หนึ่งในความฝันของใครหลาย ๆ คน คือการออกรถใหม่ป้ายแดง เพื่อเป็นของขวัญให้กับตัวเองหลังจากก่อร่างสร้างตัวมาสักพัก สำหรับคนที่เพิ่งเคยมีรถคันแรก ก่อนรับรถใหม่จำเป็นต้องรู้วิธีตรวจรับรถใหม่กันสักหน่อย เพราะไม่อย่างนั้นเรื่องราวดี ๆ อาจกลายเป็นฝันร้ายได้ รวมถึงข้อควรรู้อื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าพร้อมแล้ว ไปเตรียมของรับรถใหม่กันเลยดีกว่า
ค่าใช้จ่ายในการออกรถใหม่ มีอะไรบ้าง ?
การออกรถใหม่จะแค่มีเงินดาวน์หรือเงินก้อนเพื่อซื้อรถเงินสดอาจไม่เพียงพอ เพราะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เจ้าของรถจำเป็นต้องเตรียมให้พร้อม เพื่อให้การออกรถราบรื่น โดยค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติมมีดังนี้
1. เงินดาวน์ หรือเงินผ่อนชำระงวดแรก
จำเป็นต้องเตรียมเงินดาวน์ที่ตกลงกับเจ้าหน้าที่ขายไปชำระในวันรับรถใหม่ แนะนำให้สอบถามให้แน่ใจว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ จ่ายผ่านช่องทางไหนได้บ้าง ซึ่งในปัจจุบันศูนย์บริการมีทางเลือกหลากหลาย สามารถเลือกได้ตามสะดวก
2. ค่ามัดจำป้ายแดง
ให้เตรียมเงินจำนวน 2,000-3,000 บาท เพื่อชำระค่ามัดจำป้ายแดง โดยเงินส่วนนี้จะได้รับคืนเมื่อนำรถยนต์คันดังกล่าวไปเปลี่ยนเป็นป้ายทะเบียนสีขาว
3. ค่าจดทะเบียน
ปกติแล้วทางศูนย์บริการจะคิดค่าจดทะเบียนรถเพิ่มรวมไว้กับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการออกรถใหม่ ประมาณ 3,500-5,000 บาท ทั้งนี้คุณสามารถนำรถยนต์ไปจดทะเบียนเองได้ ซึ่งส่วนมากจะนิยมจ่ายกับศูนย์บริการ เพื่อความสะดวกสบาย
4. ค่าเบี้ยประกันรถยนต์
โดยทั่วไปรถใหม่จะมีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ติดมากับรถตั้งแต่แรก นอกจากคุณจะซื้อรถเป็นเงินสด และต้องการเลือกทำประกันกับบริษัทที่สนใจ แนะนำให้เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ก่อน เพื่อให้รู้ว่าจะต้องเตรียมเงินไปชำระเท่าไหร่
5. ค่าน้ำมันรถยนต์
วันรับรถใหม่ป้ายแดงทางศูนย์บริการจะเติมน้ำมันรถไว้ให้เล็กน้อย คุณจะต้องเตรียมเงินไว้สำหรับเติมน้ำมันไว้เดินทางด้วย
6. ค่าอุปกรณ์เสริม
กรณีที่ต้องการติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้กับรถยนต์คันใหม่ จะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ด้วย (ไม่รวมค่ารถที่ผ่อนชำระงวดแรก)
ก่อนรับรถใหม่ ต้องตรวจจุดไหนบ้าง ?
หากคุณกำลังมองหาวิธีเตรียมของรับรถใหม่ ว่าต้องเช็กอะไรบ้างก่อนนำรถใหม่ออกมาขับขี่บนท้องถนน มิสเตอร์ คุ้มค่า ลิสต์การตรวจรับรถใหม่ออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. ตรวจสอบภายนอกทุกส่วน
ก่อนรับรถใหม่เข้าบ้านควรตรวจสอบสภาพภายนอกหรือรอบรถให้เรียบร้อย โดยสามารถตรวจสอบจุดต่าง ๆ ได้ตามนี้
ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว
ทั้งโคมไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยว จะต้องไม่เหลืองหรือมีริ้วรอยใด ๆ และต้องสามารถใช้งานได้ดีตามปกติ
กระจก
ในส่วนของกระจกด้านข้าง ต้องสามารถพับเก็บและปรับระดับได้ตามปกติ ส่วนกระจกมองหลังต้องไม่มีรอบแตกร้าว และกระจกทั้งสองต้องมีขอบยางที่ติดแน่นไปกับกระจก และกระจกด้านที่นั่งทุกบาน จะต้องเปิดปิดขึ้นลงได้สุดโดยไม่สะดุด
ล้อรถ
ควรตรวจสอบให้ยางรถยนต์อยู่ในสภาพพร้อมใหม่ ไม่มีร่องรอยการแตก ชำรุด เสียหาย รวมถึงเช็กปีผลิตไม่ให้เก่าเกินไป ที่สำคัญควรตรวจสอบล้อแม็กว่าไม่มีรอยบิ่นใด ๆ เกิดขึ้นด้วย
ที่ปัดน้ำฝน
หนึ่งในชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่หลายคนมักมองข้ามในวันรับรถใหม่ จึงไม่ได้ตรวจเช็กส่วนนี้ให้ดี ซึ่งอาจนำพามาซึ่งความเสียหายอื่น ๆ ได้ ดีที่สุดคือยางปัดน้ำฝนต้องไม่แข็งเกินไป และสภาพพร้อมใช้งาน
2. ตรวจสอบระบบภายในอย่างละเอียด
สิ่งสำคัญในการตรวจรับรถใหม่ที่ละเลยไม่ได้เลย คือ ระบบภายใน โดยระบบทุกอย่างจะต้องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบสตาร์ท
ต้องทำงานได้อย่างลื่นไหล หลังสตาร์ทให้ลองเหยียบคันเร่งเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์เดินได้ ไม่สะดุด สามารถเข้าเกียร์ได้ครบและไม่มีเสียงดังตอนเปลี่ยนเข้าเกียร์
ระบบล็อกอัตโนมัติ
ลองล็อกและปลดล็อก เพื่อดูว่าประตูทุกบานสามารถล็อกและปลดล็อกได้ตามปกติหรือไม่
ระบบเครื่องเสียง
ทดลองเชื่อมต่อกับมือถือแล้วเปิดเพลง เพื่อเช็กว่าระบบเชื่อมต่อทำงานได้ดี และลำโพงดังครบทุกจุด รวมถึงต้องตรวจสอบปุ่มควบคุมเครื่องเสียงให้ครบถ้วนด้วย
พวงมาลัย
จะต้องไม่ฝืดเคือง และไม่มีเสียงดังเวลาหมุนเลี้ยว
ระบบปรับอากาศ
อีกหนึ่งระบบที่ต้องตรวจสอบ คือ ระบบปรับอากาศ เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ต้องเช็กให้แน่ใจว่าลมแอร์เย็นสบาย และไม่มีเสียงดังจากช่องแอร์
3. ตรวจสอบเอกสารรับรถให้ครบถ้วน
หนึ่งในสิ่งที่พลาดไม่ได้นอกเหนือจากการตรวจรับรถใหม่ คือ การตรวจสอบเอกสารออกรถป้ายแดง โดยการออกรถใหม่จำเป็นต้องมีเอกสารรับรถถูกต้องและสมบูรณ์ดังนี้
- เล่มสมุดทะเบียน โดยเลขของตัวถังจะต้องตรงกับเลขที่ระบุไว้ภายในเล่มทะเบียน
- เอกสารใบโอนรถ ในเอกสารจะต้องประกอบด้วยเอกสารการประกันภัย และ พ.ร.บ.รถยนต์อยู่ด้วย
- ใบเสร็จรับเงินค่าดาวน์รถ
- ใบเสร็จค่ามัดจำป้ายแดง
- ตรา ขส. (ขนส่ง) ของป้ายแดง เพื่อเช็กว่าป้ายที่ได้รับเป็นของจริงหรือไม่
- สมุดคู่มือรถ
- เอกสารรับประกันอุปกรณ์ภายในรถ และเอกสารการรับประกันการเช็กระยะฟรี
- เอกสารการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่ง (หากมีการแถมชุดแต่งรถ)
รถใหม่ป้ายแดง ทำไมถึงควรทำประกันชั้น 1 ?
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย รายงานสถิติขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2567 ยอดขายตลาดรวม 39,048 คัน ลดลง 37.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลอดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 15,668 คัน ลดลง 38.4% (ที่มา : https://www.autospinn.com/2024/10/toyota-car-sales-of-sep-2024-139603)
แม้ว่ายอดขายในเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านจะลดลง แต่ตัวเลือกที่ปรากฏทำให้เห็นว่าคนไทยยังออกรถใหม่อยู่เรื่อย ๆ และ เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า รถใหม่ป้ายแดงหรือมือใหม่หัดขับ ทำไมต้องทำประกันชั้น 1 เป็นตัวเลือกแรก เรารวมคำตอบมาให้แล้ว
ประกันชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมมากกว่า
ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขัด หรือรถใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งถอยมาสด ๆ ร้อน ๆ มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่า ดังนั้นการมีประกันรถดี ๆ คอยดูแล จะช่วยแบ่งเบาภาระด้านการเงินได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน รถหาย รถพัง ฯลฯ ต่อให้เกิดเหตุแบบไหน บริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าความเสียหายให้ตามจำนวนทุนประกันที่ซื้อไว้
และเหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกทำประกันชั้น 1 มากกว่า เป็นเพราะเป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองคุ้มค่า และครอบคลุมมากกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่น ๆ แถมยังครอบคลุมถึงอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีด้วย
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังจะออกรถใหม่ นอกจากจะให้ความสำคัญในเรื่องเอกสารออกรถป้ายแดง และเอกสารรับรถแล้ว “ประกันภัยรถยนต์” นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ในกรณีที่ซื้อสดและอยากเปรียบเทียบประกัน ทั้งแผนความคุ้มครองและค่าเบี้ย แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเปรียบเทียบกับที่ไหน มิสเตอร์ คุ้มค่า เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเราคือแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ในการเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ เข้ามาเช็กได้ก่อนใครตลอด 24 ชั่วโมง
ความคุ้มครองหลัก ๆ ของประกันชั้น 1 ที่คนออกรถใหม่ควรรู้
หนึ่งในประเด็นที่คนออกรถใหม่จำเป็นต้องรู้ก่อนรับรถใหม่ คือ ความคุ้มครองหลัก ๆ ของประกันชั้น 1 เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกซื้อดีหรือไม่ (กรณีซื้อสด) ถ้าอย่างนั้นตามไปดูความคุ้มครองพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
- คุ้มครองต่อความเสียหายของรถยนต์คันที่เอาประกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี ซึ่งประกันชั้น 1 สามารถเคลมประกันชั้น 1 ไม่มีคู่กรณีได้ด้วย
- คุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี เช่น ชนเสาไฟฟ้า, ขับรถชนกำแพง, กิ่งไม้หล่นใส่ เป็นต้น
- คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของผู้เอาประกัน คู่กรณี และบุคคลภายนอก
- คุ้มครองและชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลแก่ผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและคู่กรณี
- ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารและคู่กรณี
- ชดเชยความเสียหายกรณีรถยนต์สูญหาย โจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติต่าง ๆ
- เงินค่าประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
3 สิ่งที่ควรมีในวันออกรถใหม่ ฉบับสายมู มีอะไรบ้าง ?
หนึ่งในประเด็นที่คนไทยหลาย ๆ คนไม่เคยทิ้งเลยคือเรื่องของ “ฤกษ์” ในการออกรถ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสิ่งที่ต้องมี เพื่อช่วยเสริมมงคลในวันออกรถใหม่ให้ดียิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกัน
1. พวงมาลัย/ดอกไม้
ตามความเชื่อโบราณรถทุกคันมีแม่ย่านาง แนะนำให้ไหว้และอธิษฐาน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือดอกไม้ โดยชนิดดอกไม้ที่ใช้ในวันออกรถใหม่มีดังนี้
- ดาวเรือง : เสริมความรุ่งโรจน์ เจริญรุ่งเรือง
- มะลิ : เสริมความสุขสมหวัง สมบูรณ์
- กุหลาบ : เสริมเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น ดึงดูดผู้คนเข้าหา
- ดอกรัก : เสริมความรักใคร่ของคนในครอบครัว
- กล้วยไม้ : เสริมความสำเร็จทุกอย่าง ทำการใดมีแต่ราบรื่น ส่งผลให้ผ่านไปได้ด้วยดี
2. ผลส้ม 5 ลูก
ส้ม เป็นผลไม้มงคล สื่อความหมายว่าการได้รับความโชคดีมาแบบฟลุก ๆ จะช่วยส่งเสริมสิ่งดี ๆ ความโชคดีให้กับเจ้าของรถ ให้เตรียมส้ม 5 ลูก จัดวางเป็นพีระมิด หรือวางเรียงหน้ากระดานไว้บริเวณด้านหน้ารถ หลังจากไหว้แม่ย่านางเสร็จค่อยเก็บ
3. ซองแดง
นำซองแดงใส่ธนบัตร 20 บาท จำนวน 5 ซอง เก็บไว้ในช่องเก็บของหน้ารถ ในวันออกรถใหม่ จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล เชื่อว่าจะทำให้เงินทองเพิ่มพูนมั่งมี
ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการรับรถใหม่ ทั้งการตรวจรับรถใหม่ที่ถูกต้อง เอกสารครบถ้วน และทริครับรถใหม่เข้าบ้านตามแบบฉบับสายมู ที่คนมีรถจำเป็นต้องรู้หน่อย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง โดยเฉพาะประเด็นเอกสารออกรถป้ายแดง เอกสารรับรถ และการตรวจเช็กสภาพรถ
คำจำกัดความ
แป้ก | ตีบตัน, ไปต่อไม่ได้ |
ตรา ขส. | ย่อมาจากกรมการขนส่งทางบก เป็นตราเฉพาะจะถูกปั๊มนูนติดอยู่บนป้ายทะเบียน |
เพิ่มพูน | เติมให้มากขึ้น, เสริมให้มากขึ้น |