หัวข้อที่น่าสนใจ
- 5 สาเหตุของ รถอืดวิ่งไม่ออก สำหรับรถเกียร์ธรรมดา
- 1. กรองน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้มาตรฐาน
- 2. คอยล์จุดระเบิดเสื่อม
- 3. หัวเทียนบอด
- 4. น้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องเก่าไปแล้ว
- 5. กรองอากาศหมดสภาพ
- รถเกียร์ออโต้ “อืด วิ่งไม่ออก” มีอาการอย่างไร ?
- 1. เข้าเกียร์ D หรือ R แต่รถไม่ขยับ
- 2. เกียร์กระตุก กระชาก
- 3. เครื่องเย็นวิ่งไม่ออก เคลื่อนตัวได้ต้องรอให้ “เครื่องร้อน”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน ๆ อาจทำให้คุณพบเจอกับปัญหา รถอืดวิ่งไม่ออก เหมือนแรงน้อยลง เพราะชิ้นส่วนหรือเครื่องยนต์ อาจเกิดการสึกหรอตามกาลเวลานั่นเอง ซึ่งเราได้รวบรวม “สาเหตุ” ของปัญหาที่น่าปวดหัว มาให้คุณทำความเข้าใจเพิ่มเติมซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ? ไปติดตามพร้อม ๆ กับเราได้เลย !
5 สาเหตุของ รถอืดวิ่งไม่ออก สำหรับรถเกียร์ธรรมดา
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจ “สาเหตุ” ที่ทำให้เกิดปัญหารถอืดกันก่อนดีกว่า เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของคุณตรงจุดมากที่สุด ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะมีทั้งหมด 5 สาเหตุ แต่จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. กรองน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้มาตรฐาน
กรองน้ำมันเชื้อเพลิง มีหน้าที่ในการ “กรองสิ่งแปลกปลอม” ในน้ำมันเชื้อเพลิง หากคุณไม่ได้เปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนด เมื่อกรองสกปรก ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเหมือนวันแรก ๆ จะทำให้การไหลของน้ำมันติดขัด ไม่สะดวก อันเป็นสาเหตุของรถวิ่งอืด กำลังหาย รวมถึงมีอาการสตาร์ทติดยากอีกด้วย
2. คอยล์จุดระเบิดเสื่อม
คอยล์จุดระเบิด ทำหน้าที่ในการ “ส่งกระแสไฟให้หัวเทียน” ไปสร้างประจุไฟเพื่อทำการจุดระเบิด หากคอยล์เกิดการเสื่อม ไม่สามารถจ่ายไฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จะส่งผลให้รถอืด กำลังตก หรือเครื่องยนต์สั่นได้ ในกรณีที่รุนแรง (อาการหนัก) รถจะแจ้งเตือนคุณในรูปแบบ “ไฟเอนจินโชว์”
หากพบว่าปัญหาต่าง ๆ เกิดจากคอยล์ แนะนำให้ “ทดสอบก่อนเปลี่ยน” ว่าคอยล์เสื่อมมากน้อยแค่ไหน ด้วยการสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วยกคอยล์จุดระเบิดเพื่อสังเกต หากอาการผิดปกติของรถมีค่อนข้างน้อย อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะนั่นหมายความว่าคอยล์เริ่มเสื่อมสภาพมาก ๆ แล้วล่ะ
3. หัวเทียนบอด
หัวเทียน มีหน้าที่ในการ “จุดระเบิด” ในกระบอกสูบ หากหัวเทียนเสื่อมไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม เช่น หมดอายุการใช้งาน ใช้คอยล์ไม่มีประสิทธิภาพ และอื่น ๆ จะทำให้การจุดระเบิดทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้รถอืด กำลังตก เครื่องยนต์สั่น แนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนตามคำแนะนำในคู่มือรถยนต์ ซึ่งก็คือประมาณ 2-4 หมื่นกิโลเมตร
4. น้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องเก่าไปแล้ว
น้ำมันเครื่อง ทำหน้าที่ในการ “หล่อลื่น” ภายในเครื่องยนต์ เพื่อปกป้องชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายใน หากใช้งานไปสักระยะความใสจะหายไป และถูกแทนที่ด้วยความหนืด ซึ่งเกิดจากการเสียดสีภายในเครื่องยนต์ รวมถึงการเจอความร้อนเรื่อย ๆ ส่งผลให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ และเมื่อน้ำมันเครื่องหนืดมากขึ้นก็จะทำให้รถไม่มีกำลังนั่นเอง
5. กรองอากาศหมดสภาพ
ไม่เชื่อใช่ไหมล่ะว่ากรองอากาศสามารถทำให้รถอืดได้ !? ต้องบอกก่อนว่ารถยนต์สันดาปจะมีการหายใจเอาอากาศไปผสมกับน้ำมันที่ได้สัดส่วน พร้อมกับจุดระเบิด ซึ่ง “กรองอากาศ” จะทำหน้าที่ในการปกป้องสิ่งแปลกปลอม ในขณะที่เครื่องยนต์ดูดอากาศผ่านเข้าไป หากกรองอากาศเสื่อม ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือมีความสกปรกเกิดขึ้น จะทำให้อากาศผ่านเข้ามาได้น้อยมาก ๆ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มที่
รถเกียร์ออโต้ “อืด วิ่งไม่ออก” มีอาการอย่างไร ?
ต้องบอกก่อนว่าระบบรถเกียร์ออโต้ มีความซับซ้อนการดูแลรถยนต์ที่ยากมากกว่ารถเกียร์ธรรมดา หากเสื่อมสภาพหรือได้รับการดูแลไม่ถูกวิธี อาจจะทำให้เกิดอาการถอยหลังไม่ได้ เร่งเครื่องไม่ขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากรถจะเร่งไม่ขึ้นเหมือนเดิมแล้ว อาการอะไรอีกบ้างที่คุณควรพิจารณาร่วมด้วย ไปดูกัน
1. เข้าเกียร์ D หรือ R แต่รถไม่ขยับ
หากพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเป็นที่ “ระบบเกียร์” หากอาการที่พบไม่ค่อยมาก เพียงแค่เปลี่ยนคลัทช์ก็ได้ แต่ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้จนอาการเริ่มรุนแรง อาจจะต้องเปลี่ยนเกียร์ทั้งลูก (ขึ้นอยู่กับอาการและความเสื่อม)
2. เกียร์กระตุก กระชาก
อาการเกียร์กระตุก กระชาก อาจหมายความว่ามีความสกปรกภายในระบบเกียร์ ให้ทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเก่าออก แล้วเติมน้ำมันเกียร์ใหม่เข้าไป แต่ถ้าหากพบว่ามีการรั่วไหลร่วมด้วย จะต้องเปลี่ยนปะเก็นแคร้งไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยังควรเช็กการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนอื่น ๆ ด้วย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาเพิ่มเติม
3. เครื่องเย็นวิ่งไม่ออก เคลื่อนตัวได้ต้องรอให้ “เครื่องร้อน”
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าโดยปกติแล้ว “แผ่นคลัทช์” ของรถเกียร์ออโต้ หากใช้ไปนาน ๆ จะมีการสึกหรอได้เช่นกัน หากพบอาการเหล่านี้แนะนำให้ซ่อมคลัทช์ และเปลี่ยนยกชุดคลัทช์ของเกียร์ทั้งหมด อาการรถอืด เร่งเครื่องไม่ขึ้นก็จะหายไป แต่ถ้าหากยังมีอาการอยู่ แนะนำให้ตรวจเช็กระบบอื่น ๆ ร่วมด้วย อย่าคิดปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด
หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจ “สาเหตุ” ที่ทำให้เร่งเครื่องไม่ขึ้น รถอืด วิ่งไม่ออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การดูแลรถยนต์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ต่อจากนี้แค่เพียงหมั่นดูแลเครื่องยนต์อยู่เสมอ เมื่อครบกำหนดก็ควรจะไปเปลี่ยนอะไหล่ต่าง ๆ รวมถึงเลือกอะไหล่แท้ มีมาตรฐาน และใช้บริการศูนย์/อู่ซ่อมที่ไว้ใจได้ ก็จะช่วยรถของคุณเกิดปัญหาต่าง ๆ น้อยที่สุดแล้วล่ะ
จะเห็นได้ว่าสาเหตุที่ทำให้รถอืดวิ่งไม่ออก อาจเกิดได้จากหลากหลายปัจจัย หากไม่มีความชำนาญในการเช็กความผิดปกติ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาใหญ่ที่อาจจะตามมาในอนาคต และถ้าหากคุณต้องการความอุ่นใจตลอดการเดินทาง อย่าลืมเลือกซื้อ “ประกันภัยรถยนต์” กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า เอาไว้ด้วย เพราะนอกจากจะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมแล้ว ยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เวลาใด บริษัทประกันพร้อมดูแลคุณเสมอ คลิกเลยที่ MrKumka.com