น้ำมันหมดกลางทางใครช่วยได้บ้าง พร้อมวิธีรับมืออย่างถูกต้อง

แชร์ต่อ
น้ำมันหมดกลางทางใครช่วยได้บ้าง พร้อมวิธีรับมืออย่างถูกต้อง | มิสเตอร์ คุ้มค่า

เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคิดว่าจะเจอ แต่เผลออีกทีก็มาเห็นว่าน้ำมันใกล้หมดหาปั้มเลี้ยวเข้าไม่ทัน จน น้ำมันหมดกลางทาง นอกจากจะทำให้ เสียเวลา ถึงปลายทางช้ากว่าเดิมแล้ว ยิ่งมืดแปดด้านกว่าหากรถน้ำมันหมดกลางทางในเส้นทางที่ไม่คุ้นชิน ไม่รู้ว่าปั้มอยู่ไกลแค่ไหน ไม่รู้ว่าจะต้องโทรขอความช่วยเหลือจากใคร คนใช้รถต้องรู้หน่อยหากต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ รับมือยังไง ? มิสเตอร์ คุ้มมค่า จะเล่าให้ฟัง

จะรู้ได้ยังไงว่ารถน้ำมันใกล้หมด ?

แม้จะวางแผนการเดินทางมาเป็นอย่างดี แต่ก็มีโอกาสเกิดเหตุการณ์รถน้ำมันหมดกลางทางได้ เนื่องจากมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้แผนที่วางไว้พังไม่เป็นท่า ไม่ว่าจะเป็นสภาพการจราจรที่แออัด อุบัติเหตุ หรือสภาพอากาศ ที่ทำให้การเดินทางของคุณยาวนานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ มิหนำซ้ำยังทำให้ใช้ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าที่ควร

ซึ่งการเช็คว่าน้ำมันใกล้หมดแล้วหรือยัง สามารถเช็คได้จาก “สัญลักษณ์แจ้งเตือนบนแผงหน้าปัด” เป็นสัญลักษณ์รูปหัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง โดยสัญลักษณ์นี้จะเป็นเหมือนกันทุกรุ่น หากน้ำมันเหลือต่ำกว่า 10 ลิตร สัญลักษณ์จะทำการแจ้งเตือน เมื่อถึงตอนนั้นแนะนำให้เติมน้ำมันโดยด่วน เพื่อป้องกันน้ำมันหมดกลางทาง

น้ำมันเหลือ 0 ขับต่อได้ไหม ?

ปกติแล้ว “น้ำมัน 1 ขีด สามารถวิ่งได้ไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตร” (ขึ้นอยู่กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถแต่ละรุ่น) หากเป็นช่วงกลางวัน บวกกับยังไม่มีไฟหรือสัญลักษณ์แจ้งเตือนบนแผงหน้าปัด ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล

แต่ถ้าเป็นกรณีน้ำมันไม่เหลือเลยสักขีด ประกอบกับมีสัญลักษณ์แจ้งเตือน จะสามารถวิ่งต่อได้ประมาณ 40-50 กิโลเมตร ถึงอย่างนั้นก็ควรกังวล และรีบหาปั้มเติมน้ำมันให้เร็วที่สุด เนื่องจากรถยนต์แต่ละรุ่นมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่แตกต่างกัน

วิธีรับมือก่อนรถน้ำมันหมดกลางทาง มีอะไรบ้าง ?

6 วิธีรับมือก่อนรถน้ำมันหมดกลางทาง มีอะไรบ้าง ? | มิสเตอร์ คุ้มค่า

กรณีที่สัญญาณแจ้งเตือนบนแผงหน้าปัดเด้งขึ้นมา เพื่อบอกว่า “ถึงเวลาเติมน้ำมันเต็มทีแล้ว” เรามี 6 วิธีรับมือ ‘ก่อน’ น้ำมันหมดกลางทางมาบอกต่อ จะต้องทำยังไงบ้าง? ตามไปดูกัน

  • 1. เหยียบเบรกเท่าที่จำเป็น

    การเหยียบเบรครถยนต์บ่อย ๆ โดยไม่มีความจำเป็นใด ๆ นอกจากจะทำให้ความเร็วของรถยนต์ไม่คงที่แล้ว ยังเป็นการทำให้การสูบฉีดต้องใช้น้ำมันมากขึ้น เสี่ยงน้ำมันหมดกลางทางง่ายกว่าเดิม

  • 2. เลี้ยงความเร็วให้คงที่

    เมื่อเข้าใกล้สถานการณ์ฉุกเฉินมากเท่าไหร่ หลายคนก็อยากหลีกเลี่ยงมันให้เร็วเท่านั้น แต่การรีบเร่งขับรถไปปั้มน้ำมันในขณะที่น้ำมันใกล้หมดเต็มที อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสักเท่าไหร่ เนื่องจากการเร่งเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น หรือเร่งเครื่องยนต์ผิดวิธี จะทำให้น้ำมันหมดเร็วขึ้น

    หากไม่อยากติดแหง็กอยู่บนถนนเนื่องจากน้ำมันหมด แนะนำให้ควบคุมความเร็วให้คงที่ ประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แม้จะทำให้ถึงปั้มน้ำมันช้าหน่อย แต่ก็ดีกว่าน้ำมันหมดกลางทางเป็นไหน ๆ

  • 3. ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดในรถ

    ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ การชาร์จแบตโทรศัพท์ และเครื่องปรับอากาศ จะทำให้รถยนต์ของคุณใช้น้ำมันมากกว่าปกติ หากไม่อยากเจอเหตุการณ์รถหมดกลางทาง ควรปิดทุกอย่างไว้ก่อน เพราะการทำแบบนี้จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้มากถึง 10-20%

  • 4. ปิดหน้าต่างขณะขับ

    เมื่อน้ำมันรถใกล้หมดเต็มที การทนร้อน ทนอึดอัดจากการปิดหน้าต่างขณะขับรถ ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว เนื่องจากการเปิดกระจกขับรถจะทำให้เกิด “แรงต้าน” ส่งผลให้ต้องใช้แรงขับขี่มากกว่าเดิม หรือถ้าร้อนจนทนไม่ไหวจริง ๆ ควรเปิดกระจกเพียงเล็กน้อยพอให้มีลมเข้ามาเท่านั้น ไม่ควรเปิดจนสุด

  • 5. เข้าเกียร์ว่างขณะจอดรถติดไฟแดง

    หลายคนอาจไม่รู้ว่าการเข้าเกียร์ขณะจอดรถติดไฟแดง ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันได้ดีมาก ๆ โดยช่วยลดการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 30-40% กันเลยทีเดียว

  • 6. หาปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด

    ทางออกที่ดีที่สุด คือ การหาปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดเพื่อรีบเติมน้ำมันทันที เพราะถ้าหากฝืนขับต่อไปเรื่อย ๆ อาจทำให้รถน้ำมันหมดกลางทางได้ ยิ่งถ้าหากต้องจอดนิ่งอยู่กลางถนน บอกเลยว่าเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสุด ๆ

หลังจากรู้วิธีรับมือก่อนน้ำมันหมดกลางทางไปแล้ว แต่ถ้าหากมองว่ายังไม่เพียงพอ อยากได้วิธีรับมือที่อุ่นใจมากกว่า การเลือกซื้อประกันรถยนต์ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี แนะนำให้เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 กับ มิสเตอร์ คุ้มค่า เพราะเรายินดีมอบความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ ราคาสบายกระเป๋า พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ที่ช่วยให้คุณหมดกังวลตลอดการเดินทาง

น้ำมันหมดกลางทาง รับมือยังไงให้ปลอดภัย ?

หลังจากพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อพารถยนต์ไปยังปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือรถน้ำมันหมดกลางทาง ถ้าเจอแบบนี้อย่าเพิ่งตกใจ เพราะเรามีวิธีรับมือ ‘หลัง’ รถน้ำมันหมดกลางทางมาให้แล้ว ตามไปดูกันเลย

  • 1. ประคองรถเข้าข้างทาง

    เมื่อรถน้ำมันหมดกลางทางรถยนต์จะไม่หยุดนิ่งในทันที แต่จะค่อย ๆ ลดความเร็วลง เมื่อเป็นแบบนี้ควรประคองรถเข้าข้างทางโดยเร็วที่สุด อย่าจอดรถกีดขวางการจราจร รวมถึงเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้สัญญาณกับรถคันอื่น ๆ เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ในระดับหนึ่งแล้ว

  • 2. ขอความช่วยเหลือจากผู้คนบริเวณนั้น

    หลังจากประคองรถเข้าข้างทางเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้นก่อน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทาง วินมอเตอร์ไซค์ หรือใครก็ได้ให้ช่วยขับพาไปซื้อน้ำมันจากปั๊มที่ใกล้ที่สุดมาเติมชั่วคราว เพื่อให้รถสามารถขับต่อไปถึงปั้มน้ำมันได้อย่างปลอดภัย

  • 3. โทรขอความช่วยเหลือจากบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน

    กรณีที่รถน้ำมันหมดกลางทางในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เปลี่ยว แถมยังเป็นช่วงเวลากลางคืน ให้โทรขอความช่วยเหลือจาก “ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ” ต่าง ๆ แต่น้ำมันหมดกลางทาง โทรหาใครได้บ้าง ตามไปดูเบอร์ฉุกเฉินที่ควรเซฟเก็บไว้กันเลย

    • 1137: จส.100
    • 1677: ร่วมด้วยช่วยกัน
    • 1146: กรมทางหลวงชนบท
    • 1193: ตำรวจทางหลวง
    • 1197: สายด่วนจราจร
    • 1543: สายตรงทางด่วน
    • 1586: กรมทางหลวง
  • 4. โทรหาบริการรถลากฉุกเฉิน

    หากจุดที่รถน้ำมันหมดอยู่ห่างจากปั้มน้ำมันมาก ๆ ทางออกที่ดีที่สุดคือการโทรหาบริการรถลากฉุกเฉิน เพื่อลากจูงรถของคุณไปยังปั๊มน้ำมันให้เร็วขึ้น ซึ่งถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย รวดเร็ว แต่แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

รถน้ำมันหมดกลางทาง โทรเรียกประกันได้ไหม ?

เชื่อว่าหลายคนคงเกิดความสงสัยอยู่ลึก ๆ ว่าถ้าหากน้ำมันหมดกลางทาง นอกจากจะโทรขอความช่วยเหลือจากบริการรถลากฉุกเฉิน หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถโทรเรียกประกันได้ด้วยหรือไม่?

คำตอบคือ “โทรได้แน่นอน” แต่ประกันที่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นเติมน้ำมัน เปลี่ยนแบตเตอรี่ รถลากจูง หรืออื่น ๆ จะมีเฉพาะ “ประกันรถยนต์ชั้น 1” เท่านั้น แต่ก็ใช่ว่าประกันชั้นอื่น ๆ จะถูกลอยแพแต่อย่างใด เนื่องจากยังสามารถโทรปรึกษา เพื่อขอความช่วยเหลือได้ตามปกติ บริษัทฯ ช่วยประสานงานด้านอื่น ๆ ให้ได้

ทำไมไม่ควรปล่อยให้น้ำมันหมดเกลี้ยงถัง ?

สำหรับคนที่ชอบปล่อยให้น้ำมันเหลือน้อย จนเกิดเหตุการณ์น้ำมันหมดกลางทางบ่อย ๆ บอกเลยว่าคุณกำลังพารถยนต์ไปเสี่ยง เนื่องจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีปริมาณต่ำกว่าครึ่งถัง อาจทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ซึ่งกระทบต่อชิ้นส่วนระบบการทำงานของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะ “คราบตะกอนที่นอนก้นถัง” นอกจากนี้การปล่อยให้น้ำมันใกล้หมดบ่อย ๆ ยังทำให้ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือ ”ปั้มติ๊ก” พังไวก่อนเวลาอันควร จนทำให้รถสตาร์ทไม่ติด ไปจนถึงเกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน

และเพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา แนะนำให้เติมน้ำมันในถังเหลือ 1 ใน 3 เพราะโดยทั่วไปน้ำมันจะเคลื่อนตัวตามทิศทางการเคลื่อนที่ เวลาขับรถขึ้นเนินน้ำมันจะไหลไปยังจุดต่ำสุด ส่วนที่เหลือคืออากาศ ทำให้ “ปั๊มติ๊ก” ที่มีหน้าที่ดูดน้ำมันไม่สามารถดูดน้ำมันเข้าไปได้ เท่ากับว่ามันจะดูดอากาศเข้าไปแทน ผลที่ตามมาคือปั๊มติ๊กเสียหาย เสื่อมสภาพได้ง่ายนั่นเอง

การปล่อยให้น้ำมันหมดกลางทาง นอกจากจะทำให้ปวดหัวและเป็นกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ได้รับความเสียหายตามมา ดังนั้นนอกจากจะรู้วิธีรับมือทั้งก่อนและหลังรถน้ำมันหมดกลางทางแล้ว การเติมน้ำมันในปริมาณที่เหมาะสม ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ควรใส่ใจไม่แพ้กัน

คำจำกัดความ
​​มืดแปดด้าน ​หมดหนทาง, จนปัญญา, คิดหาทางออกไม่ได้, คิดไม่ออก
​ลอยแพ ​ทอดทิ้ง, ปล่อยให้ตกอยู่ในความลำบาก, ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม
​ปั๊มติ๊ก ​ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์เบนซิน​

เปรียบเทียบราคา หรือ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่เราพร้อมให้บริการ

บทความที่น่าสนใจ

เพราะเรารู้ว่าคุณรู้สึกสับสนและมึนหัวเพียงใด ในตอนที่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่