ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแบตเตอรี่รถยนต์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญ แต่ด้วยความที่มีอายุการใช้งานที่จำกัด จึงไม่สามารถเลี่ยงการเปลี่ยนได้เลย เมื่อถึงเวลานั้นหลายคนก็คงเกิดความสงสัยตามมาว่า แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี หรือแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนทนสุด ดังนั้นเพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มิสเตอร์ คุ้มค่า จึงได้ลิสต์ยี่ห้อที่น่าสนใจมาให้แล้ว จะมียี่ห้อไหนบ้าง ตามไปดูพร้อม ๆ กันเลย
แบตเตอรี่รถยนต์ มีกี่ประเภท ?
ก่อนหาคำตอบว่าแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนทนสุด หรือแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดีที่สุด มาทำความรู้จักประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์กันหน่อยดีกว่า ซึ่งหลัก ๆ แล้วมีทั้งหมด 4 ประเภท ดังนี้
1. แบตเตอรี่แบบแห้ง (Sealed Maintenance Free)
หรือ SMF เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน เพราะภายในถูกบรรจุด้วยของเหลวสำหรับทำปฏิกิริยา พูดง่าย ๆ ว่าแบตเตอรี่ประเภทนี้มีการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟมาจากโรงงานผู้ผลิตเรียบร้อยแล้ว
2. แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (Maintenance Free)
หรือ MF คล้ายคลึงกับแบบแห้ง แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อยตรงที่ประเภทนี้ ยังคงมีรูสำหรับเติมน้ำกลั่น (แบบแห้งไม่มี) แม้ไม่ต้องดูแลบ่อยแต่ก็ควรเช็คระดับน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้ง
3. แบตเตอรี่แบบน้ำ (Conventional Battery)
เป็นแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้กันมาตั้งแต่ดั้งเดิม และมีความแตกต่างจากแบบแห้งค่อนข้างมาก นอกจากจะมีรูสำหรับเติมน้ำกลั่นแล้ว ยังต้องอาศัยการเติมน้ำกลั่นและดูแลเป็นประจำ วิธีดูแบตเตอรี่รถยนต์ประเภทนี้ที่ดีที่สุด คือ ตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นทุกสัปดาห์ เพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
หากผู้ขับขี่ปล่อยให้น้ำระเหยไปจนหมด จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ อายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้นแบตประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาดูแลรถยนต์ รวมถึงแบตเตอรี่
4. แบตเตอรี่แบบไฮบริด (Hybrid Battery)
เป็นแบตเตอรี่ลูกผสมระหว่างแบบกึ่งแห้งและแบบน้ำ มีค่า CCA สูง แถมยังมีขนาดใหญ่กว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น ๆ เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานหนัก ไม่ว่าจะเป็นรถรับจ้าง, รถโดยสาร หรือรถบรรทุก โดยแบตประเภทนี้ต้องเติมน้ำกลั่นประมาณ 6-9 เดือนต่อครั้ง
หลังจากที่ได้รู้แล้วว่าแบตเตอรี่รถยนต์ในปัจจุบันมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไง แต่ก็ยังไม่วายเลือก ‘ยี่ห้อ’ ไม่ถูกอยู่ดี ซึ่งไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัว เพราะเราลิสต์ 5 ยี่ห้อที่น่าสนใจมาให้แล้ว ตามไปทำความรู้จักก่อนเลือกซื้อกันเลยดีกว่า
เลือกแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี ?
ด้วยความที่ในปัจจุบันมีแบตเตอรี่รถยนต์ให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น แถมยังมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากกำลังหาคำตอบว่าแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ตามไปดูแต่ละยี่ห้อที่เรานำมาบอกต่อกันเลย
1. GS MFX-80L
สำหรับรถยนต์ประเภท MF มาพร้อมขนาดความจุ 75 แอมป์ ถูกออกแบบมาสำหรับรถยนต์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Toyota, Mazda, Hyundai และอื่น ๆ และเพื่อให้แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อนี้ตอบโจทย์การใช้งานระยะยาวมากที่สุด ทางแบรนด์จึงมอบการรับประกันสินค้ายาวนาสูงสุด 1 ปี
- ขนาดสินค้า : 175x258x225 มิลลิเมตร
- ประเภทแบตเตอรี่ : MF
- ความดันกระแสไฟฟ้า : 12 โวลต์
- จำนวนแอมป์ : 75 แอมป์
- ค่า CCA : 580 หน่วย
2. FB GOLD 100LN5L SMF
แบตรถยนต์ยี่ห้อนี้มาพร้อมกับสเปกโดยรวมต่าง ๆ ในระดับสูง ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานระยะยาวได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่ถึง 100 แอมป์ รองรับการสตาร์ทรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยค่า CCA 850 หน่วย
- ขนาดสินค้า :175x353x190 มิลลิเมตร
- ประเภทแบตเตอรี่ : SMF
- ความดันกระแสไฟฟ้า : 12 โวลต์
- จำนวนแอมป์ : 100 แอมป์
- ค่า CCA : 850 หน่วย
3. PANASONIC 50B24L/R
นับเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อแบตเตอรี่รถยนต์ ที่น่าจับตามองมากที่สุดในปี 2024 ใช้งานได้กับรถยนต์หลากหลายแบรนด์ โดยเฉพาะรถเก๋งขนาดปกติและรถ Eco Car ซึ่งใช้พลังงานจากตัวแบตเตอรี่ไม่มากเท่าไหร่นัก
- ขนาดสินค้า :129x238x227 มิลลิเมตร
- ประเภทแบตเตอรี่ : MF
- ความดันกระแสไฟฟ้า : 12 โวลต์
- จำนวนแอมป์ : 45 แอมป์
- ค่า CCA : 364 หน่วย
4. YUASA 50B24L SMF
เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นระดับทั่วไป มาพร้อมกับสเปกโดยรวมค่อนข้างสูง แต่ราคาย่อมเยา ใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่น เนื่องจากเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ประเภท SMF มาพร้อมกับขนาดความจุ 50 แอมป์ ค่า CCA 540 หน่วย
- ขนาดสินค้า :-
- ประเภทแบตเตอรี่ : SMF
- ความดันกระแสไฟฟ้า : 12.4 - 12.6 โวลต์
- จำนวนแอมป์ : 50 แอมป์
- ค่า CCA : 540 หน่วย
5. 3K PMF50L
รองรับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์สำหรับรถยนต์หลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Mazda, SUBARU, Toyota, HONDA และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในรถเก๋ง แต่ในด้านของค่า CCA ที่มีผลกับการสตาร์ท รุ่นนี้ให้มาสูงถึง 500 หน่วยกันเลยทีเดียว
- ขนาดสินค้า :12.9x23.8x22.5 มิลลิเมตร
- ประเภทแบตเตอรี่ : MF
- ความดันกระแสไฟฟ้า : -
- จำนวนแอมป์ : 50 แอมป์
- ค่า CCA : 500 หน่วย
นอกจากจะเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับ “ประกันภัยรถยนต์” ด้วยเช่นกัน เพราะการเลือกแบตเตอรี่ที่ดีที่สุด หรือรู้วิธีดูแบตเตอรี่รถยนต์เป็นอย่างดี ไม่ได้พาให้คุณหลบเลี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนนได้เลย แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อแผนประกันแบบไหน ที่คุ้มครองตอบโจทย์ แถมราคาสบายกระเป๋า เข้ามาเช็คเบี้ยประกันรถยนต์กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ก่อนใครได้ตลอด 24 ชั่วโมง
แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม เคลมประกันได้ไหม ?
หลังจากทำความเข้าใจในประเด็นแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี ทนทาน แข็งแรง และตอบโจทย์การใช้งานระยะยาวแล้ว มาต่อกันที่ประเด็นแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม เคลมประกันได้ไหมกันเลยดีกว่า ในกรณีที่แบตเตอรี่เสื่อมสภาพตามการใช้งาน จะไม่สามารถแจ้งเคลมประกันได้ เว้นแต่จะได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุรถชน ซึ่งสามารถเคลมค่าแบตเตอรี่รถยนต์ได้ประมาณ 50% ที่ทางบริษัทประกันได้ประเมินหรือระบุเอาไว้ในเงื่อนไขกรมธรรม์
วิธีดูแบตเตอรี่รถยนต์ หมดอายุ มีอะไรบ้าง ?
โดยปกติแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งาน ‘อย่างน้อย’ ประมาณ 2 ปี หรือมากสุดถึง 5 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และปัจจัยอื่น ๆ เช่น สภาพอากาศ, ความผิดปกติของระบบชาร์จไฟ, การต่อขั้วแบตไม่ดี ฯลฯ แล้วแบบนี้จะรู้ได้ยังไงว่าแบตเตอรี่หมดอายุ (เสื่อม) หากคุณกำลังสงสัยในเรื่องนี้ เรารวบรวมวิธีเช็กมาให้แล้ว
1. เช็กจากการสตาร์ท
อาการแรกที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม หรือมีปัญหา หรือ “รถสตาร์ทติดยาก” รวมถึงได้ยินเสียงเครื่องยนต์ลากยาวกว่าปกติ
2. เช็กสีที่ตาแมว
ให้เช็กที่ตาแมวเพื่อสังเกต ‘สี’ ที่ปรากฏ หากเป็นสีฟ้า = แบตเต็ม แต่ถ้าเป็นสีขาวไฟอ่อน และสีแดง = น้ำกลั่นแห้ง
3. เช็กจากไฟที่ไม่ค่อยสว่าง
เนื่องจากแบตเตอรี่รถยนต์ที่หน้าที่ในการจ่ายไฟให้ระบบต่าง ๆ ภายในรถ หากไฟไม่ค่อยสว่าง ทั้งไฟในห้องโดยสาร ไฟหน้ารถ หรือไฟตำแหน่งไหน ๆ ก็ตาม รู้ไว้เลยว่าแบตเตอรี่กำลังมีปัญหา ซึ่งก็คือแบตเสื่อมสภาพ ทำให้จ่ายไฟได้ไม่เต็มที่นั่นเอง
4. เช็กจากกลิ่น
หากแบตเตอรี่รถยนต์มีปัญหา โดยเฉพาะแบตเสื่อมมักตามมาด้วยกลิ่นที่ผิดปกติ เช่น เหม็นเหมือนไข่เน่า
5. พ่วงแบตเตอรี่บ่อย
หากรถยนต์ไฟไม่เพียงพอ จำเป็นต้องพ่วง (จั้ม) แบตอยู่บ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าคุณควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์เต็มทีแล้ว
วิธีดูแบตเตอรี่รถยนต์ ทำยังไงให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ?
อย่างที่บอกไปแล้วว่าแบตเตอรี่รถยนต์ เป็นสิ่งที่ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานในระยะยาว และเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีผลต่อการทำงานของระบบรถยนต์อย่างมาก ดังนั้นการดูแลรักษาให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่ตลอด จึงเป็นวิธีดูแบตเตอรี่รถยนต์ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ดีมาก ๆ
สำหรับวิธีดูแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยการทำความสะอาดแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ บอกเลยว่าไม่ลำบากอย่างที่คิด โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เริ่มจากเช็ดทำความสะอาดสายไฟและแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยน้ำอุ่น
- จากนั้นเช็ดด้วยผ้าแห้งเพื่อให้บริเวณแบตเตอรี่แห้งอยู่เสมอ
- ตรวจสอบความสะอาดของขั้วแบต พร้อมกับหาน้ำยาเพื่อทาป้องกันการเกิดคราบขี้เกลือ
นอกจากนี้หากเป็นแบตเตอรี่แบบดั้งเดิมควรเติมน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ และตรวจวัดกระแสไฟและไดชาร์จให้พร้อมใช้งานทุกช่วงเวลา ตลอดจนเช็กความมั่นคงของตัวแบต ว่าถูกยึดติดไว้อย่างแน่นหนาหรือไม่ ซึ่งถ้าหากทำตามครบทั้งหมดตามที่เราบอกไปแล้ว รับประกันว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณจะใช้งานในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ไม่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรแน่นอน
การพยายามค้นหาคำตอบว่าแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับรถคันโปรด ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ แต่จะดีกว่านั้นหากคุณมี “ประกันรถยนต์” ที่คุ้มครองครอบคลุม ควบคู่ไปกับการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ที่ทนทาน แข็งแรง เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้การใช้รถ ใช้ถนนของคุณราบรื่น ไร้กังวลแล้วล่ะ
คำจำกัดความ
รถยนต์ประเภท MF | ย่อจากคำว่า Maintenance free คนไทยจะเรียกติดปากว่าแบตเตอรี่กึ่งแห้ง |
ค่า CCA | ย่อมาจาก Cold Cranking Amp หมายถึง ความสามารถในการจ่ายกระแสเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ในสภาวะอากาศหนาว |
น้ำกลั่น | น้ำที่ได้จากการควบแน่นด้วยเครื่องกลั่นน้ำ |