หัวข้อที่น่าสนใจ
“โรคมะเร็ง” ถือเป็นโรคร้ายที่ใคร ๆ ไม่อยากเป็น เนื่องจากเป็นหนึ่งในสาเหตุของการ “เสียชีวิต” ที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย แถมยังพ่วงมาด้วย ค่ารักษามะเร็ง ที่สูงลิบ อาทิ ค่าผ่าตัด ค่าคีโม หรือแม้กระทั่ง “ค่าใช้จ่ายแอบแฝง” อื่น ๆ ที่ล้วนเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาการรักษา มิสเตอร์ คุ้มค่า จึงอยากพาคุณไปดูแนวทางการรักษา รวมถึงลิสต์รายการค่าใช้จ่ายเบื้องต้นของโรคมะเร็งมาบอกคุณ ช่วยตอบคำถามว่าทำไมต้องซื้อประกันมะเร็งให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรายละเอียดเป็นอย่างไร ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย
ค่ารักษามะเร็ง แพงแค่ไหน ?
สำหรับค่าใช้จ่ายที่คน เป็นมะเร็ง “จำเป็น” จะต้องจ่าย หลัก ๆ คือ ค่าผ่าตัดแบบส่องกล้อง ค่าฉายแสง ค่าเคมีบำบัดหรือคีโม ค่ายาต้านฮอร์โมน ค่ารักษาแบบจำเพาะเจาะจง เป็นต้น ซึ่งสามารถสรุปแนวทางการรักษา โรคมะเร็ง และค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในแต่ละประเภทได้ดังนี้
-
มะเร็งเต้านม
ค่ารักษามะเร็งเต้านม สามารถแยกวิธีรักษาได้ 2 ประเภท ได้แก่
- 1. เทคนิค 2 มิติ มีค่ารักษารวมทั้งหมด 69,300 บาท
- 2. เทคนิค 3 มิติ มีค่ารักษารวมทั้งหมด 84,500 บาท ดังนี้
-
มะเร็งปอด
ค่ารักษามะเร็งปอด สามารถแยกวิธีรักษาได้ 2 ประเภท ได้แก่
- 1. เทคนิค IMRT/VMAT มีค่ารักษารวมทั้งหมด 197,600 บาท
- 2. เทคนิค 3 มิติ มีค่ารักษารวมทั้งหมด 141,100 บาท
-
มะเร็งปากมดลูก
ค่ารักษามะเร็งปากมดลูก จะใช้เทคนิคการรักษาแบบ 3 มิติ โดยมีค่ารักษารวมทั้งหมด “ทุกขั้นตอน” 144,400 บาท
-
มะเร็งต่อมลูกหมาก
ค่ารักษามะเร็งต่อมลูกหมาก จะใช้เทคนิคการรักษาแบบ IMRT/VMAT โดยมีค่ารักษารวมทั้งหมด “ทุกขั้นตอน” 182,400 บาท
-
มะเร็งสมอง
ค่ารักษามะเร็งสมอง จะใช้เทคนิคการรักษาแบบ IMRT/VMAT โดยมีค่ารักษารวมทั้งหมด “ทุกขั้นตอน” 164,800 บาท
-
มะเร็งหลอดอาหาร
ค่ารักษามะเร็งหลอดอาหาร จะใช้เทคนิคการรักษาแบบ VMAT โดยมีค่ารักษารวมทั้งหมด “ทุกขั้นตอน” 150,800 บาท
-
มะเร็งลำไส้ใหญ่
ค่ารักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ จะใช้เทคนิคการรักษาแบบ 3 มิติ โดยมีค่ารักษารวมทั้งหมด “ทุกขั้นตอน” 103,000 บาท
-
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ค่ารักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ จะใช้เทคนิคการรักษาแบบ 3 มิติ โดยมีค่ารักษารวมทั้งหมด “ทุกขั้นตอน” 110,000 บาท
เห็นค่ารักษา โรคมะเร็ง เบื้องต้นแต่ละประเภทแล้ว หลายคนคงกุมขมับกันเลยทีเดียวหากเป็นมะเร็งขึ้นมา เนื่องจากการ เป็นมะเร็ง จะพ่วงมาด้วยค่ารักษาก้อนโต ดังนั้นการวางแผน “ลดความเสี่ยง” จึงถือเป็นเรื่องจำเป็นและมีความสำคัญค่อนข้างมาก
6 เหตุผลที่ควรซื้อประกันมะเร็ง ?
“มะเร็ง” โรคร้ายที่ใคร ๆ ก็เป็นได้และใกล้ตัวมากกว่าที่คิด
-
1. คุ้มครองโรค “ทุกระยะ”
ประกันมะเร็งส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครอง โรคมะเร็ง ทุกระยะ เรียกได้ว่าตั้งแต่ระยะที่ยังไม่แพร่กระจาย ไปจนถึงระยะที่ลุกลามแล้ว ไม่ว่าคุณจะตรวจเจอโรคมะเร็งในระยะใดก็ตาม บริษัทประกันภัยก็จะทำการจ่าย “เงินชดเชย” หรือ “ค่ารักษาพยาบาล” ให้คุณทันที ช่วยให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
-
2. รักษาซ้ำได้ หยุดจ่ายเบี้ยก็ได้
ประกันมะเร็งบางรูปแบบให้ความคุ้มครองต่อเนื่อง ในกรณีที่ตรวจพบมะเร็ง “ชนิดเดิม” รวมถึงไม่จำเป็นต้องจ่ายเบี้ยประกันตลอดอายุสัญญา แม้ว่าจะตรวจเจอมะเร็งระยะลุกลาม แต่ความคุ้มครองและผลประโยชน์ที่ต้องได้รับเมื่อครบสัญญายังอยู่ครบ ก็จะได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์อย่างต่อเนื่อง แม้จะตรวจพบโรคร้ายอีกก็ตาม
-
3. ช่วยค่ารักษาและค่าใช้จ่ายแอบแฝง
ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคมะเร็ง เริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน อาทิ ค่าวินิจฉัย ค่ารักษา ค่าฉายแสง และค่าบริการต่าง ๆ นอกจากนี้ก็ยังมี “ค่าใช้จ่ายแอบแฝง” อื่น ๆ อยู่ด้วย เช่น ค่าปรึกษาจิตแพทย์ ค่ากายภาพบำบัด รวมถึงค่าเดินทาง ปัจจุบันประกันมะเร็งก็ยังให้ความคุ้มครองเพิ่มเติม ในส่วนของค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ “เกี่ยวข้อง” กับการรักษาเข้าไปด้วย ทำให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น
-
4. มีเงินชดเชยระหว่างรักษาตัว
นอกจากคุณจะได้รับความคุ้มครองในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ประกันมะเร็งบางประเภทยังจ่ายผลประโยชน์เพิ่มเติม ในกรณีที่คุณเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลอีกด้วย เช่น ค่าชดเชยรายวัน เงินช่วยเหลือรายเดือน รวมถึงค่าเดินทาง เฉลี่ย “วันละ” 1,000-10,000 บาท จ่ายต่อเนื่องสูงสุด 180-600 วัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่กรมธรรม์
-
5. มีทุนสำรองให้ครอบครัว
ในกรณีที่คุณเสียชีวิต ไม่ว่าเกิดจากโรคมะเร็ง การเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยจะจ่ายผลประโยชน์ให้กับผู้รับผลประโยชน์สูงสุด 100% ของวงเงินเอาประกัน หรือตามจำนวนเงินและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
-
6. ได้สิทธิลดหย่อนภาษี
ประกันมะเร็งที่มีเงื่อนไขความคุ้มครองตามหลักเกณฑ์ประกันสุขภาพ ที่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีตามที่กรมสรรพากรกำหนด สามารถนำเบี้ยประกันที่ “จ่ายจริง” มาใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยแบ่งได้ดังนี้
- ประกันสุขภาพที่ซื้อให้ตัวเอง ใช้สิทธิลดหย่อนได้ 25,000 บาท
- ประกันสุขภาพที่ซื้อให้พ่อแม่ ใช้สิทธิลดหย่อนได้ 15,000 บาท
โดยมีเงื่อนไขประกันสุขภาพที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ 4 ประเภท ดังนี้
- 1. ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล การชดเชยทุพพลภาพ และการสูญเสียอวัยวะเนื่องจากการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ
- 2. ประกันอุบัติเหตุ “เฉพาะ” ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะและการแตกหักของกระดูก
- 3. ประกันภัยโรคร้ายแรง
- 4. ประกันภัยการดูแลระยะยาว