หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่แพลนไว้ว่าจะ “ขับรถเที่ยวต่างประเทศ” จำเป็นจะต้องทำ “ใบขับขี่สากล” ก่อน แล้ว ขอใบขับขี่สากล ใช้เอกสารอะไรบ้าง MrKumka ได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจมาให้หมดแล้ว บอกเลยว่า Road Trip ของคุณจะราบรื่น และไร้อุปสรรคอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันเลย
เจาะลึก ! ขอใบขับขี่สากล ใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
สำหรับ “เอกสาร” ที่ใช้สำหรับทำใบขับขี่สากล แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีคนไทย และกรณีชาวต่างชาติ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เอกสารทำใบขับขี่สากล “คนไทย”
คนไทยที่ประสงค์จะทำใบขับขี่สากล จำเป็นต้องเตรียมเอกสาร 6 อย่าง ดังนี้
- หนังสือเดินทางตัวจริง
- บัตรประจำตัวประชนฉบับจริง
- ใบขับขี่ทั้งแบบ 5 ปี หรือแบบตลอดชีพ (ใช้ได้ทั้งใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล รถมอเตอร์ไซค์ รถสาธารณะ)
- รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ไม่เคลือบมัน อายุไม่เกิน 6 เดือน ไม่สวมแว่นตาสีเข้มแหละหมวก
- สำเนาหลักฐานกรณีแก้ไขชื่อ-นามสกุล หรือทะเบียนสมรส/ใบหย่า (ถ้ามี)
- หนังสือมอบอำนาจกรณีไม่ได้ไปดำเนินการด้วยตัวเอง พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจด้วย
เอกสารทำใบขับขี่สากล “ชาวต่างชาติ”
“ชาวต่างชาติ” ที่ประสงค์จะทำใบขับขี่สากล จำเป็นต้องเตรียมเอกสาร 4 อย่าง ดังนี้
- ใบอนุญาตขับรถตัวจริง ห้ามเป็นแบบชั่วคราว
- หนังสือเดินทาง ห้ามประเภทท่องเที่ยว เล่นกีฬา หรือเดินทางผ่านเมือง
- ใบสำคัญถิ่นที่อยู่หรือใบอนุญาตทำงานหรือใบอนุญาตทำงานอิเล็กทรอนิกส์ ที่ทางสถานทูตหรือสำนักตรวจคนเข้าเมืองรับรอง
- รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป ที่มีอายุไม่เกิน 6 เดือน
ขั้นตอน ทำใบขับขี่สากล
หลังจากเตรียมเอกสารที่จำเป็นครบถ้วนแล้ว เรามาดู “ขั้นตอน” การขอใบขับขี่สากลกันต่อเลยดีกว่า บอกเลยว่า “ง่าย” และสะดวกสบายมาก ๆ โดยมีขั้นตอนการดำเนินการดังต่อไปนี้
- จองคิวผ่านแอปพลิเคชัน หรือทาง เว็บสมาร์ทคิว
- ยื่นคำขอ ตรวจสอบหลักฐาน ที่สำนักงานขนส่งที่คุณสะดวก (ที่เลือกไว้)
- หลังจากตรวจเอกสารหลักฐานผ่าน จะได้รับใบอนุญาตอายุ 3 ปี จากนั้นดำเนินการชำระ ‘ค่าธรรมเนียม’ จะเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนแล้ว
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำใบขับขี่สากล
การขอใบอนุญาตขับขี่สากล ใช่ว่าใครจะสามารถเดินเข้าไปทำได้เลย แนะนำให้ทำความเข้าใจ “สิ่งที่ต้องรู้” ก่อนจองคิวให้ดี เพื่อป้องกันการเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ โดยมี ‘สิ่ง’ ที่ต้องรู้ดังต่อไปนี้
คุณสมบัติของผู้ทำใบขับขี่สากล
คนที่สามารถทำใบขับขี่สากลได้ หรือ “คุณสมบัติที่เหมาะสม” จะต้องได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล หรือใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ส่วนบุคคลชั่วคราว “ไม่น้อยกว่า 1 ปี”
ใบขับขี่สากล ใช้ในประเทศไหนได้บ้าง ?
อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนให้ความสนใจ และ ‘จำเป็น’ ต้องรู้ คือ “ใบขับขี่สากลใช้ในประเทศไหนได้บ้าง” ซึ่งเราก็ได้รวบรวมรายละเอียดที่น่าสนใจมาให้แล้ว !
ใบขับขี่รถระหว่างประเทศจามอนุสัญญาเจนีวา 1949
อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ นครเจนีวา ค.ศ.1949 ประเทศไทยได้เข้าเป็น ‘ภาคี’ ของอนุสัญญาฉบับนี้มานานแล้ว ซึ่งสามารถใช้ได้ใน 102 ประเทศทั่วโลก เช่น อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ฯลฯ โดยใบขับขี่ของอนุสัญญาเจนีวา มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1 ปีเท่านั้น
ใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศ อนุสัญญาเวียนนา 1968
อนุสัญญาว่าด้วยการจราจรทางถนน ณ กรุงเวียนนา ค.ศ.1968 ต่างจากอนุสัญญาเจนีวา ตรงที่สามารถใช้ได้ใน 88 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น บางประเทศไม่ได้เป็นภาคีอนุสัญญาเจนีวา ทำให้ใบขับขี่สากลภายใต้อนุสัญญาเวียนนากลายเป็น “ทางเลือก” ให้กับคนที่กำลังจะเดินทางไปในประเทศที่อนุสัญญาฉบับแรกไม่ครอบคลุม โดยใบขับขี่ของอนุสัญญานี้ มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 3 ปี
การเพิ่มเข้ามาของ “อนุสัญญาเวียนนา” ช่วยทำให้คุณขับขี่รถเที่ยวต่างประเทศได้ ‘หลากหลาย’ มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีประเทศที่สามารถทำได้ทั้งแบบเจนีวาและเวียนนาด้วย ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย อังกฤษ อิตาลี ฯลฯ แถมทำใบขับขี่สากลแบบเวียนนาก็คุ้มมาก ๆ เพราะทำครั้งเดียว สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 3 ปี
ทำใบขับขี่สากลวอร์คอินไปได้ไหม ต้องอบรมหรือเปล่า ?
การทำใบขับขี่สากลสามารถวอร์คอินได้ โดยไม่ต้องจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน และไม่ต้องอบรมใบขับขี่ไม่ว่าจะที่สำนักงานหรืออบรมใบขับขี่ออนไลน์ก็ตาม
ใบขับขี่สากล ทําที่ไหนได้บ้าง ?
หลายคนคิดว่าการทำใบขับขี่สากล จำเป็นจะต้องเดินทางมาดำเนินการที่ “สำนักงานขนส่งกรุงเทพ” เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงนั้น “ไม่ใช่” สามารถเลือกทำที่ไหนก็ได้ตามที่คุณสะดวก ดังนี้
- สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-5
- สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งสำนักงานขนส่งทุกที่ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 15.30 น. วันจันทร์-วันศุกร์ สำหรับคนที่มีคำถามที่ต้องการสอบถามเพิ่มเติม สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่เบอร์ 1584
เป็นยังไงกันบ้าง ? สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ “ใบขับขี่สากล” ทั้งเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ ขั้นตอนการดำเนินการ และสิ่งที่ต้องรู้ ที่เรานำมาบอกต่อเมื่อข้างต้น ไม่มีส่วนไหนที่เข้าใจยาก หรือมีขั้นตอนซับซ้อนเลยใช่ไหมล่ะ ? แถมขั้นตอนการดำเนินการในปัจจุบันก็ง่ายแสนง่าย ใช้เวลาไม่นาน แถมยังสามารถเลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวกได้ตามต้องการ เพียงเท่านี้ก็สามารถขับรถในต่างประเทศได้แล้วล่ะ