สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนสีรถ และกำลังตามหาขั้นตอนแจ้งเปลี่ยนสีรถ บอกตรงนี้เลยว่าไม่ต้องไปหาคำตอบจากที่อื่นไกลเพราะ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้รวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มาบอกต่อเพื่อให้คุณดำเนินการได้อย่างถูกต้อง แบบละเอียดยิบทุกขั้นตอน แต่จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ยุ่งยากหรือไม่ ? ไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย !
ไขข้อสงสัย แจ้งเปลี่ยนสีรถ ได้หรือไม่ ? หากไม่แจ้งมีความผิดอย่างไร ?
สำหรับคนที่ “เบื่อง่าย” ต้องการเปลี่ยนสีรถยนต์ สามารถ “ทำได้” ตามความพึงพอใจ แต่ความพึงพอใจดังกล่าว จะต้องมาพร้อมกับความถูกต้องด้วย ทุกครั้งที่คุณเปลี่ยนสีรถยนต์ ควรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ ให้ทราบ และจำเป็นจะต้องแจ้งกรมการขนส่งตามที่กฎหมายระบุเอาไว้ ภายใน 7 วัน (กรณีเปลี่ยนสีตัวถังมากกว่า 30% ของพื้นที่ทั้งหมด)
สำหรับกรณีที่เข้าข่ายเกิน 30% ก็คือ การเปลี่ยนกระโปรงหน้าหรือกระโปรงหลัง หากไม่แจ้งจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 13 และมาตรา 60 โดยมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ถ้าหากเป็นจุดเล็ก ๆ หรือจุดที่ไม่เป็นที่สังเกต ไม่จำเป็นจะต้องแจ้งก็ได้ เพราะถือว่าไม่มีความผิดตามกฎหมาย
หลักฐานที่ “จำเป็น” ต้องใช้ ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ ?
เพื่อไม่ให้การดำเนินการในส่วนนี้ล่าช้าเกินความจำเป็น สิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญมากที่สุด คือ “การเตรียมเอกสาร” ให้ครบและถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดต่อหน่วยงาน โดยเอกสารที่มีความจำเป็นต้องใช้แนบคำขอ มีดังต่อไปนี้
- เอกสารคู่มือจดทะเบียนรถ (เล่มทะเบียนรถ)
- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถยนต์
- หลักฐานการเปลี่ยนสีรถยนต์ เช่น ใบเสร็จยืนยันค่าจ้างทำสีรถใหม่
4 ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์
หลังจากมั่นใจว่าตนเองเตรียมเอกสารครบและถูกต้องแล้ว สามารถดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถได้ที่กรมการขนส่งทางบก ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงสีรถยนต์ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- 1. ยื่นคำขอพร้อมหลักฐานที่เตรียมไว้ เพื่อแสดงความประสงค์ขอนำรถเข้ารับการตรวจสอบ
- 2. หลังจากที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว ให้ทำการยื่นตรวจสอบพร้อมคำขอต่าง ๆ รวมถึงผลผ่านการตรวจสอบด้วย
- 3. หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการต่าง ๆ ให้ทำการ “ชำระค่าธรรมเนียม” ที่กรมขนส่ง
- 4. รอรับเอกสารคืนจากกรมขนส่งทางบก
*หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียม ได้แก่ ค่าแก้ไขรายการในทะเบียน 50 บาท และค่าตรวจสอบสภาพรถ 50 บาท
หลายคนมีความกังวลว่าการเปลี่ยนสีรถยนต์จะมีความผิด จริง ๆ แล้วสามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ แถมยังมีขั้นตอนการเตรียมเอกสาร และขั้นตอนการดำเนินการที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แถมยังใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่ต้องทำการแจ้งเรื่องเปลี่ยน “ภายใน 7 วัน” เพื่อเป็นการอัปเดตข้อมูลรถให้ถูกต้อง และเป็นปัจจุบันโดยเร็วที่สุด รวมถึงป้องกันปัญหาและค่าปรับที่อาจจะตามมาในอนาคต