ในยุคที่เศรษฐกิจซบเซา อะไรประหยัดได้ควรประหยัดเอาไว้ก่อน และการ “ล้างรถเอง” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพียงคุณมองหา วิธีล้างรถให้เงา สะอาดเหมือนออกจากคาร์แคร์ไปพร้อม ๆ กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ในบทความนี้ซึ่งจะช่วยให้คุณเซฟเงินได้เป็นกองเลยล่ะ ! แต่จะมีเทคนิคหรือวิธีการเป็นอย่างไร ? ไปติดตามพร้อม ๆ กับเราได้เลย!
วิธีล้างรถให้เงา ประหยัดง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน
หลายคนอาจจะคิดว่าการล้างรถเองเป็นอะไรที่สามารถทำได้ง่าย แต่ที่เลือกไม่ทำกันอาจเป็นเพราะกลัวจะ “เสียเวลา” ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว จะบอกว่าง่ายก็ไม่เชิง จะบอกว่ายากก็ไม่ใช่ เพียงแค่มีขั้นตอนที่ควร “พิถีพิถัน” สักนิด รถยนต์คู่ใจของคุณจะ “สะอาดเอี่ยม” โดยไม่ต้องง้อร้านแล้วล่ะ ! โดยวิธีล้างที่ว่า มีรายละเอียดดังนี้
1. ล้างรถด้วยน้ำเปล่า
ตามหลักความเป็นจริงนั้น การล้างรถด้วยน้ำเปล่า ตามด้วยน้ำยาสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ จะช่วยล้างคราบสกปรกต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ ! ช่วยถนอมสีให้คงทนมากกว่าเดิมได้อีกด้วย แนะนำให้ฉีดไล่ตั้งแต่ด้านบนลงมาด้านล่าง แต่ไม่ควรใช้ระดับน้ำที่แรงจนเกินไป เนื่องจากจะเป็นการทำลายพื้นผิวสีรถยนต์แบบไม่รู้ตัว
หากในบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด มีคราบสกปรกค่อนข้างฝังลึก ควรใช้ “ผ้าหรือฟองน้ำ” ช่วยจะดีที่สุด นอกจากนี้ยังควรแยกน้ำออกเป็น 2 ถัง คือ ถึงสำหรับผสมน้ำยาล้างรถ และถังสำหรับจุ่มล้างเมื่อนำผ้า หรือฟองน้ำขัดลงบนตัวรถแล้ว
*หมายเหตุ: ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ผ้าหรือฟองน้ำ แนะนำให้เน้นไปที่ “ความนุ่ม” เป็นอันดับแรก เพื่อป้องกันการเกิดรอยต่าง ๆ ขณะล้างรถ-
2. “หลีกเลี่ยง” สบู่หรือน้ำยาล้างจานใน การล้างรถ
คุณอาจคาดไม่ถึงว่าสบู่หรือน้ำยาล้างจานเป็น “ศัตรูตัวร้าย” ของสีรถยนต์ เมื่อคุณนำมาล้างรถบ่อย ๆ จะทำให้เกิดรอยด่าง หรือเกิดคราบสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย แถมยังทิ้งคราบต่าง ๆ หลงเหลือไว้บนตัวรถ ส่งผลให้สีหมองกว่าที่ควรจะเป็น ในส่วนของ “น้ำยาที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง” ควรจะหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะจะทำให้ผิวสีเหนอะหนะ และฝุ่นเกาะติดได้ง่ายกว่าเดิม เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน รถของคุณจะไม่เงางาม แถมยังมีแต่ความหมอง ไม่น่ามองอีกด้วย
3. ไม่ควรปล่อยให้รถแห้งเอง
การปล่อยให้รถแห้งเองหลังจากที่ทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะก่อให้เกิดคราบน้ำ และทำให้เกิดสนิมบนลูกรักของคุณได้ง่าย ๆ ดังนั้นควรใช้ผ้าชามัวร์หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดรถให้แห้ง โดยไล่จากบนหลังคาลงมาด้านล่าง จนมั่นใจว่ารถทั้งคันแห้งสนิทดีแล้ว ไม่ว่าคุณจะเร่งรีบแค่ไหน อย่าได้คิดปล่อยให้รถแห้งเอง หรือล้างรถท่ามกลางแดดร้อนจัดเด็ดขาด
*หมายเหตุ: แนะนำให้ใช้ผ้าตั้งแต่ 3 ผืนขึ้นไป เพื่อป้องกันการเกิดรอยขนแมว
หากคุณสามารถทำตามขั้นตอนทั้ง 3 ข้อ ที่เรานำมาบอกต่อเมื่อข้างต้นได้อย่างพิถีพิถัน เพียงเท่านี้รถยนต์ของคุณก็จะสะอาดเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินในส่วนนี้มากกว่าที่ควรจะเป็น และไม่ต้องฝ่าดงรถติดเพื่อเข้าคาร์แคร์อีกด้วย เรียกได้ว่าสบายทั้งใจ และสบายทั้งกระเป๋าสตางค์เลยใช่ไหมล่ะ !?
“เคลือบสีรถยนต์” ลดความหมอง เพิ่มความฉ่ำของสีรถ
นอกจากการล้างรถจะสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองแล้ว การเคลือบสีรถยนต์ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน แถมยังใช้อุปกรณ์เพียงน้อยนิด ในส่วนของราคา/ค่าใช้จ่ายกลับไม่แพงอย่างที่คิด ซึ่งในขั้นตอนนี้สามารถทำได้ทันทีหลังจากล้างรถเสร็จเรียบร้อย และแห้งสนิทดีทั้งคัน เพียงเท่านี้รถยนต์ของคุณก็พร้อมสำหรับ “เคลือบสี” แล้วล่ะ !
ขั้นตอน เคลือบสีรถ ทำได้ด้วยตัวคุณเอง
การเคลือบสีรถยนต์ มีทั้งหมด 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
- น้ำผ้าที่มีความนุ่มไปชุบน้ำแล้วบิดหมาด หลังจากนั้นทำการเท “น้ำยาเคลือบสีรถ” ลงบนผ้าผืนดังกล่าว (สามารถเลือกใช้ได้ทุกยี่ห้อที่เหมาะสมกับรถยนต์ และมีคุณภาพ)
- นำผ้าไปเช็ดรถยนต์ให้ทั่วทั้งคัน และปล่อยทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่บนสลากกำหนด ซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อ
- เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด ให้ใช้ “ผ้าไมโครไฟเบอร์” หรือผ้าที่มีความนุ่มเช็ดน้ำยาออกให้หมด เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เห็นแล้วใช่ไหมล่ะ ? ว่าการเคลือบสีรถยนต์ไม่ยากอย่างที่คิด แต่สิ่งที่คุณควรระวังคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบสีรถ ที่จะต้องเป็นยี่ห้อที่มาตรฐานและเหมาะสำหรับรถของคุณโดยเฉพาะ
ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดของการล้างและการเคลือบสีรถยนต์ ที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องง้อคาร์แคร์แม้แต่นิดเดียว แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากการให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดแล้ว อย่าลืมเพิ่ม “ความคุ้มครอง” ให้รถยนต์คู่ใจของคุณด้วย “ประกันรถยนต์” ด้วยล่ะ ! ซึ่งถ้าหากไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อกรมธรรม์เจ้าไหน หรือความคุ้มครองแบบใด ไว้ใจให้ มิสเตอร์ คุ้มค่า ช่วยดูแลคุณตลอดการเดินทาง !