หัวข้อที่น่าสนใจ
- ข้อควรรู้ก่อนขับรถช่วงฤดูหนาว ที่หมอกปกคลุมถนนทั้งเส้น ?
- ไม่อยากเป็นผู้ประสบภัย ขับรถลุยหมอกยังไงให้ไม่เสี่ยง ?
- 1. ทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้ามากกว่าปกติ
- 2. เปิดไฟหน้ารถ และไฟตัดหมอก
- 3. หลีกเลี่ยงการขับคร่อมช่องจราจร
- รู้ก่อนลุย หมอกลงหนาระดับไหนถึงห้ามแซง ?
- หมอกลงหนาจนกระจกเป็นฝ้า จัดการยังไงดี ?
- 1. ลดกระจกเพื่อให้อากาศด้านนอกเข้ามา
- 2. ปรับอุณหภูมิภายในรถให้เท่ากับด้านนอก
- 3. ปรับช่องลมแอร์ให้ห่างจากกระจก
- 4. ปรับช่องแอร์ให้เป็นโหมดอากาศเข้า
ใครจะไปคิดว่าหมอกฟุ้ง ๆ ชวนฝันในภาพยนตร์โรแมนติก บรรยากาศดีแต่แท้จริงแล้วในบริบทของการขับขี่กลับเป็น “ศัตรูตัวร้าย” ในการขับรถ ยิ่งถ้าหากขับรถไม่แข็งหรือขับรถครั้งแรก แล้วต้องมาเจอกับเหตุการณ์มองไม่เห็นทางเนื่องจากหมอกลง บอกได้คำเดียวว่า “งานเข้า” แน่นอน เนื่องจากทัศนวิสัยที่ย่ำแย่มักส่งผลต่อความปลอดภัย ถ้าอย่างนั้นขับรถมือใหม่จะต้องขับขี่ยังไงให้ห่างไกลจากความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ? ตาม มิสเตอร์ คุ้มค่า ไปดูกันเลยดีกว่า
ข้อควรรู้ก่อนขับรถช่วงฤดูหนาว ที่หมอกปกคลุมถนนทั้งเส้น ?
ไม่ว่าจะขับรถท่องเที่ยวหรือสัญจรในเส้นทางที่คุ้นเคย แต่ถ้าทัศนวิสัยย่ำแย่ ควรตั้งสติให้มั่น และขับขี่อยู่บนพื้นฐานของความไม่ประมาท นอกจากนี้ยังควรทำความเข้าใจ “ข้อควรรู้” ก่อนขับรถลุยหมอกให้ดี เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง และเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีข้อควรรู้ดังนี้
- หากมีเส้นทางอื่น ๆ ที่ปลอดภัยกว่า แนะนำให้ยึดเส้นที่ปลอดภัยเป็นหลัก อย่าเสี่ยงขับขี่รถยนต์ในเส้นทางที่เสี่ยงจะดีที่สุด นอกจากนี้ยังควรเช็กความพร้อมของรถยนต์ โดยเฉพาะในเรื่องของ “ระบบไฟ” ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย และไฟตัดหมอก
- กรณีที่ขับรถไปเรื่อย ๆ แล้วปรากฏว่าพบเจอกลุ่มหมอกหนาเตอะ แนะนำให้จอดพักในสถานที่ที่ปลอดภัย ห้ามจอดที่บริเวณไหล่ทางเด็ดขาด จากนั้นรอจนกว่าหมอกจะเบาบางลงค่อยเดินทางต่อ ในกรณีที่ยังพอมองเห็นไฟท้ายของรถคันด้านหน้าอยู่ สามารถขับต่อได้ ด้วยการขับขี่รถยนต์ตามไปอย่างช้า ๆ และทิ้งระยะห่างอย่างเหมาะสม เพื่อให้มีระยะเบรคที่ไม่เสี่ยงจนเกินไป
- ศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางเสมอ ไม่ว่าจะเป็นทางโค้ง ทางลาดชัน หรือแม้กระทั่ง “สภาพอากาศ” ในวันนั้น ๆ ก็ควรเช็กก่อน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของคุณ คนที่คุณรัก และเพื่อนร่วมถนน
ไม่อยากเป็นผู้ประสบภัย ขับรถลุยหมอกยังไงให้ไม่เสี่ยง ?
สำหรับคนขับรถมือใหม่ที่อยากลองขับรถลงเขา-ขึ้นเขาเพื่อท้าทายตัวเอง นอกจากจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องศึกษาเส้นทางและการเตรียมความพร้อมแล้ว ยังควรทำความเข้าใจวิธีขับรถ เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์หมอกลงวันนี้กะทันหันมองไม่เห็นทางให้ดีด้วย ซึ่งจะมีทริคในการขับยังไงบ้าง ไปดูกันเลย
1. ทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้ามากกว่าปกติ
ควรทิ้งระยะห่างจากรถคันด้านหน้าให้มากกว่าปกติ แต่ต้องเป็นระยะที่ยังสามารถมองเห็นรถได้ชัดเจน เพื่อสังเกตไฟท้ายของรถคันด้านหน้า จากนั้นขับตามอย่างระมัดระวังด้วยการยึดเส้นถนนเป็นหลัก กรณีที่ยึดทางซ้ายให้ระวังรถมอเตอร์ไซค์ด้วย
2. เปิดไฟหน้ารถ และไฟตัดหมอก
ในช่วงที่หมอกลงทำให้ทัศนวิสัยแย่จนมองไม่เห็นทาง สิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ควรทำคือ “เปิดไฟหน้าและเปิดไฟตัดหมอก” เพื่อเป็นการเพิ่มระยะการมองเห็นให้กับรถคันอื่นให้มากขึ้น ยิ่งถ้าใครขับ ขึ้นเขาเกียร์ออโต้ ต้องระวังให้ดี ให้รถที่ขับสวนเลยมาเห็นรถเราได้ชัดๆ และอย่าแซงทางโค้งหรือ เขตห้ามแซง เพราะหมอกลงเยอะจัด ๆ การมองเห็นรถคันอื่น หรือคันอื่นเห็นรถเรายิ่งยากขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียวแม้จะเปิดไฟแล้วก็ตาม
3. หลีกเลี่ยงการขับคร่อมช่องจราจร
รวมถึง “ไม่ควร” ขับชิดขอบถนนมากจนเกินไป แนะนำให้ยึดเส้นขอบถนนด้านซ้ายเป็นหลัก หรือจะดูแนวเส้นกึ่งกลางของถนน แต่เยื้องไปทางซ้ายแทนจะดีกว่า นอกจากนี้ยังควรศึกษาการขับรถขึ้นเขาเกียร์ออโต้และเกียร์ธรรมดาให้ดีด้วย เพราะจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ยังต้องระวังหลังเช่นกัน เนื่องจากกระจกมองข้างและกระจกมองหลัง จะทำให้มองเห็นรถที่ตามมาไม่ค่อยชัดเจน ดังนั้นไม่ว่าจะยึดเส้นถนนฝั่งไหน หรือทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้ามากเพียงใดก็ตาม การให้สัญญาณไฟและมองหลังเสมอถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ
นอกจากการเรียนรู้วิธีขับรถให้ปลอดภัยเมื่อต้องขับรถขณะที่หมอกลงแล้ว การเลือกซื้อ “ประกันรถยนต์” ที่ให้ความคุ้มครองตอบโจทย์ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ และช่วยคลายความกังวลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อซื้อกับ มิสเตอร์ คุ้มค่า ที่คุณสามารถปรับแผนความคุ้มครอง และเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ได้อย่างอิสระ ค่าเบี้ยสบายกระเป๋า แถมยังมีบริการหลังการขายที่จริงใจ เคลมง่าย ไม่ยุ่งยาก
นี่เรากำลังขับรถลุยหมอกหรือฝุ่นกันแน่ ?
หลายครั้งที่คนขับรถครั้งแรกแยกไม่ค่อยออก ว่าจริง ๆ แล้วสีขาว ๆ ฟุ้ง ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ แท้จริงแล้วเป็นหมอกหรือฝุ่นกันแน่ มีวิธีแยกทั้ง 2 อย่างนี้ยังไง ตามไปดูกัน!
- หมอก เกิดจากไอน้ำที่ควบแน่นเป็นละอองน้ำเล็ก ๆ เทียบให้เข้าใจง่ายก็คือ “เมฆที่เกิดขึ้นใกล้ผิวโลกมาก” ให้ความรู้สึกเย็น หากหมอกลงหนาจัด อาจทำให้เกิดหยดน้ำได้
- ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกเย็นเหมือนหมอก แต่กลับทำให้เกิดอาการคันคอ หายใจไม่สะดวก บางคนอาจเกิดอาการหิวน้ำเนื่องจากคอแห้ง
รู้ก่อนลุย หมอกลงหนาระดับไหนถึงห้ามแซง ?
หลาย ๆ คนคงพอจะทราบอยู่แล้วว่า การขับรถในเส้นทางจราจรที่สุ่มเสี่ยง ไม่ควรแซงหรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ และสำหรับการขับแซงในช่วงที่หมอกลง หรือขับผ่านม่านหมอก “ห้ามแซงเด็ดขาด” และยังต้องรักษาระดับความเร็วให้เหมาะสม ประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อป้องกันรถลื่นไถลไปกับถนน
นอกจากนี้ก็ยังมี “กฎห้ามแซง” อื่น ๆ ที่คนขับรถออกถนนใหญ่ครั้งแรกควรทำความเข้าใจเพิ่มเติม ว่าจุดไหนบ้างที่ห้ามแซง เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หลัก ๆ มีทั้งหมด 5 จุดดังนี้
- ห้ามแซงเมื่อฝนตกหนัก
- ห้ามแซงเมื่อขึ้นสะพาน
- ห้ามแซงเมื่อถึงทางแยก ทางข้าม หรือทางร่วม
- ห้ามแซงในช่องสำหรับรถประจำทาง
- ห้ามแซงเมื่อขับขี่รถยนต์บริเวณทางโค้ง หรือทางลาดชัน
แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องจำอะไรให้มากมายเลย เพราะส่วนใหญ่เส้นทางต่าง ๆ มักมีสัญลักษณ์จราจรแจ้งให้รู้ตลอดการเดินทาง เช่น เขตห้ามแซงก็จะมีสัญลักษณ์จราจรห้ามแซงปรากฏเอาไว้ เมื่อพบเจอก็ควรทำตามหลักการขับขี่ด้วยความปลอดภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
หมอกลงหนาจนกระจกเป็นฝ้า จัดการยังไงดี ?
แม้ว่าหลาย ๆ คนจะพยายามขับขี่รถยนต์ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเมื่อพบเห็นสัญลักษณ์ห้ามแซง หรือสัญลักษณ์อื่น ๆ บนท้องถนน แต่ในช่วงอากาศเย็นทั้งหน้าหนาวและหน้าฝน ไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้น “ฝ้า” ที่ขึ้นมาเกะกะสายตาบริเวณกระจกรถแน่นอน แล้วจะต้องจัดการกับมันยังไง ตามไปดูกันเลย
1. ลดกระจกเพื่อให้อากาศด้านนอกเข้ามา
ต้องบอกก่อนว่าวิธีนี้ไม่เหมาะกับหน้าฝน เพราะอาจทำให้ละอองฝนกระเด็นเข้ามาภายในห้องโดยสารได้ แต่ถ้าหากเป็นหน้าหนาวแนะนำให้ลดกระจกลงมาเล็กน้อย เพื่อไล่ฝ้าที่ติดอยู่บนกระจกให้หมดไป
2. ปรับอุณหภูมิภายในรถให้เท่ากับด้านนอก
โดยมีทริคดังนี้ กรณีที่ฝ้าขึ้นด้านนอกให้ลดแอร์ลง แต่ถ้าฝ้าขึ้นกระจกด้านในให้เร่งแอร์ หากสังเกตได้ว่าจริง ๆ แล้วฝ้าขึ้นที่ตรงไหนกันแน่ แล้วสามารถไล่ฝ้าได้อย่างถูกต้อง ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้มากเลยทีเดียว
3. ปรับช่องลมแอร์ให้ห่างจากกระจก
เมื่อต้องนั่งรถตากแอร์ในวันที่สภาพอากาศเย็นจัด หลายคนมักเลือกที่จะหันแอร์เข้าหากระจกรถ แต่การทำแบบนี้อาจไม่ใช่ทางออกที่ดีเสมอไป เพราะในบางครั้งอาจทำให้คลายความหนาวได้ หรือไล่ฝ้าได้เป็นอย่างดีก็จริง แต่บางกรณีก็อาจเป็นการทำให้ฝ้าขึ้นกระจกได้ง่ายกว่าเดิมได้ แนะนำให้สังเกตลักษณะการเกิดฝ้าให้ดีก่อน
4. ปรับช่องแอร์ให้เป็นโหมดอากาศเข้า
วิธีนี้ถือว่าไล่ฝ้าได้ดีที่สุด แต่ไม่ค่อยอยากแนะนำสักเท่าไหร่ เนื่องจากผลเสียที่เกิดขึ้นคือเศษขยะหรือฝุ่นจะปลิวมาติดห้องเครื่อง โดยเฉพาะ “แอร์รถยนต์” ทำให้รูแอร์เกิดการอุดตัน และได้รับความเสียหายได้ง่ายกว่าปกติ
จริง ๆ แล้วการขับรถบนท้องถนน ไม่ว่าคุณจะมีความชำนาญ หรือเป็นคนขับรถไม่แข็งเพิ่งหัดขับรถออกถนนใหญ่ครั้งแรก ก็ควรให้ความสำคัญในเรื่องของ “ความปลอดภัย” ให้มาก ๆ เนื่องจากอุบัติเหตุไม่เลือกเวลาเกิด แถมยังคาดคะเนความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ยาก ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนจึงดีกว่ามาคอยแก้เมื่อตอนที่สาย
คำจำกัดความ
หมอก | ละอองน้ำขนาดเล็กมากที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เกิดจากการกลั่นตัวของไอนํ้า ลอยอยู่ในอากาศ |
ช่องจราจร | เป็นส่วนหนึ่งของช่องเดินรถ หรือช่องถนนหนึ่งที่กำหนดให้ยานพาหนะวิ่งภายในเขต เพื่อที่จะควบคุมและเป็นแนวทางให้กับผู้ขับขี่ และลดความขัดแย้งในการจราจร |