หากต้องการ “ลดความเสี่ยง” ในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จำเป็นต้อง เช็คสภาพรถ ให้พร้อมต่อการใช้งานอยู่เสมอ เผื่อว่ามีเหตุฉุกเฉินจะได้เตรียมรับมือได้ทัน และเพื่อให้คุณมี “แนวทาง” ในการดูแลรถยนต์ให้ดีอยู่เสมอ MrKumka จึงได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์มาให้คุณทำความคุ้นเคยเรียบร้อยแล้ว จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามพร้อม ๆ กันกับ MrKumka เลย
6 วิธี เช็คสภาพรถ ต้องดูอะไรบ้าง ?
สิ่งสำคัญของการออกเดินทาง จะเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากการตรวจเช็กความพร้อมของรถยนต์คู่ใจ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเพิ่มความมั่นใจให้กับการขับขี่ของคุณ ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท เราจึงรวบรวม “สิ่งที่ควรเช็ก” มาให้เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดดังนี้
ยางรถยนต์
“ยางรถยนต์” ถือเป็นการตรวจเช็ครถเพื่อความพร้อมขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะ “ลมยาง” ของรถยนต์ทุกเส้น นอกจากจะต้องเติมลมยางตามมาตรฐานที่กำหนดแล้ว ยังควรเติมลมยางสำหรับยางอะไหล่ เพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อต้องใช้ในกรณีฉุกเฉินด้วย เพราะถ้าหากยางมีปัญหาใด ๆ ก็ตาม แน่นอนว่าระบบเบรกของคุณจะมีปัญหาตามไปด้วย
น้ำมันเบรกและระบบเบรก
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “น้ำมันเบรก” เป็นระบบปิด และอยู่ภายในระบบเบรก ไม่มีทางระเหยเหมือนกับน้ำมันเชื้อเพลิง เว้นแต่กรณี “ผ้าเบรกสึก เสื่อมสภาพ” ดังนั้นควรเช็กน้ำมันเบรกและระบบเบรกให้ดี เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์คู่ใจจะพาคุณเดินทางไปถึงที่หมายอย่างสวัสดิภาพ
น้ำมันเครื่อง
“น้ำมันเครื่อง” นับเป็นว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน หากรถยนต์ขาดน้ำมันเครื่องแล้วล่ะก็ อาจส่งผลให้เครื่องยนต์ของคุณได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากมีคุณสมบัติในการลดแรงเสียดทาน แนะนำให้ตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องอยู่เสมอ ซึ่งสามารถทำได้เองง่าย ๆ หากพบว่าอยู่ในระดับ Low หรือต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด แนะนำให้เติมทันที ไม่ต้องรอให้ครบรอบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
แบตเตอรี่
“แบตเตอรี่” นับเป็นหัวใจสำคัญก็ว่าได้ หากมีแพลนเดินทางไกล หรือการเดินทางที่ต้องใช้ระยะเวลานาน แนะนำให้ตรวจสภาพแบตเตอรี่ก่อนว่าพร้อมต่อการใช้งานหรือไม่ รวมถึงควรทำความสะอาดคราบน้ำมัน สิ่งสกปรกที่ติดบนขั้นแบตออก ความหนาแน่นของขั้วแบตและฉนวนหุ้มสาย ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรตรวจเช็ครถเช่นเดียวกัน
ที่ปัดน้ำฝน
“ที่ปัดน้ำฝัน” นับเป็นสิ่งแรก ๆ ที่หลายคนมักมองข้าม แต่อย่าลืมว่าต่อให้ไม่ใช่หน้าฝน แต่ก็มีโอกาสที่ฝนจะตกลงมาได้ตลอดเวลา แนะนำให้เช็กที่ปัดน้ำฝนให้มีสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อทัศนวิสัยในการขับรถที่ยอดเยี่ยม ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี
ประกันรถยนต์
“ประกันรถยนต์” นับเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด โดยจะต้องดูว่าประกันรถยนต์ใกล้หมดอายุแล้วหรือยัง หรือหมดอายุไปแล้ว เพื่อเพิ่มความอุ่นใจเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะบริษัทประกันรถยนต์ จะช่วยแบกรับภาระค่าใช้จ่ายให้คุณตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงอยู่เคียงข้างคุณตลอดอายุกรมธรรม์
เหตุผลที่รถของคุณควรมีประกัน
หลายคนมองว่าการซื้อประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็น “ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย” แถมในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี ก็ไม่อยากเจียดเงินไปกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นสักเท่าไหร่นัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว การซื้อประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้ จะช่วยให้คุณไม่ต้องปวดหัวกับภาระค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะมีข้อดีอื่น ๆ เป็นอย่างไร ไปดูกันเลย !
ลดการปะทะกับคู่กรณี
ในหลาย ๆ ครั้งที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ล้วนเป็นบ่อเกิดของ “อารมณ์ที่รุนแรง” ส่งผลให้เกิดการโต้เถียงกันระหว่างคุณและคู่กรณี รวมถึงอาจมีการเจรจาใด ๆ ที่อาจทำให้ฝั่งคุณเสียเปรียบในแต่ละสถานการณ์
ดังนั้นบริษัทประกันภัยจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการ “ลดแรงปะทะ” ที่จะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี สามารถพูดคุยและจัดการเรื่องราวต่าง ๆ แทนคุณให้ผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุในช่วงเวลาใดก็ตาม สามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ลดความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม้ว่าบางครั้งคุณจะระมัดระวังการขับขี่ของตัวเองมากแค่ไหน แต่ไม่ได้การันตีว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังรวมถึงกรณีเกิดไฟไหม้ รถหาย น้ำท่วม หรืออื่น ๆ การเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ นับว่าช่วยลดความเสี่ยงให้เบาบางลง ช่วยให้คุณมีเงินไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ต่อได้ โดยไม่ต้องควักเงินไปกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
มีวงเงินประกันตัว กรณีเกิดเหตุร้ายแรง
ต้องบอกก่อนว่า “อุบัติเหตุ” สามารถแบ่งคดีได้เป็น 2 แบบ คือ คดีแพ่งและคดีอาญา ซึ่งมีความหมายแตกต่างกัน ดังนี้
- คดีแพ่ง เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าเสียหาย อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งทางบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบตามวงเงินที่ระบุในกรมธรรม์
- คดีอาญา คือ การขับขี่โดยประมาท ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ทางบริษัทฯ จะดำเนินการช่วยเหลือผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกัน เพื่อต่อสู้กับคดี หรือพูดง่าย ๆ ว่าช่วยไม่ให้ถูกคุมขังในระหว่างดำเนินคดี ด้วยการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจนจบกระบวนการทางกฎหมาย หรือจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
การใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะต้องการเดินทางไปที่ไหนก็ตาม นอกจากจะต้องตรวจเช็กความพร้อมของรถยนต์คู่ใจแล้ว ยังต้องเช็กความสมบูรณ์ ของ “ความคุ้มครอง” ประกันรถยนต์อีกด้วย เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่น และมีเพื่อนเคียงข้างจนถึงจุดหมาย หากไม่รู้ว่าจะซื้อประกันภัยรถยนต์ที่ตอบโจทย์จากที่ไหน MrKumka คือหนึ่งในคำตอบที่คุณไม่ควรปล่อยผ่าน เพราะเรายินดีมอบความคุ้มครองที่ครอบคลุม เบี้ยประกันราคาสบายกระเป๋า แถมยังสามารถเปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย คลิกเลยที่ MrKumka.com