หากพูดถึงการ รีไฟแนนซ์รถ ที่เป็นเหมือน “ทางเลือก” ของคนมีรถยนต์คู่ใจ และต้องการนำเงินมาหมุนเวียนเพื่อลดภาระหรือนำไปต่อยอดอื่น ๆ แต่ต้องไม่ลืมว่าก่อนการรีไฟแนนซ์นั้นคุณจำเป็นต้องให้ประโยชน์ต่อการกู้ให้ “มากที่สุด” ก่อนด้วย ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย การผ่อนชำระ และระยะเวลาในการผ่อน วันนี้ MrKumka จึงได้รวบรวมเคล็ดลับรีไฟแนนซ์ให้คุ้มค่าและประหยัดเวลามาฝาก พร้อมตัวเลือกสำหรับรับเงินก้อนเพื่อคุณนำไปใช้จ่ายเพิ่มเติม จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ตามไปดูกัน
เคล็ดลับ รีไฟแนนซ์รถ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อย่างที่บอกว่าการเอารถเข้าไฟแนนซ์ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดภาระของเจ้าของรถให้น้อยลงกว่าเดิม แต่จะมีวิธีไหนบ้างล่ะที่ทำให้คุณมีเงินเหลือได้เพื่อนำไปใช้หมุนเวียนอย่างคุ้มค่า ไปดูกัน !
1. เช็ค.. ว่าช่วยลดอัตรา ดอกเบี้ยรถยนต์
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจยื่นรีไฟแนนซ์ สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องพิจารณาเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือ ดอกเบี้ยรถยนต์ ยังไงล่ะ ยกตัวอย่างเช่น นำดอกเบี้ยคงเหลือจากสินเชื่อเดิม มา “หักส่วนต่าง” กับดอกเบี้ยที่ให้กู้ใหม่ว่าคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน หากได้เงินส่วนต่างจากดอกเบี้ยที่น้อยลงจะช่วยให้คุณมีเงินเหลือส่วนต่างไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ตามความจำเป็นได้ แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดดังต่อไปนี้เพิ่มเติมด้วย
- ตรวจสอบสถาบันการเงินหรือธนาคารที่ให้สินเชื่อ ว่าคุณสมบัติรถยนต์ของคุณ เข้าเกณฑ์รีไฟแนนซ์หรือไม่ โดยส่วนใหญ่จะดูกันที่อายุการใช้งาน และรุ่นรถเป็นหลัก
- เช็กราคากลางว่าอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ก่อนจะตัดสินใจขอสินเชื่อ
2. เช็ค.. วงเงินอย่างรอบคอบ
หากรถยนต์ของคุณสามารถยื่นรีไฟแนนซ์ได้ และ ดอกเบี้ยรถยนต์ ที่นำมาหักส่วนต่างก็ถือว่าตอบโจทย์ แต่ก็ใช่ว่าจะตัดสินใจได้ในทันที เพราะคุณจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของ “วงเงินกู้ใหม่” ด้วยเช่นกัน ซึ่งตามปกติแล้วสถาบันการเงินหรือธนาคารจะเป็นผู้ประเมินราคารถ ราคากลางของรถรุ่นนั้น ๆ ว่าอยู่ในระดับไหน เราแนะนำให้คุณทำการเปรียบเทียบสินเชื่อรถแลกเงินระหว่างยอดหนี้จากสถาบันที่เก่า กับมูลค่ารถยนต์ที่ขอสินเชื่อใหม่ ว่าหากทำการรีไฟแนนซ์แล้วจะเกิดความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะอย่างที่รู้กันว่า “มูลค่ารถยนต์ค่อย ๆ ลดลงตามเวลา” แต่ถ้าหากกลัวว่าเสียเวลา MrKumka ช่วยคุณได้ ! เพราะคุณสามารถเปรียบเทียบสินเชื่อรถออนไลน์ได้
3. เช็ค.. ว่าผ่อนไหวที่เท่าไร
ในส่วนของ “ค่างวดผ่อน” ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ที่คุณไม่ควรมองข้ามหากต้องการยื่นรีไฟแนนซ์ คุณจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่า สามารถผ่อนจ่ายค่างวดตามเงื่อนไขไหวหรือไม่ รวมถึงดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดว่าเป็นเท่าไหร่ แนะนำให้คำนวณจากรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อให้คุณสามารถลดความตึงเครียดในการชำระเงินของคุณได้บ้าง
4. เช็ค.. ว่าไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
เนื่องจากสถาบันการเงินหรือธนาคารบางแห่ง อาจจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากคุณไม่ต้องพบเจอค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนเสมอ เพื่อให้คุณประหยัดเงินและประหยัดเวลาได้ในระดับหนึ่ง หากไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และคุณสนใจที่จะรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินหรือธนาคารนั้น ๆ ก็ตระเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม ดังนี้
- บัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- หนังสือรับรองเงินเดือน
- สลิปเงินเดือน
- สมุดเงินฝากธนาคาร
หรือคุณอาจจะเตรียมไปเผื่อก่อนหน้านี้ก็ได้ เพื่อให้การดำเนินการมีระยะเวลาที่รวดเร็วมากกว่าเดิม หลังจากที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อรถ คุณก็จะมีภาระหนี้ต่อเดือนที่ลดน้อยลงแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับการพิจารณาของแต่ละสถาบันการเงินและธนาคารเป็นสำคัญ
5. เช็ค.. เงินส่วนต่างที่เลือกรับได้
นอกจากการรีไฟแนนซ์จะช่วยลดภาระได้แล้ว ยังช่วยให้คุณมีเงินทุนหมุนเวียนอีกด้วย ยิ่งถ้าหากคุณนำมาใช้กับสิ่งที่จำเป็น เช่น ซื้อประกันสุขภาพ ซื้อกองทุนรวม ก็จะถือว่าเป็นการรีไฟแนนซ์ที่เกิดความคุ้มค่ามาก ๆ เลยล่ะ
และทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับการนำรถรีไฟแนนซ์ ที่ช่วยเพิ่มประโยชน์ให้คุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากคุณสามารถพินิจพิจารณาตามทั้ง 5 ข้อ ที่เราบอกต่อไปเมื่อข้างต้นได้เป็นอย่างดี รับประกันเลยว่าการรีไฟแนนซ์ของคุณในครั้งจะไม่เสียเปล่า แถมยังไม่ทำให้คุณปวดหัวกับภาระค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน
การนำรถเข้าไฟแนนซ์ช่วยประหยัดเงินได้อย่างไร ?
หากยังมองภาพไม่ออกหรือคิดไม่ถึงว่าการรีไฟแนนซ์นั้นจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้ในทางไหน MrKumka จึงได้รวบรวมข้อดีของการรีไฟแนนซ์ มาให้คุณทำความเข้าใจทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้
- ได้ยืดเวลาผ่อนจ่ายให้นานขึ้น เลือกระยะเวลาการผ่อนได้ตามแผน
- ได้อัตราดอกเบี้ยต่ำลง รวมถึงยอดชำระรายเดือนก็ถูกลงด้วย
- ได้เงินก้อนจากส่วนต่างที่สามารถนำไปเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อทำธุรกิจ ใช้เป็นค่าใช้จ่ายอื่นที่สำคัญ หรือฉุกเฉินได้
จะเห็นได้ว่าการรีไฟแนนซ์ค่อนข้างให้ประโยชน์กับคนที่มีรถได้มาก ๆ แนะนำว่าควรนำเงินส่วนต่างที่ได้มาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สถานะทางการเงินของคุณในอนาคตมีแต่ความราบรื่น และไม่มีสะดุดไปอีกนานแสนนาน
ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินหรือธนาคารใด ๆ ก็ตาม คุณจะต้องพิจารณาความคุ้มค่าให้ดีเสียก่อน ว่าตอบโจทย์ตามที่คุณคาดหวังมากน้อยเพียงใด เนื่องจากแต่สถาบันการเงินและธนาคารแต่ละแห่ง ล้วนกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป แนะนำให้คุณพิจารณาจากหลาย ๆ ที่จะดีที่สุด แต่ถ้าหากกลัวว่าเสียเวลา MrKumka ช่วยคุณได้ ! เพราะคุณสามารถเปรียบเทียบรถแลกเงินออนไลน์ได้แล้ววันนี้ คลิกเลย !