การตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคันไม่ใช่เรื่องยากแล้วในสมัยนี้ เพียงแต่คุณจะต้องคํานวณเงินผ่อนรถให้ดี เป็นหนี้นาน ๆ 4-5 ปี ตามระยะเวลาผ่อนชำระยิ่งต้องไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนก่อน เพื่อให้คุณได้รถที่คุ้มค่าและตอบโจทย์มากที่สุด และในวันนี้ MrKumka ก็ได้รวบรวมหลักในการเลือกซื้อรถยนต์สักคัน มาให้คุณทำความเข้าใจ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมก่อนซื้อและหลังซื้อ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ? ไปติดตามพร้อม ๆ กับเราได้เลย !
หลักในการเลือกซื้อรถยนต์ ก่อนคํานวณผ่อนรถ
การซื้อรถยนต์คู่ใจสักหนึ่งคัน ไม่ใช่แค่เพียงเลือกจากความชอบเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ รวมด้วย ดังนี้
-
1. งบประมาณ
งบประมาณ คือ สิ่งสำคัญที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับแรก ซึ่งถ้าหากคุณมีเงินสดอยู่ในมือ ก็จบเลย จ่ายสดได้ทันที จะได้ไม่ต้องเจอกับดอกเบี้ยหลักหมื่นถึงหลักแสนต่อเดือน แต่ถ้าหากคุณต้องการผ่อน ก็ต้องคำนวณในเรื่องของ “เงินดาวน์” ให้ดี ว่ามีความสามารถในการชำระค่างวดมากน้อยแค่ไหน โดยให้ประเมินจากรายรับ/รายจ่ายในแต่ละเดือน
-
2. ประเภทรถ
เมื่อรู้งบประมาณคร่าว ๆ อันดับต่อมาให้ถามตัวเองว่า “ต้องการใช้รถเพื่ออะไร ?” ประกอบกับดูส่วนประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ขนาดที่จอดรถ จำนวนสมาชิกในครอบครัว เพื่อให้การตัดสินใจของคุณง่ายขึ้น
-
3. ราคาขายต่อ
ไม่ว่าจะเป็นรถยี่ห้อใดก็ตาม มูลค่าจะลดลงทันทีที่คุณถอยออกจากโชว์รูม ดังนั้น “ราคาขาย” จึงเป็นสิ่งที่คุณต้องคำนึงถึงด้วย ซึ่งในบ้านเรารถที่ราคาขายต่อดี มักจะเป็นรถที่มียอดขาย “มากที่สุด” ในกลุ่มรถประเภทเดียวกัน
-
4. การทดลองขับ
การทดลองขับถือเป็น “จุดพีค” ที่ช่วยชี้ได้ว่ารถคันนี้ “ใช่” สำหรับคุณ เพราะหลายครั้งที่คุณถูกใจรูปลักษณ์ภายนอก หรือดีไซน์ภายใน แต่เมื่อลองขับดูแล้ว สมรรถนะเครื่องยนต์อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร หรือเข้าไปนั่งแล้วอึดอัด/กว้างเกินไป เป็นต้น
ค่าใช้จ่ายก่อนและหลังซื้อรถยนต์ ที่ควรเตรียมไว้ให้พอ
-
ค่าเงินดาวน์รถยนต์
โดยปกติทั่วไปเงินดาวน์รถยนต์จะอยู่ที่ 20-40% ของราคารถ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ “สำคัญมาก” เพราะยิ่งคุณดาวน์สูงเท่าไหร่ ก็จะทำให้การผ่อนจ่ายค่างวดสบายมากขึ้น
-
ค่าผ่อนรถ
ค่าผ่อนรถจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ราคารถยนต์ ดอกเบี้ย จำนวนเงินดาวน์ และจำนวนงวดเฉลี่ย ซึ่งตามปกติแล้วจะผ่อนต่อเดือนราว ๆ 5,000=15,000 บาท
-
ค่าน้ำมัน/แก๊ส
หากคุณขับรถยนต์คู่ใจไปทำงานทุกวัน จะเสียค่าน้ำมัน/แก๊ส ประมาณ 4,000-8,000 บาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ที่พบเจอในแต่ละวัน เช่น สภาพการจราจร ระยะทาง และสภาพการขับขี่
-
ค่าดูแลรักษา
แน่นอนว่ารถยนต์มีรอบระยะในการตรวจเช็กสภาพ ไม่ว่าจะเป็น การเช็กระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ซึ่งจำเป็นจะต้องทำปีละ 2 ครั้ง โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,000-4,000 บาท
-
ค่าพ.ร.บ./ภาษีรถยนต์/ประกันภัย
ค่าใช้จ่ายข้อนี้เปรียบเหมือน “ภาคบังคับ” ไม่ว่าจะด้วยภาษีและ พ.ร.บ.รถยนต์ ที่ “จำเป็น” ต้องทำให้ถูกกฎหมาย รวมถึงประกันภัยรถยนต์ที่มีราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 15,000-25,000 บาท
และทั้งหมดนี้คือรายละเอียดที่คุณควรให้ความสำคัญ หากต้องการซื้อรถสักคันไว้ใช้งาน โดยเฉพาะการเตรียมเงินสำหรับซื้อประกันภัยรถยนต์ เพราะในส่วนนี้จะช่วยให้การใช้รถใช้ถนนของคุณ มีแต่ความอุ่นใจตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะพบเจออุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ใด ๆ ที่ไม่คาดฝันมาก่อน ก็ไม่ต้องควักเงินจำนวนมากให้ปวดหัว แต่ถ้าหากไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อประกันรถยนต์จากที่ไหน กรมธรรม์ใด MrKumka พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง คลิกเลย !