การจอดรถบนถนนสาธารณะ คือเรื่องปกติที่ไม่ว่าใครก็สามารถจอดได้ แต่คุณเคยสังเกตไหมว่า ? สีขอบฟุตบาทมีสีกำกับอยู่ด้วยเสมอ ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกว่าที่ไหนจอดได้ หรือไม่ได้นั่นเอง ดังนั้นเพื่อไม่ให้คุณพลาดท่าจอดในที่ห้ามจอด MrKumka จึงจะพาคุณไปทำความรู้จักสีขอบฟุตบาทสีต่าง ๆ ว่ามีกี่สี และหมายถึงอะไร ถ้าพร้อมแล้วไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันเลย
จอดรถบนถนนสาธารณะ ให้ไม่เสียค่าปรับ ?
แน่นอนว่าการทำสีที่ขอบฟุตบาท ไม่ใช่การแต่งแต้มให้ฟุตบาทมีความสวยงามแต่อย่างใด เพราะสีขอบฟุตบาท (Curb Markings) ถือเป็นเครื่องหมายจราจรบนเส้นขอบทาง ที่ถ้าหากทุกคนปฏิบัติตามความหมายของสีขอบฟุตบาท จะช่วยสร้างความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ
สีขอบฟุตบาท ขาว-แดง
“เครื่องหมายห้ามหยุดรถ” มีลักษณะเป็นแถบสีขาวสลับกับสีแดง มีความหมายที่เข้าใจได้ง่ายว่า “ห้ามหยุดรถหรือจอดรถทุกชนิด” นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการโบกรถต่าง ๆ เช่น รถแท็กซี่ รถประจำทาง หรือมอเตอร์ไซต์รับจ้างด้วย โดยส่วนใหญ่จะพบเจอได้ตามหัวโค้งถนน หรือหัวมุมถนน เนื่องจากเป็นมุมที่รถเข้า-ออกตลอด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
สีขอบฟุตบาท ขาว-เหลือง
“เครื่องหมายห้ามจอดรถ” มีลักษณะเป็นแถบสีขาวสลับกับสีเหลือง มีความหมายที่เข้าใจได้ง่ายว่า “ห้ามหยุดระหว่างแนวเขตที่กำหนด” ยกเว้นการรับ-ส่งคน หรือสิ่งของเพียงชั่วขณะ ห้ามจอดทิ้งไว้หรือจอดข้ามคืนเด็ดขาด โดยส่วนใหญ่จะพบเจอได้ตามป้ายรถเมล์ เพื่อป้องกันการจราจรติดขัด หรืออุบัติเหตุต่าง ๆ
สีขอบฟุตบาท ขาว-ดำ
“เครื่องหมายขาวดำ” มีลักษณะเป็นแถบสีขาวสลับกับสีดำ มีความหมายที่เข้าใจได้ง่ายว่า “ให้ลดความเร็ว หรือระวังอุบัติเหตุ” โดยส่วนใหญ่จะพบเจอตามช่วงขึ้นสะพานหรือวงเวียนกลับรถ ซึ่งมีความหมายอีกว่า “ห้ามจอด” เนื่องจากจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่สำหรับบางที่ก็สามารถจอดได้ แต่จะต้องเป็นการจอดแบบชิดขอบทางเท่านั้น
แน่นอนว่าการสังเกตสีขอบฟุตบาทอยู่เสมอ จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและการจราจรติดขัดได้เป็นอย่างดี และถ้าหากคุณปฏิบัติตามสีขอบฟุตบาทที่กำหนด ยังช่วยให้คุณรอดพ้นจากค่าปรับ เนื่องจากการจอดใกล้กับขอบฟุตบาทที่มีสีห้ามจอดถือเป็นการทำผิดกฎจราจรอีกด้วย แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่องอุบัติเหตุดูจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก และสร้างความวุ่นวายบนท้องถนนอยู่ไม่น้อย หากคุณกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ดี ๆ ที่ MrKumka.com ช่วยคุณได้ !