เจอปัญหาท้องไม่พร้อม ควรรับมืออย่างไรให้ปลอดภัย ? MrKumka ช่วยคุณหาคำตอบ

แชร์ต่อ
วิธีรับมือเมื่อท้องไม่พร้อม

Unplanned Pregnancy หรือ ท้องไม่พร้อม คือการตั้งครรภ์โดยไม่ได้มีการวางแผน หรือเตรียมตัวมีบุตรมาก่อนหรืออีกนัยหนึ่งคือ “ไม่ได้คุมกำเนิด” เมื่อมีเพศสัมพันธ์

ภาวะดังกล่าวพร้อมนำไปสู่ปัญหาตามมาหลายอย่างและวงกว้าง เช่น ไม่สามารถรับมือหรือเตรียมตัวฝากครรภ์อย่างถูกต้อง หรือฝากครรภ์ช้าจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพครรภ์และทารก MrKumka จึงได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากใครกำลังหาข้อมูลในเรื่องนี้เพื่อเตรียมรับมืออย่างปลอดภัย มีรายละเอียดอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

วิธีรับมือเมื่อ ท้องไม่พร้อม

เมื่อตรวจพบว่าตั้งครรภ์แม้ว่าจะอยู่ในภาวะ “ท้องไม่พร้อม” หรือ พลาดการคุมกำเนิด ก็อย่าเพิ่งกังวลหรือตื่นตระหนกจนเกินไป ก่อนอื่นให้ทำการนึกถึงผลกระทบในแง่ต่าง ๆ พร้อมกับปรึกษาคนรักและครอบครัวให้ดีก่อน จากนั้นค่อยประเมินว่าสามารถรับมือกับภาวะที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองได้หรือไม่ สำหรับ “ทางเลือก” สำหรับคนที่ท้องไม่พร้อมมีทั้งหมด 2 แนวทาง ดังนี้

ทำแท้งผิดกฎหมายไหม

ตัดสินใจตั้งครรภ์ต่อ

แม้ว่าจะอยู่ในภาวะท้องไม่พร้อม ก็สามารถเลือกที่จะตั้งครรภ์ต่อได้ แต่ต้องมั่นใจด้วยว่าเป็นการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ ควรมีแผนชีวิตที่ชัดเจนระหว่างตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด นอกจากนี้ยังต้องมีการวางแผนด้านการเงิน และความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูบุตรด้วย โดยมีแนวทางปฏิบัติเบื้องต้น ดังนี้

  • เริ่มฝากครรภ์ และไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
  • เข้ารับการตรวจคัดกรองโรคเป็นประจำ
  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพครรภ์ เพื่อเตรียมพร้อมอย่างเหมาะสม
  • วางแผนเกี่ยวกับหน้าที่การงาน การเงิน และความรับผิดชอบในเรื่องต่าง ๆ ร่วมกับคนรัก
  • ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
  • ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ รวมถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และใช้สารเสพติดต่าง ๆ

ยุติการตั้งครรภ์

สำหรับคนที่ปรึกษาคนรักและครอบครัวอย่างถี่ถ้วนแล้ว และความเห็นตรงกันว่าต้องการ “ยุติการตั้งครรภ์” ปัจจุบันมีการใช้เครื่องมือทางการแพทย์เพื่อยุติการตั้งครรภ์ 2 วิธี คือ เครื่องดูดสุญญากาศและการใช้ยา ซึ่งทั้ง 2 วิธีได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก ว่ามีความปลอดภัยสูงและมีภาวะแทรกซ้อนน้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ยุติการตั้งครรภ์ด้วย “เครื่องสุญญากาศ”

    การยุติการตั้งครรภ์ด้วยเครื่องดูดสุญญากาศ เป็นการทำแท้งสำหรับอายุครรภ์น้อย หรืออยู่ระหว่าง 5-12 สัปดาห์ (นับจากประจำเดือนครั้งสุดท้าย) ส่วนใหญ่แพทย์จะทำการขยายปากมดลูกเพื่อใส่ท่อที่ต่อกับขวด และปั๊มเข้าไปทางปากมดลูก จากนั้นจะเปิดใช้งานปั๊มและสร้างภาวะสุญญากาศอ่อน ๆ เพื่อดูดเนื้อเยื่อออกจากมดลูก ซึ่งถือเป็นวิธีที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

  • ยุติการตั้งครรภ์ด้วยการใช้ “ยา”

    สำหรับการยุติการตั้งครรภ์ด้วยการใช้ยา จะเหมาะสำหรับอายุครรภ์ที่น้อยกว่า 9 สัปดาห์ โดยแพทย์ที่ผ่านการอบรมเท่านั้น ถึงจะสามารถสั่งจ่ายยา “ไมเฟพริสโตน (Mifepristone) และไมโซพรอสทอล (Misoprostol)” หรือยายุติการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งสูตรยาดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนเป็น “บัญชียาหลัก” ขององค์การอนามัยโลก

    ในประเทศไทย “บุคคลทั่วไป” สามารถเข้าถึงตัวยาดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมียารวมเม็ดที่เรียกว่า “เมทตาบอล” ได้ แต่จะต้องอยู่ในการติดตามการใช้ยาจากหน่วยงานการแพทย์ ไม่มีการจำหน่ายตามร้านขายยา หรือโรงพยาบาลและคลินิกที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ การใช้ยาเพื่อยุติการตั้งครรภ์ดังกล่าว มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3,900-5,000 บาท

    Note: ผู้ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 22-24 สัปดาห์ ไม่ควรยุติการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ก็ตาม เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพของคนที่ตั้งครรภ์ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ไม่ว่าคุณจะท้องไม่พร้อมด้วยปัจจัยใด ๆ ก็ตาม เช่น อายุ หน้าที่การงาน การเงิน ฯลฯ สามารถติดต่อสายด่วน 1663 เพื่อขอรับคำปรึกษาได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. หรือติดต่อผ่านเฟสบุ๊ก 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“ทำแท้ง” ผิดกฎหมายไหม ?

ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 305 (1) (2) และมาตรา 276, 277, 282, 283 และ 284 รวมทั้งข้อบังคับแพทยสภา พ.ศ. 2548 ประเทศไทยได้กำหนดให้ผู้หญิงสามารถยุติการตั้งครรภ์โดยแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

  • การตั้งครรภ์ส่งผลเสียต่อสุขภาพทางใจ และทางกายของผู้หญิง
  • ทารกในครรภ์มีความเสี่ยงที่จะพิการรุนแรง
  • การตั้งครรภ์ในเด็กที่อายุไม่เกิน 15 ปี แม้ว่าจะไม่ได้ถูกล่อลวงหรือข่มขืนก็ตาม
  • การตั้งครรภ์ที่เกิดจากการถูกข่มขืนกระทำชำเรา
  • การตั้งครรภ์จากการถูกล่อลวง บังคับ ข่มขู่เพื่อทำอนาจาร สนองความใคร่

หากภาวะท้องไม่พร้อมเป็นไปตามเกณฑ์ดังกล่าว สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ แต่ถ้าหากไม่เข้าเกณฑ์ที่กล่าวไปเมื่อข้างต้น “การทำแท้งยังคงเป็นความผิดทางอาญา” อยู่

จะเกิดอะไรขึ้น ! เมื่อไม่อยากทำแท้งแต่ก็ไม่อยากเลี้ยง !?

ในกรณีที่คุณเข้าใจเป็นอย่างดีว่าตัวเองไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงดูบุตร หรือพูดง่าย ๆ ว่า “ท้องไม่พร้อม” แต่ก็ไม่ประสงค์จะทำแท้ง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยใด ๆ ก็ตาม ทางออกที่ดีที่สุดคือ “หาครอบครัวอุปถัมภ์” ด้วยตัวเอง หรือพึ่งพาหน่วยงานอย่างศูนย์บุตรบุญธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสหทัยมูลนิธิ (องค์กรพัฒนาเอกชน) เพื่อช่วยดำเนินการตามหาครอบครัวที่อยากมีลูกแต่มีไม่ได้ เพื่อให้เด็กที่กำลังจะเกิดมาได้อยู่กับครอบครัวที่พร้อมดูแลต่อไป

ทางเลือกที่ดีที่สุดหากต้องการยุติการตั้งครรภ์ ควรเข้ารับคำปรึกษาหรือเข้ารับการยุติการตั้งครรภ์ จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพื่อความปลอดภัยตัวคุณเอง ไม่ต้องรู้สึกเสียใจหรือรู้สึกผิด เพราะถ้าเด็กเกิดมาบนพื้นฐานของความไม่พร้อม มีคุณภาพชีวิตที่ไม่ดี คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้คุณรู้สึกผิดมากกว่าเดิมหลายเท่า หากกังวล “ความเครียด” หลังทำแท้ง สามารถใช้บริการจากองค์กรที่ช่วยให้คำแนะนำ หรือเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิตได้ที่สายด่วน 1667 (กรมสุขภาพจิต)

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่