สมัยนี้การมีบัตรเครดิตถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มหน้าตาทางสังคมให้กับเจ้าของบัตรได้ แต่ก็ต้องทำใจยอมรับว่าเป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้จ่าย ในหลายๆ ครั้งก็เป็นการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ที่ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วนอย่างที่ควรจะเป็น และสุดท้ายก็นำมาซึ่งภาระหนี้บัตรเครดิตแบบหนักอึ้ง เพราะต้องเจอกับดอกเบี้ยสูงถึง 18% ต่อปี หลายคนจึงต้องหาทางออกในการโปะหนี้บัตรเครดิตให้จบโดยเร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องแบกรับค่าดอกเบี้ยสุดโหดไปนานกว่านี้ โดยทางเลือกอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้น สินเชื่อรถยนต์ รูปแบบต่างๆ
ถ้าหากคุณอยากรู้ว่าเพราะอะไรสินเชื่อรถยนต์จึงเป็นทางออกที่ใช่ ติดตามอ่านได้ในบทความนี้เลย
สินเชื่อรถยนต์ทางออกสำหรับคนมีรถ
อีกหนึ่งยุทธวิธีในการปลดหนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดประเภทต่างๆ ก็คือ การขอสินเชื่อรถยนต์ เพื่อนำเงินก้อนมาใช้ปิดหนี้บัตรเครดิต ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อในรูปแบบของการทำรีไฟแนนซ์ หรือสินเชื่อรถแลกเงินก็ตาม สาเหตุที่ทำให้การขอสินเชื่อในรูปแบบนี้ กลายมาเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตสำหรับผู้ที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายๆ ใบก็เพราะว่า สามารถขอกู้ได้เลยโดยไม่ต้องมีคนค้ำประกัน เนื่องจากรถยนต์ถือเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าเพียงพอที่จะค้ำประกันวงเงินกู้ของคุณได้อยู่แล้ว จึงสามารถสมัครได้ง่าย ไม่ต้องเตรียมเรื่องมากมายให้ยุ่งยาก
จึงกลายเป็นว่ามีหลายๆ คนใช้วิธีการนี้เป็นทางออกในการปิดหนี้บัตรเครดิตหลากหลายเจ้าที่มีดอกเบี้ยแพงกว่า และหันมาผ่อนชำระเพียงช่องทางเดียวกับบริษัทสินเชื่อรถยนต์ โดยส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 3-5% นั้น จึงเป็นการช่วยลดภาระด้านการเงินให้กับคุณได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของการทำสินเชื่อรถยนต์
นอกจากผู้ที่มีรถยนต์เป็นของตัวเองจะสามารถขอสินเชื่อชนิดนี้ได้อย่างสะดวกแล้ว การทำ สินเชื่อรถยนต์ ยังมีข้อดีหรือจุดเด่นอีกหลายอย่างที่จะช่วยให้คุณผ่อนหนักเป็นเบาจากภาระการเงินที่แสนฝืดเคืองอย่างยุคปัจจุบันได้ ดังนี้
- ● ได้เงินก้อนตามมูลค่าของรถสูงสุดถึง 100% สามารถแบ่งเบาภาระหนี้สินอื่น ๆ ได้
- ● คุณสามารถนำเงินส่วนต่างที่เหลือจากการใช้ปิดบัตรเครดิตไปใช้ได้ด้วย
- ● ดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต, บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลชนิดอื่น ๆ
- ● สมัครขอสินเชื่อรถยนต์ได้ง่ายกว่า เพราะใช้รถเป็นสินทรัพย์ในการค้ำประกันไปแล้ว
- ● สามารถเลือกรูปแบบการผ่อนชำระได้ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยคงที่ หรือ แบบลดต้นลดดอก
- ● ยืดหยุ่นกว่าเพราะเลือกระยะเวลาในการผ่อนชำระได้
- ● ยังสามารถใช้รถของคุณได้ตามปกติ
สินเชื่อรถยนต์ แบบรีไฟแนนซ์ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีอะไรบ้าง
สำหรับบทความนี้เรากำลังพูดถึงการทำสินเชื่อรถยนต์มือสองเป็นหลัก ในรูปแบบของการทำรีไฟแนนซ์รถที่คุณผ่อนมาแล้วนั่นเอง ซึ่งสามารถเป็นการขอสินเชื่อได้ทั้งในรูปแบบที่คุณผ่อนชำระงวดรถจนครบหมดแล้ว หรือ ยังอยู่ระหว่างผ่อนชำระค่างวดอยู่ สำหรับรูปแบบของการทำรีไฟแนนซ์จะสามารถจำแนกแยกย่อยได้ดังนี้
-
1. รีไฟแนนซ์แบบยังไม่มีเล่มทะเบียน
หมายถึงการทำรีไฟแนนซ์ในขณะที่คุณยังอยู่ระหว่างผ่อนชำระค่างวดรถอยู่ โดยสามารถดำเนินการได้ 2 รูปแบบก็คือ การทำรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิมหรือการทำรีไฟแนนซ์กับธนาคารแห่งใหม่ รูปแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ ของแต่ละธนาคารด้วย แต่โดยทั่วไปแล้วคุณจะต้องเลือกตัวเลือกที่ช่วยลดภาระค่าผ่อนของคุณลง หรือ ยืดอายุการผ่อนชำระให้กับคุณได้
-
2. รีไฟแนนซ์แบบมีเล่มทะเบียนแล้ว
เป็นรูปแบบของการทำรีไฟแนนซ์หลังจากที่คุณผ่อนชำระค่างวดจนหมดแล้ว และได้ทำการโอนเล่มทะเบียนรถมาเป็นชื่อคุณแล้วนั่นเอง โดยสามารถทำได้ 2 ลักษณะก็คือ
- ● การจำนำทะเบียนรถ เป็นการนำเล่มทะเบียนรถของคุณไปวางค้ำประกันวงเงินกู้เอาไว้ ซึ่งจะขอกู้เงินได้โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนนั่นเอง
- ● การทำรีไฟแนนซ์ หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า เป็นการเอารถของคุณไปทำไฟแนนซ์อีกครั้งตามยอดคงเหลือ จำเป็นจะต้องเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนใหม่ให้กลายเป็นชื่อของบริษัทไฟแนนซ์ จึงจะสามารถกู้เงินออกมาได้
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเป็นหนี้บัตรเครดิต แล้วต้องมาจ่ายขั้นต่ำบัตรหลายๆ ใบเวียนกันไปมาจนปวดหัว สินเชื่อรถยนต์จึงกลายมาเป็นทางออกสำหรับคนอยากเคลียร์หนี้บัตรเครดิตที่ได้รับความนิยม เพราะว่ามีโอกาสทำเรื่องกู้ได้ในวงเงินที่สูง มีความยืดหยุ่นสำหรับผู้ที่ยังผ่อนรถไม่หมดก็สามารถกู้ได้ จึงช่วยลดภาระและความเครียดของคนที่กำลังผ่อนจ่ายหนี้จากหลายๆ ที่ ให้กลับมาโฟกัสที่วงเงินที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่าเพียงแค่ก้อนเดียว และถ้าคุณกำลังมองหาสินเชื่อรถยนต์ เป็นทางเลือกในการจัดการหนี้ต่างๆ
ลองคลิกเข้ามาที่ MrKumka.com ซึ่งที่นี่มีพร้อมกับตัวเลือกสินเชื่อมากมายจากผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานโดยตรง แล้วจะรู้ว่ารถที่เป็นทรัพย์สินของคุณ มีประโยชน์มากกว่าแค่ใช้งานแต่ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องหนี้ได้อีกด้วย