ฝันว่ารถหายหมายถึงอะไร ? พร้อมวิธีตั้งรับเมื่อฝันกลายเป็นจริง

แชร์ต่อ
ฝันว่ารถหายหมายถึงอะไร ? พร้อมวิธีป้องกันก่อนฝันกลายเป็นจริง | มิสเตอร์ คุ้มค่า

คนไทยอยู่กับ “ความเชื่อ” มาเป็นเวลานานล้อมรอบกับการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการทำนายความฝัน ฝันอย่างนั้นอย่างโน้น ฝันว่ารถหายหลายคนก็เป็นบ่อย ความหมายคืออะไร ตีเป็นเลขเด็ดอะไรได้บ้าง หรือบางคนก็เกิดความสงสัยตามไปด้วยว่าถ้าไม่อยากให้ “ฝันร้ายกลายเป็นจริง” มีวิธีป้องกันรถหายยังไงบ้าง ? มิสเตอร์ คุ้มค่า ลิสต์ประเด็นที่น่าสนใจมาให้แล้ว ตามไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย

ฝันว่ารถหายแต่ละแบบ หมายความว่ายังไง ?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแม้จะเป็นการฝันว่ารถหาย แต่หลายคนก็ฝันหลายแบบแตกต่างกัน ซึ่งแต่ละแบบทำนายได้ว่ายังไง ตีเป็นเลขเด็ดอะไรได้บ้าง ? ตามไปดูกันเลยดีกว่า

  • ฝันว่ารถยนต์ตัวเองหายหาไม่เจอ

    กรณีที่ฝันว่ารถยนต์ตัวเองหายหาไม่เจอ หมายความว่าจะได้โชคลาภที่เกี่ยวกับความรัก ด้านคนโสดมีโอกาสได้พบเจอคู่แท้ ด้านคนมีคู่อยู่แล้วมีเกณฑ์จะได้รักกันยืนยาว

    • เลขเด็ดที่ควรมี: 4, 5
    • เลขนำโชค: 35, 41, 204, 656
  • ฝันว่ารถหายวันจันทร์

    สำหรับคนที่ฝันว่ารถหายวันจันทร์ หมายความว่าอาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่ แต่ในทางกลับกันก็มีโอกาสได้รับโชคลาภเงินทองเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ถือเป็นหนึ่งในเรื่องดี ๆ ที่พอจะเกิดขึ้นในช่วงนี้

    • เลขเด็ดที่ควรมี: 1
    • เลขนำโชค: 11, 51, 175, 213
  • ฝันว่ารถหายวันพุธ

    สำหรับคนที่ฝันว่ารถหายวันพุธ หมายความว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น คนใกล้ตัวหรือคนไกลตัวอาจต้องเดินทางไกล แต่ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวล เพราะการเดินทางในครั้งนี้จะปลอดภัย คนที่ไม่ได้เดินทางไกลนาน ๆ ควรเตรียมตัวไว้ให้ดี

    • เลขเด็ดที่ควรมี: 6, 8
    • เลขนำโชค: 38, 82, 326, 681
  • ฝันว่ารถหายวันศุกร์

    คนที่ฝันว่ารถหายวันศุกร์ หมายความว่าชีวิตช่วงนี้อาจต้องเจออุปสรรคครั้งใหญ่ หากอดทนจนผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ ก็จะมีสายรุ้งรออยู่ข้างหน้า ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย

    • เลขเด็ดที่ควรมี: 9
    • เลขนำโชค: 09, 19, 449, 859

นอกจากนี้หากคุณฝันเรื่องดี ๆ อย่างเช่น ฝันว่าได้ออกรถใหม่ อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป เพราะหมายถึงให้ระวังเรื่องสุขภาพและความเครียดที่อาจเกิดขึ้นจากหน้าที่การงาน รวมถึงภาระในครอบครัวที่เพิ่มมากขึ้น แต่สุดท้ายจะปรับความเข้าใจกันได้ สำหรับฝันว่าได้ออกรถใหม่ เลขเด็ด คือ 18, 33 และ 83 นั่นเอง

เมื่อรถหายจริงไม่ใช่แค่ฝัน เคลมประกันได้ไหม ?

แล้วถ้าหากมันไม่ใช่แค่ฝันว่ารถหาย แต่รถดันหายจริง ๆ หลายคนร้อนรนและสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าแบบนี้เคลมประกันได้ไหม ประกันชั้นไหนคุ้มครองบ้าง ? ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจ “ความคุ้มครอง” ของประกันภัยรถหายกันก่อนดีกว่า

กรณีที่รถหายจากการชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือใด ๆ ก็ตาม บริษัทประกันภัยรถยนต์จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเต็มจำนวน ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันรถหาย ยกเว้นจะพิสูจน์ได้ว่ารถที่หายไปนั้น “หายเพราะความประมาทเลินเล่อของผู้เอาประกันเอง”

ซึ่งจะเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งพาณิชย์ มาตรา 879 ที่ระบุไว้ว่า “ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดชอบ เมื่อความวินาศภัยหรือเหตุอื่นซึ่งได้ระบุไว้ในสัญญานั้น ได้เกิดขึ้นเพราะความทุจริต หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์”

รถหาย ประกันชั้นไหนคุ้มครองบ้าง ?

อย่างที่เข้าใจกันดีว่า ประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภทให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน แต่ประเภทไหนจะคุ้มครองกรณีรถหายบ้าง ? ตาม มิสเตอร์ คุ้มค่า ไปทำความเข้าใจเพิ่มเติมกันเลย

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด นาทีนี้จะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจาก “ ประกันรถยนต์ชั้น 1 “ โดยให้ความคุ้มครองทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงชดเชยความเสียหายอันเนื่องมาจากไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ ถูกโจรกรรม และการสูญหาย โดยทางบริษัทฯ จะให้วงเงินชดเชยตามทุนประกันที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์

หากสนใจความคุ้มครองที่ครอบคลุมแบบนี้ ก่อนตัดสินใจทำประกันแนะนำให้เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีก่อน เพราะอาจมีบางเงื่อนไขที่อาจไม่ตอบโจทย์ก็เป็นได้

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองไม่ต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 1 สักเท่าไหร่นัก โดยให้ความคุ้มครองทั้งรถยนต์ผู้เอาประกันและคู่กรณี รวมถึงให้ความคุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม ถูกโจรกรรม และสูญหาย ซึ่งจะชดเชยตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์เช่นเดียวกัน

ประกันรถยนต์ชั้น 2

ประกันรถยนต์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองคล้ายกับชั้น 2+ แต่จะแตกต่างกันในประเด็น “เงื่อนไขความคุ้มครอง” เพราะประกันประเภทนี้จะรับผิดชอบเฉพาะความเสียหายของรถยนต์คู่กรณี และครอบคลุมความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม ถูกโจรกรรม และสูญหาย

หากถามว่าประกันรถยนต์ชั้นไหน ให้ความคุ้มครองด้านประกันภัยรถหายดีที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด แต่ถ้าหากคุณไม่ได้ต้องการความคุ้มครองที่มากขนาดนั้น ประกันชั้น 2+ และชั้น 2 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แนะนำให้เช็คทุนประกันรถยนต์ให้ดีก่อน หากไม่รู้ว่าจะเช็คยังไง เข้ามาเช็คราคาประกันรถยนต์กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

แล้วถ้าป้ายทะเบียนรถหายล่ะ ต้องทำยังไง ?

กรณีที่ไม่ใช่ฝันว่ารถหายแต่เป็นเรื่องของ ป้ายทะเบียนรถหาย แบบนี้ทำยังไงได้บ้าง คำตอบคือไม่ต้องกังวลเลย เพราะสามารถยื่นขอรับแผ่นป้ายทะเบียนรถทดแทนได้ที่กรมขนส่ง แถมยังไม่ต้องเดินทางไปแจ้งความให้เสียเวลา โดยมีเอกสารที่จำเป็นต้องเตรียม ดังนี้

เอกสารยื่นขอป้ายทะเบียนรถใหม่
  • เล่มทะเบียนรถตัวจริง
  • บัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ (กรณีเจ้าของรถดำเนินการด้วยตัวเอง)
  • หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถไม่สามารถไปดำเนินการด้วยตัวเองได้)
เอกสารยื่นขอป้ายทะเบียนรถใหม่ กรณีรถติดไฟแนนซ์

กรณีนี้ “เจ้าของรถ” ต้องเดินทางไปดำเนินการด้วยตัวเอง และต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ไปให้พร้อม

  • เล่มทะเบียนรถตัวจริง
  • บัตรประจำตัวประชาชนของผู้เช่าซื้อ
  • หนังสือรับรองจากบริษัทไฟแนนซ์
  • หนังสือมอบอำนาจจากไฟแนนซ์ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
เอกสารยื่นขอป้ายทะเบียนรถใหม่ กรณีนิติบุคคล
  • เล่มทะเบียนรถตัวจริง
  • หนังสือรับรองจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่เกิน 1 ปี
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีอำนาจลงนาม
  • หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

โดยการดำเนินการยื่นขอป้ายทะเบียนรถใหม่ จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่แผ่นป้ายละ 100 บาท ค่าคำขอ 5 บาท ซึ่งจะได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถภายใน 15 วันทำการ

รู้ไว้ก่อนสายเกินแก้ วิธีป้องกันรถหายมีอะไรบ้าง ?

รู้ไว้ก่อนสายเกินแก้ วิธีป้องกันรถหายมีอะไรบ้าง ? | มิสเตอร์ คุ้มค่า

ฝันแบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เป็นจริงขึ้นมาแน่ ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘โจร’ ยุคนี้ร้ายใช่ย่อย มีเทคนิคในการขโมยรถที่แยบยล แถมบางรายยังมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือในการโจรกรรมรถยนต์ หากคุณไม่อยากต้องมานั่งเครียดกับเหตุการณ์นี้ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้ลิสต์วิธีป้องกันรถหายมาให้แล้ว ตามไปดูกันเลยดีกว่า

  • 1. เลือกจุดจอดที่ปลอดภัย

    สิ่งแรกที่ควรทำหากไม่อยากให้รถหาย คือ หาจุดจอดที่ปลอดภัย ไม่เปลี่ยว และมีแสงไฟส่องสว่างอยู่เสมอ ทางที่ดีควรหาสถานที่จอดที่มีคนคอยดูแล (รปภ.) อยู่ตลอดเวลา เพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่งแล้วล่ะ

  • 2. ติดอุปกรณ์ฉุกเฉิน หรืออุปกรณ์ป้องกันขโมย

    สำหรับวิธีป้องกันรถหายที่ดีที่สุด คือ การติดตั้งอุปกรณ์ฉุกเฉินหรืออุปกรณ์ป้องกันขโมย เมื่อคนร้ายโจรกรรมรถสัญญาณที่ติดตั้งไว้จะร้องดัง ทำให้เป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้าง ทำให้ปลอดภัยจากการโดนขโมยรถได้ในระดับหนึ่ง

    นอกจากนี้การหาอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อป้องกันการขโมย ก็จะช่วยยืดระยะเวลาและเพิ่มขั้นตอน รวมถึงความยุ่งยากในการขโมยได้มากขึ้น แบบนี้อาจทำให้โจรมือสมัครเล่นหลายคนถอดใจ และหันไปมองห้ารถยนต์คันอื่น ๆ แทน

  • 3. เช็ครถหลังล็อกประตูรถให้ดี

    หลังจากที่กดล็อกรถเพื่อไปทำธุระอื่น ๆ เรียบร้อยแล้ว ควรเช็ดให้แน่ใจอีกครั้งว่าล็อกดีแล้วหรือยัง รวมถึงระวังเรื่องการลืมกุญแจไว้ในรถให้ดี และควรเก็บกุญแจไว้กับตัวเสมอ

  • 4. ไม่เก็บของมีค่าไว้ในรถ

    หากมีความจำเป็นต้องเก็บของมีค่าไว้ในรถจริง ๆ ควรเก็บไว้ในลิ้นชัก หรือใส่ในหีบห่อที่ปิดมิดชิด ไม่สามารถมองเห็นได้ง่ายจากภายนอก ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นสิ่งล่อตาล่อใจคนร้าย ให้ก่อเหตุขโมยทรัพย์สินหรือขโมยรถได้

  • 5. พกกุญแจรถไว้ใกล้ตัวเสมอ

    ขึ้นชื่อว่า “ขโมย” ต่อให้จอดรถไว้ในบ้านก็เสี่ยงรถหายได้ ดังนั้นวิธีป้องกันรถหายที่ดีที่สุด คือ เก็บกุญแจรถยนต์ไว้ใกล้ตัวเสมอ หรือเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย ไม่พบเจอได้ง่าย ๆ หรือเก็บรวมไว้ที่จุดเดียวกันกับกุญแจอื่น ๆ

ไม่ว่าจะเป็นการฝันว่ารถหายหรือรถหายจริง ๆ สิ่งที่ช่วยลดความเครียดได้ดีมาก ๆ ก็คือ “ ประกันภัยรถหาย ” หากต้องการความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ คุ้มค่าค่าเบี้ยที่ต้องจ่าย แนะนำให้เช็คทุนประกันรถยนต์ก่อนตัดสินใจเสมอ เพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ใช่ ราคาที่ชอบ แถมยังเดินทางได้อย่างอุ่นใจ ไร้กังวล

คำจำกัดความ
​​เลินเล่อ ​ขาดความระมัดระวัง หรือไม่รอบคอบ
​เช่าซื้อ ​ชื่อสัญญาซึ่งเจ้าของเอาทรัพย์สินออกให้เช่า และให้คำมั่นว่าจะขายทรัพย์สินนั้น หรือว่าจะให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นสิทธิแก่ผู้เช่า โดยเงื่อนไขที่ผู้เช่าได้ใช้เงินเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว
​โจรกรรม ​การลัก, การขโมย, การปล้น​

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่