งผลกระทบต่อโรคอื่น ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ จนก่อให้เกิดโรคร้ายแรง หากคุณหรือคนรอบข้างมีโรคประจำตัว แนะนำให้ดูแลสุขภาพช่องทางให้มากขึ้นกว่าปกติ เพราะอาจจะส่งผลกระทบดังต่อไปนี้ได้
-
โรคเบาหวาน
การที่ผู้ป่วยมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง จะทำให้มีโอกาสเกิด “โรคเหงือกอักเสบ” ได้ง่าย และยังมีความรุนแรงมากกว่าคนปกติทั่วไปหลายเท่า
-
โรคหัวใจชนิดต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิด โรคเยื่อบุผนังหัวใจอักเสบ โรคลิ้นหัวใจพิการ หรืออื่น ๆ อาจทำให้มีการ “ติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด” และอาจทำให้เกิดภาวะเยื่อหุ้มบุหัวใจอักเสบได้
-
ผู้ป่วยที่ได้รับรังสีบริเวณใบหน้าและลำคอ
ผลกระทบจากการฉายรังสี จะทำให้เนื้อเยื่อบุผิวในช่องปากหลุดลอก ประกอบกับต่อมน้ำลายทำหน้าที่ในการผลิตน้ำลายได้น้อยลง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ฟันผุ หรือเป็นโรคเหงือกอักเสบได้ง่ายขึ้น
-
ผู้ป่วยที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ
ผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นจะต้องได้รับยากดภูมิคุ้มกันหรือสเตียรอยด์ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายมีภูมิต้านทานที่ต่ำลง จึงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
-
ผู้ป่วยที่มีไข้สูงโดยไม่ทราบสาเหตุ
การติดเชื้อไปทั่วร่างกาย อาจมีสาเหตุมาจากโรคในช่องปากต่าง ๆ เช่น โรคฟันผุ หรือโรคเหงือกอักเสบ โดยผ่านทางกระแสเลือดจนทำให้เกิดไข้ขึ้นสูง
-
ผู้ป่วยทางโลหิตวิทยา
โรคมะเร็ง โดยเฉพาะโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวต่ำกว่าคนปกติทั่วไป และด้วยความที่ร่างกายมีภูมิต้านทานน้อย จึงส่งผลให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังรวมถึงโรคธาลัสซีเมียที่เข้ารับการตัดม้ามด้วย
เห็นแล้วใช่ไหมล่ะ ? ว่าทำไมผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องดูแลสุขภาพช่องปาก “มากกว่า” คนปกติทั่วไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี ก็ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นอาจจะก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้ง่าย ๆ รับประกันได้เลยว่าคุณจะต้องปวดหัวกับค่าใช้จ่ายที่ตามมาด้วยอย่างแน่นอน
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ควรให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพช่องปากให้มาก ๆ ด้วยการเข้ารับการรักษา ตรวจเช็ก และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะดีที่สุด เพื่อให้คุณมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง สวยงาม และไม่ก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาแบบไม่หยุดหย่อน หากอยากยิ้มสวยแบบมั่นใจ อย่าได้คิดมองข้ามการดูแลตัวเองในส่วนนี้เด็ดขาด !