หัวข้อที่น่าสนใจ
- ภัยร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ในแสงแดด มีอะไรบ้าง ?
- 1. รังสียูวี เอ
- 2. รังสียูวี บี
- 3. รังสียูวี ซี
- แสงแดดอันตรายต่อรถของคุณมากแค่ไหน ?
- 1. จอดรถตากแดด สีซีด ไม่เงางามเหมือนเดิม
- 2. ยางรถยนต์เสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิม
- 3. ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ
- วิธีจอดรถตากแดด ช่วยลดความเสียหายต่อตัวรถต้องทำอย่างไร ?
- 1. ใช้ผ้าคลุมรถ
- 2. ใช้ม่านบังแดด
- 3. หาผ้ามาคลุมพวงมาลัย
- ระบายความร้อนในรถ ยังไงดี ?
- แง้มกระจกเอาไว้เล็กน้อย
- เปิดประตู-หน้าต่างเพื่อระบายอากาศ
- ค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิแอร์
ใช้รถในเมืองไทย เลี่ยงได้ยากเรื่องการจอดรถกลางแดด เชื่อว่าหลายคนคงจอดรถตากแดดบ่อย ๆ จนชิน บ้างก็เลือกเองด้วยความสมัครใจเพราะเรื่องความเร่งด่วน แต่รู้ไหมว่าการต้องจอดรถตากแดดทุกวันอาจสร้าง “ผลเสีย” ให้กับรถยนต์มากกว่าที่คิด ทั้งในเรื่องของระบายความร้อน สีรถยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
หากคุณอยากรู้ว่าการจอดรถตากแดด ส่งผลเสียแค่ไหนต่อตัวรถหรือต้องจอดรถกลางแดดยังไงให้รถเสียหายน้อยที่สุด มิสเตอร์ คุ้มค่า รวมมาให้ครบทุกประเด็นที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์สำหรับคุณ ตามไปดูกันเลย
ภัยร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ในแสงแดด มีอะไรบ้าง ?
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า “แสงแดด” เป็นภัยอันตรายต่อมนุษย์ เนื่องจากประกอบไปด้วยคลื่นความถี่ของรังสีที่แตกต่างกัน แถมมันยังทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายได้อีกด้วย เนื่องจาก “รังสีอัลตราไวโอเลต” มันมาพร้อมกับแสงแดด ไม่ว่าจะสาดมาโดนคนหรือสิ่งของก็มักสร้างผลเสียได้
โดยรังสีอัลตราไวโอเลตหรือที่เรียกกันจนคุ้นปากว่า “ยูวี (UV)” นั้น หลัก ๆ แล้วมีทั้งหมด 3 ชนิด ซึ่งส่งผลเสียต่อมนุษย์ดังนี้
1. รังสียูวี เอ
หากร่างกายของคนเราได้รับรังสีชนิดนี้บ่อย ๆ ในปริมาณมาก อาจทำให้เป็นต้อกระจก รวมถึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้เลย
2. รังสียูวี บี
ความอันตรายของรังสีชนิดนี้ คือ สามารถทำลาย DNA ของเซลล์ผิวหนังได้ กรณีที่รับได้รับปริมาณน้อยจะถือเป็นการกระตุ้นเม็ดสีเมลานิน ทำให้สีผิวคล้ำขึ้น หากได้รับในปริมาณมากจะทำให้ผิวไหม้ เหี่ยวย่น เกิดจุดด่างดำ มากไปกว่านั้นยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกหลายชนิด
3. รังสียูวี ซี
เป็นรังสีที่ถูกกรองโดยชั้นโอโซน แต่ด้วยความที่ชั้นดังกล่าวถูกทำลายลงไปมาก จึงมีโอกาสที่จะลงมาถึงพื้นผิวโลกได้ ซึ่งรังสีชนิดนี้มีพลังงานสูงที่สุด แน่นอนว่าเป็นอันตรายต่อผิวหนังและดวงตามากที่สุดเช่นเดียวกัน
นอกจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) แล้ว ยังมี “รังสีอินฟราเรด (รังสีความร้อน)” ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของความร้อนที่มากกว่าครึ่งของรังสีจากแสงอาทิตย์ ความอันตรายของมัน คือ สามารถทำลายชั้นผิวหนังได้ลึกถึงระดับเซลล์ ทำให้ผิวหนังหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยต่าง ๆ บนชั้นผิว และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
นอกจาก “แสงแดด” จะสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้แล้ว “อุบัติเหตุ” ก็ด้วยเช่นกัน หากอยากได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุม ซื้อประกันกับ มิสเตอร์ คุ้มค่า เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ แถมยังคุ้มครองกรณีถูกโจรกรรมจากการจอดรถตากแดด ลดกระจกได้อีกด้วย เช็คราคาประกันรถยนต์ก่อนใครได้แล้ววันนี้!
แสงแดดอันตรายต่อรถของคุณมากแค่ไหน ?
สำหรับคนที่จอดรถตากแดดด้วยความสมัครใจ เพื่อต้องการไล่มด ไล่แมลง รวมถึงไล่กลิ่นอับต่าง ๆ ภายในรถ บอกเลยว่าไม่เป็นผลดีในระยะยาวแน่นอน แถมยังส่งผลเสียต่อรถยนต์มากกว่าที่คิด ซึ่งการจอดรถตากแดด ผลเสียจะมีอะไรบ้างตามไปดูกันเลย
1. จอดรถตากแดด สีซีด ไม่เงางามเหมือนเดิม
หนึ่งในอันตรายของการจอดรถตากแดดบ่อย ๆ มักเป็นอันตรายต่อ “สารเคลือบและสีของรถยนต์” โดยจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้รถยนต์ไม่เงางามเหมือนเคย ยิ่งจอดรถตากแดดทุกวันสีรถยนต์ก็จะยิ่งจางเร็วขึ้น หากไม่รีบปรับเปลี่ยนหรือเลิกจอดรถตากแดดนาน ๆ แนะนำให้เตรียมเงินสำหรับทำสีรถใหม่ไว้ได้เลย
2. ยางรถยนต์เสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิม
แม้ว่าหลาย ๆ แบรนด์จะเคลมว่ายางรถยนต์มีความทนทานต่อแรงเสียดทาน และความร้อนสูงมาก แต่การที่คุณจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้ยางรถยนต์เสื่อมสภาพแล้ว ยังทำให้ผิวยางเปราะบางและเหนียวขึ้น ส่งผลให้ยางมีโอกาสชำรุดในระหว่างใช้งานสูงมาก นอกจากนี้ยังอาจทำให้ยางแตกหรือระเบิดและเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย
3. ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ
หลายคนเชื่อว่าการติดฟิล์มกรองแสงที่มีค่าความเข้มข้นสูง จะช่วยป้องกันอันตรายจากแสงแดดเมื่อจอดรถยนต์ตากแดด ทุกวันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการจอดรถตากแดด หรือการทำให้ฟิล์มสัมผัสกับรังสียูวีและรังสีความร้อนโดยตรง จะทำให้ฟิล์มมีอายุการใช้งานน้อยลง แถมยังเพิ่มโอกาสที่ฟิล์มจะเป็นฟองอากาศ และลอกออกเป็นขุยได้อีกด้วย
นอกจากอันตรายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์เมื่อข้างต้น ยังมีเป็นอันตรายอื่น ๆ ที่อาจสร้างปัญหาได้ในอนาคตด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นไฟรถยนต์หมอง/เสื่อมสภาพ, เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ หรือเป็นอันตรายจากสารระเหย และอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารได้รับความเสียหาย ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ตามไปบดูวิธีจอดรถตากแดดที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่งกันเลยดีกว่า
วิธีจอดรถตากแดด ช่วยลดความเสียหายต่อตัวรถต้องทำอย่างไร ?
กรณีที่คุณหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดไม่ได้จริง ๆ เราได้รวบรวมวิธีจอดรถตากแดดทั้งวันมาให้ปฏิบัติตามเรียบร้อยแล้ว ซึ่งวิธีดูแลรถจอดตากแดดที่เรารวบรวมมาให้ จะเป็นประโยชน์แค่ไหน ไปทำความเข้าใจกันเลยดีกว่า
1. ใช้ผ้าคลุมรถ
หนึ่งในวิธีป้องกัน จอดรถตากแดดเป็นเวลานาน ๆ วิธีแรก คือ การนำผ้ามาคลุมรถ เพราะจะช่วยให้รถยนต์คู่ใจของคุณไม่ร้อนจนเกินไป แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้สีรถซีดจางจากแดดได้อีกด้วย แนะนำให้หาผ้าคลุมที่มีคุณภาพ และมีขนาดที่พอดีกับตัวรถจะดีที่สุด
2. ใช้ม่านบังแดด
วิธีดูแลรถเมื่อต้องจอดรถตากแดดอย่างเลี่ยงไม่ได้อีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ คือ การหาม่านบังแดดมาใช้ แนะนำให้กางม่านบังแดดทั้งกระจกด้านหน้าและกระจกด้านหลัง เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดสาดส่องเข้ามาภายในห้องโดยสารโดยตรง นอกจากนี้ยังช่วยระบายความร้อน ไม่ทำให้อุณหภูมิภายในรถสูงเกินไปอีกด้วย
3. หาผ้ามาคลุมพวงมาลัย
เนื่องจาก “พวงมาลัยรถยนต์” ส่วนใหญ่ทำจากหนัง ซึ่งมีคุณสมบัติในการ “สะสมความร้อน” ได้ดีมาก ๆ ดังนั้นการหาผ้ามาคลุมเอาไว้ ถือเป็นวิธีระบายความร้อนที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว
เคลือบสีรถเป็นประจำ ช่วยลดความเสี่ยงเมื่อจอดรถตากแดดบ่อย ๆ ได้ไหม ?
ในกรณีที่จำเป็นต้องจอดรถตากแดดทุกวัน ไม่ว่าจะจอดที่ที่พักอาศัย ที่ทำงาน หรือใด ๆ ก็ตาม การเคลือบสีรถยนต์เป็นประจำ จะช่วยป้องกันความร้อนจากการจอดรถตากแดดได้ในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแสงแดด และสิ่งสกปรกได้ดีอีกด้วย ถือเป็นการถนอมสุขภาพสีรถที่น่าสนใจมาก ๆ แต่ก็อาจต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหน่อย
ระบายความร้อนในรถ ยังไงดี ?
แน่นอนว่าการจอดรถตากแดดทิ้งไว้ทั้งวัน นอกจากจะทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายไม่ว่าจะตัวสีหรือวัสดุภายในห้องโดยสารแล้ว ยังทำให้ผู้ขับขี่ได้รับ “ความร้อน” ที่ “ระอุสะสม” อยู่ภายในรถ จนหายใจไม่สะดวก อึดอัด จนอยากจะวิ่งลงอยากรถในทันที เราจึงรวบรวมวิธีระบายความร้อนในรถ มาให้ทำความเข้าใจคร่าว ๆ จะมีอะไรบ้าง ? ตามไปดูกัน
แง้มกระจกเอาไว้เล็กน้อย
หากต้องจอดรถตากแดด ลดกระจกลงมาสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน แนะนำให้แง้มประมาณ 1-2 เซนติเมตร เพื่อให้อุณหภูมิภายในและภายนอกรถเท่ากัน แต่ควรดูก่อนว่าสถานที่ที่จอดเปลี่ยวไหม ถ้าเปลี่ยวก็ไม่ควรทำเพราะอาจโดยมิจฉาชีพงัดกระจกลง
รวมถึงเปิดระบบพัดลมระบายความร้อน และช่องระบายความร้อนร่วมด้วย นอกจากนี้ยังแนะนำให้ยกก้านปัดน้ำฝนให้ห่างจากกระจกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้กรอบยางเกิดเสื่อมสภาพ หรือละลายติดกับกระจกนั่นเอง
เปิดประตู-หน้าต่างเพื่อระบายอากาศ
แนะนำว่าอย่าให้เปิดประตู-หน้าต่างเพื่อระบายอากาศก่อน ด้วยการเปิด-ปิดประตูรถประมาณ 5-6 ครั้ง เพื่อไล่ความร้อนออกจากห้องโดยสาร หากขึ้นไปนั่งในรถโดยทันทีทันใด อาจทำให้รู้สึกไม่ดี อึดอัดได้
ค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิแอร์
หลาย ๆ คนเมื่อเจอกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว เมื่อขึ้นรถร้อน ๆ ก็คงอยากจะเปิดแอร์แรง ๆ กันใช่ไหมล่ะ? แต่อย่าได้ทำแบบนั้นจริง ๆ เชียวล่ะ เพราะอากาศที่เย็นจัดถือเป็น “ศัตรูตัวร้าย” ของพลาสติกร้อน ๆ เลยล่ะ แนะนำให้ค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิแอร์จะดีกว่า หากไม่อยากให้ชิ้นส่วนในรถที่เป็นพลาสติกบิดเบี้ยว
เห็นแล้วใช่ไหม ว่าการจอดรถตากแดดสร้างผลเสียให้กับรถยนต์มากกว่าผลดี หากคุณจำเป็นต้องจอดรถตากแดดทุกวัน โดยเฉพาะลานจอดรถในที่ทำงานที่เป็นลานกว้าง แนะนำให้นำวิธีดูแลรถจอดตากแดดที่เรานำมาบอกต่อไปปรับใช้ เพียงเท่านี้ก็ช่วยถนอมรถยนต์ของคุณได้ในระดับหนึ่งแล้วล่ะ
คำจำกัดความ
ต้อกระจก | ภาวะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการขุ่นของ “เลนส์ตา” |
เม็ดสีเมลานิน | เม็ดสีที่สร้างจากเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่า เมลาโนไซต์ (melanocyte) เป็นสารสีที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง มีสีน้ำตาลแดงจนถึงสีดำ |
ชั้นโอโซน | เป็นส่วนหนึ่งของชั้นบรรยากาศโลกที่ดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลตจากดวงอาทิตย์มากที่สุด โดยประกอบด้วยโอโซน (O3) ในปริมาณมากกว่าชั้นบรรยากาศอื่น |
รังสีอินฟราเรด (รังสีความร้อน) | เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 0.76-1000 um ซึ่งอยู่ในช่วงของแสงที่สายตามองไม่เห็น แต่สามารถรับรู้ถึงความร้อนที่เกิดขึ้นได้ |