เช็กหน่อย อาการโรคตับ เริ่มแรก เป็นอย่างไร ประกันจะคุ้มครองให้คุณแค่ไหนบ้าง ?

แชร์ต่อ
ทำความรู้จักโรคตับ: อาการเริ่มต้นและความสำคัญ ที่ มิสเตอร์ คุ้มค่า

“โรคตับ” เป็นโรคที่เกิดจากการที่ “ตับได้รับบาดเจ็บ” ปัจจุบันมีประเภทค่อนข้างหลากหลาย แถม อาการโรคตับ เริ่มแรก ยังแตกต่างกันออกไป เพื่อป้องกัน “ความเสี่ยง” ที่อาจเกิดขึ้น มิสเตอร์ คุ้มค่า จะพาคุณไปทำความรู้จักประเภท อาการ และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับบอกต่อ “ความคุ้มครอง” ของประกันภัย จะมีอะไรน่าสนใจและเป็นประโยชน์ ? ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กับเราได้เลย

ชี้ชัด ! แบบนี้แหละที่เรียกว่า อาการโรคตับ เริ่มแรก

โรคตับนับเป็นโรคร้ายโรคนึงที่อันตรายมาก หากคุณอยากสังเกตอาการของตัวเอง ว่าจริง ๆ แล้วมี “ภาวะเสี่ยง” จะเป็นโรคตับหรือไม่ แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เราได้ลิสต์ “ประเภท และอาการ” มาให้คุณเช็กเรียบร้อยแล้ว ไปเช็กกันเลย

โรคตับแข็ง

“โรคตับแข็ง” เกิดจาก “ภาวะอักเสบเรื้อรัง” จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง, โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือไขมันคั่งในตับ จนทำให้เกิด “การก่อตัวของเนื้อเยื่อพังผืดส่วนเกินในตับ” เป็นเหตุให้ตับไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ยิ่งระยะท้าย ๆ ยิ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต แถมยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็น “มะเร็งตับ” อีกด้วย

อาการของโรคตับแข็ง

ความอันตรายของโรคนี้ก็คือ “ไม่แสดงอาการใด ๆ เลย” จนกว่าตับจะเสียหายขั้นรุนแรง เมื่อถึงตอนนั้นร่างกายจะมีความผิดปกติ หรือเกิดอาการดังต่อไปนี้

  • รู้สึกอ่อนเพลีย
  • เบื่ออาการ
  • คลื่นไส้
  • เลือดออกง่าย หรือเป็นจ้ำเลือดง่าย
  • ขา เท้า หรือข้อเท้าบวม
  • อาการคันบริเวณผิวหนัง
  • มีน้ำสะสมในช่องท้อง ทำให้ท้องโต
  • เกิดเส้นเลือดฝอยลักษณะคล้ายใยแมงมุมบริเวณหน้าอก และแผ่นหลัง
  • ตัวเหลือง ตาเหลือง
  • รู้สึกสับสน ซึม หรือพูดไม่ชัด
  • ฝ่ามือแดงและเข้มขึ้น

ตับอักเสบ

“ตับอักเสบ” สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ “ติดเชื้อไวรัส” นอกจากนี้การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบยังมีหลายประเภท เราได้รวบรวมมาให้คุณเรียบร้อยแล้ว จะมีประเภทไหนบ้าง และมีสาเหตุมาจากอะไร ไปดูกัน

มีประกันโรคร้ายแรง มีไว้อุ่นใจทุกเมื่อ
  1. ไวรัสตับอักเสบ เอ

    มักมีอาการอ่อนเพลีย ตาเหลือง ตัวเหลือง มีไข้ และส่วนใหญ่มักติดจาก “การกินอาหารที่ปนเปื้อน”

  2. ไวรัสตับอักเสบ บี

    ไวรับตับอักเสบ บี มักมีอาการเรื้อรัง ในบางครั้ง บางคนไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลย ส่วนใหญ่ติดจากการมีเพศสัมพันธ์ การสัก การให้เลือด ฯลฯ หากมีการคัดกรองแล้วรู้ว่า “ใครเป็นพาหะ” มีข้อบ่งชี้ในการกินยาต้านไวรัสตับอักเสบบี ก็จะช่วย “ลดความเสี่ยง” ไม่ให้เกิดตับแข็งและมะเร็งตับได้

  3. ไวรัสตับอักเสบ ซี

    ลักษณะอาการคล้ายกับไวรัสตับอักเสบ บี รวมถึง “การติดต่อ” ​ด้วยเช่นกัน โดยที่ในปัจจุบันมียารักษาใหม่ ๆ ที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แถมยังช่วยลด “ผลแทรกซ้อน” ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งตับ ตับแข็ง เป็นต้น

  4. ไวรัสตับอักเสบ อี

    มีลักษณะอาการและสาเหตุคล้ายกับไวรัสตับอักเสบ เอ ส่วนใหญ่มักพบในประเทศที่สุขอนามัยไม่ด

ตับไขมัน

“ตับไขมัน” หรือภาวะไขมันพอกตับ เป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำไขมันที่กินไปใช้ได้หมด ส่งผลให้เกิด “การสะสม” เป็นไขมันในรูปไตรกลีเซอไรด์ในเซลล์ตับ กรณีที่ปล่อยปละละเลยเพราะไม่ได้ไปตรวจสุขภาพเลย อาจทำให้กลายเป็นตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ ส่วนมากจะพบในอายุ 40-50 ปี ขึ้นอยู่กับ “ประสิทธิภาพการเผาผลาญ” ของแต่ละคน

สาเหตุหลัก ๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ จากการดื่มแอลกอฮอล์ และจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น รับประทานอาการที่ให้พลังงานสูงเป็นประจำ, เป็นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือด, ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด, ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน ดัชนีมวลกายมากกว่า 25 เป็นต้น

อาการของโรคตับไขมัน

โรคตับไขมันจะมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ผู้ป่วยหลายคนไม่ค่อยรู้ตัว และรู้ตัวอีกทีในตอนที่ตับบวมจนเกินอาการอักเสบ โดยหลัก ๆ แล้วจะมีลักษณะอาการดังนี้

  • เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • มึนงง การตัดสินใจและสมาธิลดลง
  • รู้สึกไม่สบายท้อง คลื่นไส้
  • น้ำหนักลดผิดปกติ ประกอบกับความอยากอาหารลดลง

อุ่นใจได้มากกว่า ด้วย “ประกันโรคร้ายแรง

“ประกันโรคร้ายแรง” ให้ความคุ้มครองกรณี “เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง” อันตรายถึงชีวิต และส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับสมอง หัวใจ อวัยวะสำคัญต่าง ๆ สามารถนำ “เงินก้อน” ไปใช้จ่ายสำหรับรักษาตัว หรือใช้จ่ายค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ระหว่างเข้ารับการรักษา

ใครบ้างที่เหมาะกับประกันโรคร้ายแรง ?

หลายคนอาจยังไม่ค่อยเห็น “ความสำคัญ” ของการมีประกันโรคร้ายแรง แถมบางคนยังมองว่าตัวเองใช้ชีวิตดีอยู่แล้ว ไม่มีทางเป็นโรคร้ายได้หรอก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่สามารถมีใครล่วงรู้ได้เลยว่าจะมีโอกาสเป็นโรคร้ายหรือไม่ การมีประกันภัยที่ให้ความคุ้มครอง จึงถือว่าช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้ดีกว่า แล้วใครกันที่เหมาะกับประกันรูปแบบนี้ ไปดูกันเลย

  • คนวัยทำงาน

    คนวัยทำงานเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยง ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิต มลภาวะต่าง ๆ ที่ทำให้ “เสี่ยง” ต่อการเป็นโรคร้ายแรงมากที่สุด ดังนั้นการทำประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้มากกว่า แถมยังได้เบี้ยประกันที่ “ถูกกว่า” เมื่อเทียบกับการทำประกันในตอนที่อายุมากอีกด้วย

  • คนที่ต้องการเก็บเอาสำรองฉุกเฉินเอาไว้

    ต้องบอกก่อนว่า “โรคร้ายแรง” ไม่ว่าจะเกี่ยวกับสมอง หัวใจ หรืออวัยวะสำคัญต่าง ๆ ล้วนมีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง แถมยังต้องรักษาต่อเนื่อง จนอาจทำให้เงินเก็บที่มีละลายหายไปกับค่ารักษาภายในชั่วพริบตา คงจะดีไม่ใช่น้อย หากมี “ประกันโรคร้ายแรง” ที่ซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้คุณ ไม่ต้องหมดเงิน (เก็บ) ไปกับค่ารักษา รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่อง “รายได้ที่หดหาย” เนื่องจากต้องหยุดงานเพื่อรักษาตัว

  • คนที่มีประกันสุขภาพอยู่แล้ว

    กรณีที่เป็นข้าราชการ พนักงานบริษัท ที่มี “ประกันสุขภาพ” จากบริษัทหรือต้นสังกัดอยู่แล้ว ทำให้หลายคนคิดว่า “เพียงพอและครอบคลุม” ไม่ต้องซื้อประกันโรคร้ายแรงเพิ่ม แต่ในความเป็นจริงนั้น “ไม่เพียงพอต่อการรักษาโรคร้ายแรง” เลยสักนิด ดังนั้นการตัดสินใจทำประกันโรคร้ายแรงเสริมไว้ด้วย จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองได้หลากหลายยิ่งขึ้น

“ตับ” เป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญ ยิ่งถ้าหากมีอาการเจ็บป่วยหรือความผิดปกติ อาจนำไปสู่ “โรคร้ายแรง” ต่าง ๆ ได้มากมาย ดังนั้นควรตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่น ๆ พร้อมกับซื้อประกันโรคร้ายแรงที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมเอาไว้ด้วย เพื่อให้คุณเข้ารับการรักษาได้อย่างสบายใจ อุ่นใจ ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมากจนเกินไปนัก

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่