​​อันตรายจากการบูรในรถและน้ำหอมรถยนต์ ที่อาจทำร้ายรถของคุณ

น้ำหอมใส่รถ vs การบูร เหมือนกันไหม ?

น้ำหอมดับกลิ่นในรถและการบูรใส่รถเหมือนหรือต่างกันยังไง ? ตอบตรงนี้เลยว่าน้ำหอมติดรถส่วนใหญ่ มีส่วนประกอบของ “สารระเหย” ที่ไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไรต่อระบบปรับอากาศภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นทั้งพิมเสน การบูรสำหรับไว้แขวนในรถ รวมถึงสารอื่น ๆ ที่ผสมอยู่ในน้ำหอมนั้น ๆ

สารต่าง ๆ เหล่านี้โดยเฉพาะการบูรในรถ เมื่อใช้ไปจะเกิด “ระเหิด” กระจายไปในอากาศ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอม แน่นอนว่าส่วนผสมที่ระเหยอยู่ทุกวัน จะไปเกาะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของรถ โดยเฉพาะ “ระบบแอร์” ที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน และสร้างความเสียหายอื่น ๆ ตามมาในอนาคต จึงเป็นเหตุผลที่หลาย ๆ คนควรให้ความสำคัญก่อนเลือกซื้อน้ำหอมติดรถนั่นเอง

น้ำหอมใส่รถคืออะไร ? มีกี่แบบ ?

จุดประสงค์น้ำหอมในรถหรู ๆ รวมถึงในรถยนต์ทั่วไป หน้าที่หลักคือการ “ดับกลิ่น” ไม่พึงประสงค์ แถมช่วยเพิ่มความหอมเข้ามาทดแทนกลิ่นที่ไม่มีใครอยากสัมผัส เพิ่มความสดชื่นให้ห้องโดยสาร ซึ่งในปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบ แล้วที่ปรับอากาศในรถแบบไหนตอบโจทย์ได้มากที่สุดสำหรับคุณ ลองไปเลือกันดูหน่อย

• 1. น้ำหอมดับกลิ่นรถแบบแขวน

  เป็นอีกหนึ่งประเภทน้ำหอมรถยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากใช้พื้นที่สำหรับติดตั้งไม่เยอะ แถมยังใช้ตกแต่งรถได้อีกด้วย ส่วนใหญ่นิยมแขวนกันที่กระจกมองหลัง มีให้เลือกทั้งแบบกระดาษหอม เจล และแบบน้ำ

• 2. น้ำหอมติดรถแบบกระป๋อง

  เป็นน้ำหอมใส่รถที่ใช้งานได้หลากหลาย จะใช้ในรถก็ได้ หรือใช้ในบ้านก็ตอบโจทย์ ส่วนใหญ่เป็น “น้ำหอมเจลแข็ง” ในกระป๋องพลาสติก ใช้วางตามจุดต่าง ๆ บนรถที่สามารถกระจายกลิ่นหอมได้ดี เช่น ช่องใส่ของ ใต้เบาะ รวมถึงคอนโซลรถ

• 3. น้ำหอมรถยนต์แบบเสียบกับช่องแอร์

  หนึ่งในประเภทน้ำหอมรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ถูกออกแบบมาให้ใช้กับรถยนต์โดยเฉพาะ แถมติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก เพียงเกี่ยวขวดติดไว้กับช่องแอร์ เพื่อให้ “แรงลม” ของแอร์รถยนต์ช่วยกระจายกลิ่นหอมให้ฟุ้งทั่วทั้งรถ

• 4. น้ำหอมในรถหรู ๆ แบบสเปรย์

  เป็นน้ำหอมดับกลิ่นในรถที่มาในรูปแบบกระเป๋า สามารถเลือกฉีดพ่นเพิ่มความหอมสดชื่นได้ตามใจ ข้อจำกัดคือกลิ่นอยู่ได้ไม่นาน ต้องคอยฉีดใหม่อยู่ตลอด

• 5. น้ำหอมใส่รถแบบเจล

  ประเภทน้ำหอมใส่รถประเภทสุดท้าย คือ “แบบเจล” ส่งกลิ่นได้เข้มข้นกว่าแบบก้อนแข็ง แถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะหกเลอะเทอะเหมือนกับแบบน้ำ สามารถวางตามจุดต่าง ๆ บนรถได้ตามสะดวก แต่ข้อจำกัดคือเมื่อเจลสลายตัว จะทำให้กลิ่นหอมลดลงเร็วกว่าแบบอื่น ๆ

หลายคนมักเลือกซ์้อน้ำหอมรถยนต์ตามความสะดวก เช่น ซื้อแบบแขวนเพราะไม่เกะกะ จนลืมคำนึงถึงความปลอดภัย เนื่องจากกลิ่นการบูรในรถที่รุนแรงเกินไป รวมถึงส่วนผสมต่าง ๆ อาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จะดีกว่าไหม ? หากคุณมี “ประกันภัยรถยนต์” ที่คอยดูแลตลอดการเดินทาง เลือกแผนประกันในราคาสบายกระเป๋าได้อย่างอิสระ หากคุณสนใจ มิสเตอร์ คุ้มค่า ยินดีดูแลคุณทุกเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ก่อนใครตลอด 24 ชั่วโมง

ภัยเงียบจากน้ำหอมรถยนต์ อันตรายยังไง ?

มาถึงไคลแมกซ์กับประเด็นเรื่องของสังเกตของน้ำหอม ใครจะไปคิดว่าน้ำหอมใส่รถหรือการบูรไว้ในรถ สำหรับเพิ่มความหอม สดชื่น ให้ตลบอบอวลไปทั้งรถ จะเปลี่ยนเป็น “ภัยเงียบ” ที่ทำลายระบบต่าง ๆ ของรถ รวมถึงคร่าชีวิตผู้โดยสารแบบผ่อนส่งไม่รู้ตัว อันตรายยังไงไปดูไล่ดูกัน

• 1. ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกอ่อนเพลีย

  เชื่อว่าเจอ “ข้อเสีย” ข้อนี้ของน้ำหอมติดรถเข้าไป หลายคนคงเกาหัวไปตาม ๆ กันว่ามันจะทำให้ผู้ขับขี่อ่อนเพลียได้ยังไง จริง ๆ ต้องรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าแทนหรือเปล่า?

  จริง ๆ แล้วความอันตรายของมันอยู่ที่ “ส่วนผสม” ต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับสารระเหย เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายมา ๆ จะทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้ง่าย หากผู้ขับขี่สูดดมที่ปรับอากาศในรถเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการหลับในได้

• 2. ทำให้แอร์เสื่อมสภาพ

  ขอย้ำอีกครั้งว่าสารระเหยต่าง ๆ ที่มากับน้ำหอมดับกลิ่นในรถ จะไปเกาะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของรถ โดยเฉพาะ “หน้ากากกรองแอร์” เมื่อสะสมไปนาน ๆ ประกอบกับอุณหภูมิที่ค่อนข้างร้อน อาจทำให้มันแปรสภาพเป็นสารเหนียว ๆ ที่ทำให้ช่องแอร์อุดตันได้ นอกจากนี้หากไม่รู้ หรือรู้แต่ปล่อยปละละเลย จะทำให้ระบบแอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่

• 3. ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

  สารระเหยที่ผสมอยู่ในน้ำหอมใส่รถ รวมทั้งการบูรในรถเป็นมีส่วนผสมที่อุดมไปด้วย “สารเคมี” หากสูดดมเข้าสู่ร่างกายต่อเนื่องเป็นเวลานาน กลิ่นหอมดังกล่าวอาจพัฒนาเป็น “สารก่อมะเร็ง” ได้อย่างไม่รู้ตัวในร่างกาย แค่กลิ่นของวัสดุภายในห้องโดยสารก็ทำร้ายคุณมากพออยู่แล้ว นี่ยังมีสารเคมีจากน้ำหอมเพิ่มไปอีกจะอันตรายแค่ไหน แนะนำว่าควรเช็กส่วนผสมหรือส่วนประกอบหลักให้ดีก่อนซื้อดีที่สุด

• 4. ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ

  ค่อย ๆ ก่อตัวให้เกิดมะเร็งนั้นอย่างช้า ที่ไวกว่าคือผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ อย่าลืมว่าส่วนผสมหลักของน้ำหอมรถยนต์ คือ “พิมเสน” เมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกายมาก ๆ อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ รวมถึงเกิดอาการข้างเคียงอื่น ๆ เช่น คลื่นไส้ ระคายเคืองบริเวณดวงตา รวมถึงเกิดอาการแพ้จนอาเจียนออกมา

  เพราะถึงแม้ว่าพิมเสนจะมีคุณสรรพคุณในการแก้วิงเวียนได้ดีมาก ๆ แต่ถ้าหากถูกนำมาติดตั้ง หรือนำมาใช้ในสถานที่ที่อุณหภูมิร้อนจัด จาก “ยา” ก็กลายเป็น “พิษ” ได้

• 5. ทำให้เกิดกลิ่นอับ

  ขึ้นชื่อว่าน้ำหอมรถยนต์ใช่ว่าจะให้แต่กลิ่นหอมเสมอไป เพราะถ้าหากการบูรใส่รถหรือน้ำหอมที่นำมาติดตั้งในรถ ทำปฏิกิริยากับกลิ่นอับภายในรถที่คุณอยากจะกำจัดให้สิ้นซาก มันจะก่อให้เกิดกลิ่นแปลก ๆ แทนกลิ่นหอม จนกลายมาเป็นความเหม็นอับที่อบอวลไปทั่วห้องโดยสารแทน

ทริคเลือกน้ำหอมรถยนต์ให้ดีต่อใจ ปลอดภัยทั้งรถและคน ?

สำหรับคนที่อยากเลือกซื้อน้ำหอมรถยนต์ เพื่อนำมาลดกลิ่นอับ เพิ่มกลิ่นหอมให้กับห้องโดยสาร แต่ไม่อยากเสี่ยงวันนี้เรามีทริคเลือกน้ำหอมติดรถมาให้แล้ว จะต้องเลือกยังไงให้ปลอดภัยมากที่สุด ไปดูกันเลยดีกว่า

• ควรเลือกน้ำหอมในรถที่ไม่มีกลิ่นรุนแรงเกินไป เพราะอาจทำให้รู้สึกอึดอัดมากกว่าสดชื่น รวมถึงยังทำให้ปวดหัว และไม่สบายตัวได้อีกด้วย
• เลือกน้ำหอมในรถหรู ๆ หรือการบูรในรถที่ช่วยลดกลิ่นอับ กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ได้อย่างอยู่หมัด
• เลือกที่น้ำหอมดับกลิ่นรถที่ปรากฏจากแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทั้งต่อตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และรถยนต์ โดยเฉพาะระบบแอร์
• ควรเลือกน้ำหอมดับกลิ่นในรถที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ เพื่อไม่ให้ที่ปรับอากาศในรถ (ระบบแอร์) เกิดการอุดตันในอนาคต