สำหรับ ยางรถยนต์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถยนต์วิ่งได้เต็มสมรรถนะ หรือเรียกได้ว่าเป็น “หัวใจสำคัญ” ของรถยนต์ทุกคันเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นก่อนใช้รถใช้ถนนจึงควรที่จะมีความรู้เบื้องต้นในส่วนนี้ด้วย เพราะถ้าหากเกิดปัญหาหรือจำเป็นต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ จะได้ไม่เกิดความสับสนจนเกินไป และคุณรู้ไหมว่า ? ยางรถแต่ละเส้นจะให้ความเร็ว และรองรับน้ำหนักแตกต่างกัน แล้วจะดูได้จากตรงไหนล่ะ ? MrKumka หาคำตอบมาให้คุณแล้ว !
ค่าดัชนีความเร็วของ ยางรถยนต์ ดูได้จากตรงไหน ?
ยางรถยนต์แต่ละเส้นจะถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่ต่างกันออกไป จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ “ราคา” แตกต่างตามไปด้วย ซึ่งการเปลี่ยนยางรถยนต์ สำหรับขาซิ่งในแต่ละครั้ง นอกจากจะต้องคำนึงถึง “ขนาด” ที่เหมาะสมกับล้อรถแล้ว ยังจะต้องคำนึงถึงค่าดัชนีความเร็ว และค่าดัชนีการรับน้ำหนักด้วย
ค่าดัชนีทั้ง 2 ประเภท มักจะถูกระบุอยู่บน “แก้มยาง” โดยส่วนใหญ่จะระบุที่หลังตัวเลขค่าของขนาดยาง ยกตัวอย่างเช่น 225/50 R17 98H จะมีความหมายแยกย่อยดังต่อไปนี้
- 225 : ความกว้างของยาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนน
- 50 : ความสูงของแก้มยาง มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ ยิ่งเปอร์เซ็นต์น้อยแก้มยางจะยิ่งเล็กบางลงไปอีก
- R : ย่อมาจากคำว่า Radial คุณสมบัติเบื้องต้นคือทนทานที่สุด แถมยังทำให้ตัวรถประหยัดน้ำมันได้ค่อนข้างมาก ซึ่งในปัจจุบันรถยนต์นั่งส่วนใหญ่จะ เปลี่ยนยางรถยนต์ มาใช้แบบ Radial แทบทั้งหมด
- 17 : ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว หรือที่หลายคนคุ้นเคยในคำว่า “ขอบล้อแม็กซ์” ยิ่งมีจำนวนมากเท่าไหร่ ล้อแม็กซ์จะใหญ่มากเท่านั้น
- 98 : ตัวเลขดัชนีในการรับน้ำหนักของยาง 1 เส้น ซึ่งตัวเลข 98 จะหมายความว่ายาง 1 เส้น สามารถรับน้ำหนักได้ 750 กิโลกรัม
- H : “รหัสความเร็วสูงสุด” ของยางรถยนต์เส้นนั้น ๆ ซึ่งตามตารางรหัสความเร็ว ระบุว่ายางเส้นนี้สามารถทำความเร็วได้ไม่เกิน 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ซึ่งต้องบอกแบบนี้ว่าค่าดัชนีความเร็วและค่าดัชนีการรับน้ำหนักของยางแต่ละเส้นนั้น จะมีตารางรหัสที่แตกต่างกันออกไป หากคุณต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์ ให้เหมาะสม จำเป็นจะต้องศึกษาในส่วนนี้เพิ่มเติมเพื่อให้ได้สเปคยางที่เหมาะกับการใช้งานรถของคุณมากที่สุดนั่นเอง (ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนยางที่สเปคยางต่างไปจากเดิมที่โรงงานให้มากับรถ)
แน่นอนว่าก่อนตัดสินใจเปลี่ยนยางให้กับรถยนต์คู่ใจแต่ละครั้ง จะต้องมีความระมัดระวังในการเลือกยางเป็นอย่างมาก และไม่ควรเลือกยางที่มีค่าดัชนีความเร็วที่ต่ำกว่าความเร็วสูงสุดที่รถยนต์ทำได้ ที่สำคัญ ! ควรใช้ยางที่มีตัวเลข “เท่ากัน” ทั้ง 4 เส้น หรือตามที่คู่มือกำหนดมาจากโรงงาน เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของคุณและเพื่อนร่วมทาง ที่สำคัญและรถทุกคันต้องมีนั่นคือ ประกันรถยนต์ ต้องมีติดไว้เสมอในตอนใช้รถบนถนน เพิ่มทุกความอุ่นใจในตอนที่อยู่หลังพวงมาลัย เลือกซื้อประกันคุ้มค่าที่สุดในเรื่องการคุ้มครองต้องที่ MrKumka.com คลิกเลย !!