ศูนย์ถ่ายน้ำมันเครื่อง ในปั้มน้ำมันมีที่ไหนบ้างที่คุณเลือกใช้บริการได้

1. ศูนย์บริการ เชลล์ เฮลิกส์ พลัส มา (ปั้ม Shell)

มาพร้อมกับ “ห้องรับรองลูกค้า” แสนครบครัน สามารถนั่งอ่านหนังสือ จิบชา กาแฟ หรือทำงานรอก็ได้ เพราะมีบริการ Wi-Fi ฟรี ! เพียงแค่ขอพาสเวิร์ดจากเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ การรอคอยของคุณจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ในส่วนของระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น หรือถ้าหากคุณต้องการใช้บริการตรวจเช็กส่วนอื่น ๆ เช่น น้ำมันเบรก ช่วงล่าง หรืออื่น ๆ สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพราะที่นี่พร้อมให้บริการคุณอย่างครบครัน แถมราคาคุณภาพสุด ๆ !

ในเรื่องของ “มาตรฐานการให้บริการ” ไม่ต้องกังวลเลย เพราะการบริการของที่นี่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ที่สำคัญ ! มีกระบวนการ touchless to engine คือ ช่างจะสัมผัสเครื่องยนต์รถยนต์คู่ใจของคุณน้อยมาก ด้วยการใช้เทคโนโลยีจากเครื่องดูดน้ำมันที่ได้รับการรับรองเป็นอย่างดี

2. ศูนย์บริการ FIT Auto (ปั้ม ปตท)

ทีมช่างของ FIT Auto เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมและเทรนด์จาก “ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันหล่อลื่น” โดยตรง เพื่อให้สามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ พร้อมดูแลรถยนต์ของคุณอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ให้ความสำคัญทุก ๆ ส่วน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น “หัวใจสำคัญ” รถยนต์ของคุณ ช่วยให้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สมรรถแน่น หมดปัญหาจุกจิกกวนใจ

ตัวผลิตภัณฑ์ยังได้มาตรฐานระดับโลก จากแนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์บนพื้นฐานของความหลากหลาย เหมาะสำหรับรถยนต์ทุกประเภท นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับทีมงาน PTT LUBE SOLUTIONS ที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษา และแนะนำการใช้งานน้ำมันหล่อลื่น (น้ำมันเครื่อง) ได้อย่างถูกต้อง !

3. Mobil Express (ปั้ม Esso)

ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง Mobil Express เน้นความสำคัญของ “สุขภาพ” ของลูกค้าเป็นสำคัญ จึงได้จัดเตรียม “เครื่องฆ่าเชื้อโรคอัจฉริยะ UV-C” มาติดตั้งไว้ที่ศูนย์เปลี่ยน เพื่อฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวสัมผัสภายในรถยนต์คู่ใจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย, เกียร์รถยนต์, เบาะที่นั่ง, ปุ่มสตาร์ท และอื่น ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณให้ได้มากที่สุด

ในส่วนของตัวผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ ยังได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพ เพิ่มการปกป้องได้มากกว่า 65% เหนือกว่าด้วยมาตรฐานล่าสุด API SP และ ILSAC GF-6A ช่วยให้รถยนต์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยราคาจ่ายที่แสนจะย่อมเยา หรือเรียกได้ว่า “คุ้มค่าเหนือราคา” กันเลยทีเดียว !

คนใช้รถใช้ถนนหลายคนคงทราบดีว่า เมื่อถึง “ระยะหรืออายุการใช้งานตามกำหนด” ซึ่งหลายคนมองว่าเปลี่ยนบ่อยเกินไปหรือเปล่า ? เพราะอะไรถึงต้องเปลี่ยน ทั้ง ๆ ที่รถไม่ได้มีปัญหา สามารถใช้งานได้ตามปกติ !? บอกตรงนี้เลยว่าน้ำมันเครื่องเมื่อถูกใช้งานแล้ว มักจะเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ ซึ่งการเสื่อมสภาพดังกล่าว จะทำให้ประสิทธิภาพต่าง ๆ ลดลง และไม่เหมาะสมต่อการใช้งานอีกต่อไป

หากอยากรู้ว่าแบบไหนคือ “น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ” ให้ลองสังเกตจาก “สีน้ำมันเครื่อง” ซึ่งจะมีสีที่เข้ม และมีความข้นมากกว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีคราบเขม่า และตะกอนต่าง ๆ ปะปนอยู่ด้วย ซึ่งแตกต่างจากตอนแรกมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ ? รวมไปถึงมีสัญญาณเตือนในรูปแบบต่าง ๆ อีกด้วย !