ตัวเลขอายุนั้นมีผลต่อ ค่าเบี้ยประกันมะเร็ง มากแค่ไหน ?

       สำหรับ ค่าเบี้ยประกันมะเร็ง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ในการเลือกซื้อ ประกันมะเร็ง ของใครหลาย ๆ คน และคุณรู้หรือไม่ว่า ? “อายุ” ก็ส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ “เบี้ยประกันจะแปรผันไปตามอายุของผู้ทำประกัน” นั่นเอง MrKumka จึงได้รวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ช่วงอายุที่ค่าเบี้ยประกันสูง ปัจจัยที่ทำให้ค่าเบี้ยแพง มาให้คุณได้ทำความเข้าใจ แต่จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

       ถือว่าเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาสักพักใหญ่ ว่าอายุเนี่ยจะส่งผลต่อเบี้ย ประกันมะเร็ง MrKumKa ยืนยันว่าอายุส่งผลต่อค่าเบี้ยประกันจริงแท้แน่นอน โดยจะอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้นจาก 2 ช่วงอายุ ดังนี้

       พูดง่าย ๆ ก็คือ “ยิ่งอายุน้อย ค่าเบี้ยประกันยิ่งถูก” หากคุณลองเข้ามาเปรียบเทียบประกันมะเร็งสุขภาพ และกรอกตัวเลขอายุที่แตกต่างกัน ก็จะสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่า “อายุของผู้เอาประกัน มีผลต่อค่าเบี้ยประกันจริง” โดยจะมีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ยึดตามช่วงอายุของผู้เอาประกันเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้นหากคุณไม่อยากเสียค่าเบี้ยแพง แนะนำให้ทำประกันมะเร็งตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณอุ่นใจแล้ว ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในกรณีที่ตรวจพบโรคได้อีกด้วย

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ เบี้ยประกันมะเร็ง “สูง”

นอกจากช่วงอายุที่มากขึ้นจะทำให้เบี้ยประกันสูงแล้ว “วงเงินความคุ้มครอง” ก็มีผลต่อเบี้ยประกันด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณเลือกแผน ประกันมะเร็ง ในวงเงิน 500,000 บาท ก็จะต้องจ่ายค่าเบี้ยแพงกว่าเงินในความคุ้มครอง 100,000 บาท เป็นต้น ซึ่งในส่วนของวงเงินความคุ้มครองและอายุก็เปลี่ยนไปทางเดียวกับเบี้ยประกัน พูดง่าย ๆ ก็คือ “ยิ่งวงเงินความคุ้มครองหรืออายุสูง ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งแพง” ยังไงล่ะ

แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกเพียบ ที่ส่งผลต่อเบี้ยประกัน และเราก็ได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว ดังนี้

       แนะนำให้คุณเลือกซื้อประกันภัยทั้ง 2 ประเภท เนื่องจากจะให้ความคุ้มครองที่คุ้มกว่า พูดง่าย ๆ คือนอกจากจะไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังมีเงินไว้ใช้ในตอนที่ต้องพักรักษาตัวอีกด้วย

การชำระเบี้ยประกันมะเร็ง

       เบี้ยประกันมะเร็ง มีตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักแสนต่อปี และเบี้ยประกันสุขภาพจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ เพศ วงเงินคุ้มครอง สุขภาพของผู้เอาประกันและอื่น ๆ ที่ส่งผลให้เบี้ยประกันมะเร็งมีค่าเบี้ยที่สูงขึ้นตามลำดับ สำหรับการชำระค่าเบี้ยประกันมะเร็ง จะเป็นการชำระแบบ “ต้นงวด” พูดง่าย ๆ ก็คือจ่ายครั้งแรกในตอนที่ทำสัญญา

       ซึ่งปัจจุบันมีวิธีการชำระดอกเบี้ยให้กับบริษัทประกันหลายช่องทาง เช่น ชำระด้วยบัตรเครดิต ชำระด้วยการโอนเงินผ่าน Mobile Banking หรือ QR Code ในส่วนของ “งวดชำระ” จะมีทั้งแบบรายปีและรายเดือน โดยจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทเป็นสำคัญ รวมถึงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ด้วยเช่นกัน

       สำหรับใครที่ต้องการเปรียบเทียบเบี้ยประกันมะเร็ง สามารถขอคำปรึกษาหรือเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันด้วยตัวเอง ผ่าน MrKumka.com ได้ทันที เพราะเรามีแผนประกันสุขภาพจากบริษัทชั้นนำให้คุณเลือกมากมาย “เพียงแค่เช็กราคา เปรียบเทียบ และเลือกสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ” เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุดแล้ว