หลายคนมักคิดว่าการ จอดรถใต้ต้นไม้ จะส่งผลดีต่อรถยนต์มากกว่าการจอดรถในที่โล่งแจ้ง แต่คุณรู้ไหมว่า “ความคิด” ดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อรถยนต์ของคุณอย่างไม่รู้ตัว หากคุณยังมองภาพไม่ออกว่าการจอดรถในที่ร่ม จะทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายได้อย่างไร MrKumka ได้รวบรวมข้อเสียมาให้คุณได้นำไปประกอบการตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้รถของคุณมากแค่ไหน ไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันเลย
“ความเสียหาย” ที่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณ จอดรถใต้ต้นไม้
ขอย้ำอีกครั้งว่าการจอดรถใต้ร่มเงา โดยเฉพาะใต้ต้นไม้ใหญ่ “ไม่ได้ส่งผลดี” อย่างที่คุณคิด หากยังมองภาพไม่ออก เราไปดู “ข้อเสีย” ของการจอดรถใต้ต้นไม้กันเลยดีกว่า
เศษกิ่งไม้ทำสีรถมี “ลักยิ้ม”
“กิ่งไม้” ในที่นี้ หมายถึงกิ่งไม้เล็ก ๆ เท่านั้น แต่เชื่อไหมว่าสามารถสร้างความเสียหายให้รถเป็นรอยได้มากเลยล่ะ โดยเฉพาะรอยเล็ก ๆ น้อย ๆ และรอยบุบบริเวณหลังคา ฝากระโปรง ที่อาจะเป็นรอยบุบลักยิ้มเล็ก ๆ ได้เลย กระซิบก่อนเลยว่า “วิธีขัดสี” อาจช่วยไม่ได้ และในบางกรณีอาจเป็น “งานใหญ่” จนถึงขั้นต้องทำสีรถ (บริเวณนั้น) ใหม่กันเลย
นอกจากนี้เศษกิ่งไม้/ใบไม้ อาจสร้างความเสียหายต่อ “ระบบแอร์” ได้อีกด้วย โดยเฉพาะการจอดใต้ต้นไม้ในวันที่ฝนตกหนัก เกิดลมแรง ที่อาจทำให้ใบไม้เข้าไปอยู่ในระบบหมุนอากาศภายในรถ ส่งผลให้ระบบแอร์ขัดข้อง รวมถึงมีคราบสกปรกที่ไม่พึ่งประสงค์อีกด้วย และยังไม่ปลอดภัยต่อการใช้รถอีกด้วย
“ยางต้นไม้” ทำลายสีรถได้มากกว่าที่คิด
แม้ว่าการจอดรถใต้ต้นไม้ จะช่วยสร้างร่มเงาให้กับรถยนต์ของคุณได้ก็จริง แต่ “ยางต้นไม้” คือศัตรูตัวฉกาจที่ส่งผลร้ายแรงต่อสีรถยนต์ของคุณเลยล่ะ ยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ ยางต้นไม้ก็จะกลายเป็นคราบฝังลึก ขัดออกยาก ทำให้รถเป็นรอย และการทำสีรถใหม่อาจเป็นทางออกสุดท้าย ที่ทำให้รถยนต์ของคุณกลับมาแวววาว ไร้รอยด่างกวนใจ
สัตว์เลื้อยคลาน
ต้นไม้นอกจากจะให้ร่มเงาได้แล้ว ยังเป็นที่อาศัยของสัตว์เลื้อยคลานนานาชนิด ซึ่งอาจแฝงตัวมาหลบซ่อนภายในรถของคุณแบบไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นมด งู ตะขาบ หรืออื่น ๆ ที่นอกจากจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อรถยนต์ด้วย โดยเฉพาะมดที่อาจจะไปทำลายสายไฟให้พังเสียหาย จนก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ตามมาก็เป็นได้
“ขี้นก” ศัตรูของสีรถ รอยด่างที่เอาไม่ออก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า “ขี้นก” เป็นหนึ่งในศัตรูตัวร้าย ที่สร้างความเสียหายให้กับสีรถยนต์ของคุณ ยิ่งถ้าหากมีขี้นกตกใส่รถเปื้อนบริเวณต่าง ๆ ของรถ แล้วคุณไม่รีบทำความสะอาด ปล่อยให้เป็นคราบแห้งฝังลึก อาจทำให้คุณกุมขมับได้เลย
เห็นแล้วใช่ไหมว่า “ข้อเสีย” ของการจอดรถใต้ต้นไม้ นำพามาซึ่งความเสียหายมากมาย โดยเฉพาะความเสียหายต่อสีรถยนต์ของคุณ หากไม่ต้องการพบเจอปัญหาน่าปวดหัวเหล่านี้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้จะดีที่สุด แต่จะต้องจอดแบบไหนถึงจะปลอดภัย เรารวบรวมคำตอบมาให้แล้ว !
จอดรถยนต์ยังไงให้รถของคุณปลอดภัยได้จริง
เชื่อว่าเมื่อคุณได้ทำความเข้าใจ “ข้อเสีย” ของการจอดรถใต้ต้นไม้ไปแล้ว คงรู้สึกขยาดและกลัวที่จะจอดในบริเวณดังกล่าว พร้อมกับเกิดความสงสัยว่า “ควรจอดที่ไหน เพื่อให้การใช้รถยนต์ปลอดภัย” เราได้ลิสต์มาให้เรียบร้อยแล้ว ไปดูกัน !
- เลี่ยงการจอดรถบนพื้นที่เป็นดิน เพื่อป้องกันสัตว์ชนิดต่าง ๆ แอบเข้ามาในรถ
- จอดรถในร่ม โดยเฉพาะที่จอดรถที่มีหลังคา ไม่ใช่ร่มไม้
- คอยสังเกตคราบยางไม้หรือขี้นก หากเจอควรล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที
- หากต้องจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน แนะนำให้ใช้ “ม่านบังแดด” เพื่อลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร รวมถึงเลือกใช้ฟิล์มกันแดดที่มีคุณภาพ สามารถกันความร้อนได้จริง
ตอบชัด ๆ ต้นไม้หักโค่นใส่รถ ใครรับผิดชอบ !?
กรณีที่คุณจอดรถยนต์ใต้ต้นไม้ แล้วบังเอิญเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน “ต้นไม้หักโค่นใส่รถ” แม้จะเกิดจากลมพายุ ฟ้าฝนก็ตาม บริษัทประกันมองว่าเป็น “เหตุสุดวิสัย” จะโทษหรือเรียกร้องค่าเสียหายจากใครไม่ได้ แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่ไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน นับเป็น “ความบกพร่อง” ของเจ้าของต้นไม้ ที่ไม่ยอมค้ำจุนเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น คุณสามารถเรียกร้องค่าเสียหายกับเจ้าของได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน เทศบาล หรือกรมทางหลวง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครอง
กรณีที่ไม่ทราบว่าใครคือเจ้าของต้นไม้หรือคุณไม่แจ้งเบาะแสให้บริษัทประกันทราบ “คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายและซ่อมรถเอง” เว้นแต่คุณจะทำประกันชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองรถยนต์กรณีไม่มีคู่กรณี ก็จะได้รับค่าชดเชย ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
*หมายเหตุ: ประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น แนะนำให้สอบถามเจ้าหน้าที่ประกันภัยให้ดี ว่าให้ความคุ้มครองเหตุการณ์นี้ด้วยหรือไม่ เนื่องจากแต่ละบริษัทอาจมีเงื่อนไขความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไปแม้ว่าการจอดรถใต้ต้นไม้จะช่วยบังแดดให้รถยนต์คู่ใจของคุณได้จริง เนื่องจากช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากเปรียบเทียบ “ข้อเสีย” ที่จะเกิดขึ้นแล้ว บอกเลยว่าหลีกเลี่ยงจะดีที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นอาจทำให้รถยนต์ของคุณเกิดรอยบุบ รอยขีดข่วนได้ง่าย ๆ หากต้องการซื้อประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุม (ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1) สามารถเลือกเปรียบเทียบประกันรถยนต์ออนไลน์ได้ที่ MrKumka เพื่อให้รถยนต์ของคุณได้รับความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ คลิกเลย !
@mrkumka
