หัวข้อที่น่าสนใจ
หากรถยนต์คู่ใจที่ใช้งานเป็นประจำทุกวัน เกิดอาการเครื่องยนต์เสียงดังผิดปกติ ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า เครื่องยนต์มีปัญหา ซึ่งในส่วนนี้สามารถแยกปัญหาที่เกิดขึ้น ได้จาก “เสียงความผิดปกติ” ที่ดังออกมา โดยจะมีอาการที่มากน้อยแตกต่างกันออกไป หากคุณกำลังหาข้อมูลในส่วนนี้ เพื่อเตรียมรับมือก่อนเกิดเหตุการณ์จริงอยู่ มิสเตอร์ คุ้มค่า ได้รวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ มาให้คุณเรียบร้อยแล้ว ไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย
เครื่องยนต์เสียงดังผิดปกติเกิดจากอะไร?
ขอย้ำอีกครั้งว่า การที่เครื่องยนต์กำลังส่งสัญญาณเตือนด้วย “เสียง” ให้คุณได้รับทราบถึงปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น มีมากมายหลากหลายเสียง แถมแต่ละเสียงก็ยังบ่งบอกปัญหาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเราจึงได้ลิสต์เสียงประเภทต่าง ๆ มาให้คุณได้ทำความเข้าใจเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้ว…
เสียงเหมือนโลหะกระทบกันแบบรัว ๆ
เสียงเครื่องยนต์ดัง แก๊กๆ เหมือนเสียงโลหะกระทบกันแบบรัว ๆ แม้จะไม่ใช่เสียงที่ดังมากมายขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถ “กวนใจ” คุณอยู่ไม่น้อย ซึ่งเสียงดังกล่าวเป็นการบ่งบอกถึงความผิดปกติของ “วาล์ว” หากเป็นรถเก่าจะหมายความว่าวาล์วสึกหรอตามการใช้งาน แต่ถ้าหากเป็นรถใหม่ ที่เพิ่งถอยออกมาไม่นาน หรือมีอายุการใช้งานไม่เท่าไหร่ ก็อาจจะเกิดจากว่าวาล์วมีระยะห่างที่คลาดเคลื่อน
เสียงเคาะหนัก ๆ
หากคุณได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังคล้ายเสียงเคาะแบบหนัก ๆ เป็นระยะ ๆ ให้ทำการ “แก้ไขทันที” เนื่องจากเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า “เครื่องยนต์บางอย่างสึกหรอ” ส่งผลให้รถเหวี่ยงไปมา จนทำให้เกิดเสียงดังดังกล่าวขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นอันตรายกับเครื่องยนต์อีกด้วย ในกรณีที่ไม่มีน้ำมันเครื่องหลงเหลืออยู่ เพื่อหล่อลื่นระบบต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์อีกแล้ว
เสียงดังเมื่อเลี้ยว
หากบริเวณล้อหน้า รวมถึงในตอนที่เลี้ยวรถ เกิดเสียงดังแกรก ๆ ขึ้นเมื่อใด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า “เพลาขับ” มีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น เช่น ยางหุ้มหัวเพลาฉีกขาด ตลับลูกปืนสึกหรอ/แตก รวมถึงลูกปืนไม่มีจาระบีหล่อลื่น ส่งผลให้เกิดการ “เสียดสี” จนเกิดเสียงดังกวนใจ แนะนำให้รีบแก้ไขโดยด่วน เพื่อป้องกันลูกปืนแตกจนเป็นปัญหาต่อการเลี้ยวรถ
เสียงแหลมๆ
ในกรณีที่เพิ่งสตาร์ทรถ แล้วเกิดเสียงดังแหลม ๆ ขึ้นมาล่ะก็ ชัดเลยว่า “สายพานเก่า หรือกระด้าง” ซึ่งในส่วนของสายพานรถยนต์ ก็มีหลายจุดที่จำเป็นจะต้องตรวจเช็ก ไม่ว่าจะเป็น สายพานแอร์ สายพานไดชาร์จ หรือสายพานพวงมาลัย หากตรวจเช็กแล้วพบว่า “เก่าหรือแข็งกระด้างเกินไป” ก็ควรจะต้องเปลี่ยนใหม่ทันที แถมเส้นที่เปลี่ยนก็จำเป็นจะต้องมีคุณภาพ เพียงพอที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาในอนาคต
เสียงดังเวลาเร่งเครื่อง
ในตอนที่คุณกำลังเร่งเครื่องเพื่อแซง หรือใช้งานปกติทั่วไปแล้วเกิดมีเสียงดัง “ปัง ๆ” เกิดขึ้น บอกตรงนี้เลยว่า “ จุดระเบิดเครื่องยนต์ ” มีปัญหาเข้าแล้วล่ะ ส่งผลให้การเผาไหม้ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น โดยอาการแบบนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ วาล์วจ่ายน้ำมัน หัวเทียน กรองอากาศ คอยล์จุดระเบิด และจานจ่าย เป็นต้น หากคุณไม่มั่นใจ แนะนำให้นำรถยนต์คู่ใจไปตรวจเช็กกับผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด
เสียงดังใต้ท้องรถ
ในขณะที่กำลังใช้รถใช้ถนน แล้วอยู่ ๆ ก็เกิดเสียงเอี๊ยด ๆ อ๊าด ๆ บริเวณใต้ท้องรถ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกว่ารถของคุณกำลังส่งสัญญาณเตือนเรื่องอะไร แนะนำให้จอดรถและส่งใต้ท้องรถให้ดีซะก่อน ว่ามีอะไรเกี่ยวใต้ท้องรถอยู่หรือไม่ หรือมีอะไหล่รถยนต์ส่วนไหนหลุดออกมาขูดกับพื้นถนนหรือเปล่า
หากตรวจเช็กหมดทุกอย่างแล้ว พบว่าไม่มีอะไรเกี่ยวหรือหลุดออกมา และเสียงดังกล่าวยังคงอยู่ ไม่หายไปไหน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเกิดจาก “การขยับของเพลากลาง หรือท่อไอเสีย” ที่อาจเกิดการฉีกขาด ชำรุด หรืออื่น ๆ จนส่งผลให้เกิดการกระทบกับตัวเครื่อง
เสียงดังขณะตกหลุมหรือใช้รถบนทางขรุขระ
หากในตอนที่คุณเดินทางบนเส้นทางที่ถนนไม่ได้เรียบมากมายนัก แล้วเกิดเสียงดังที่บริเวณล้อข้างใดข้างหนึ่ง อาจเกิดจาก “ลูกปืนล้อแตก” รวมถึงสาเหตุจาก “โช้คเสื่อมสภาพ” แนะนำให้เปลี่ยนทันที เพราะถ้าหากฝืนใช้รถต่ออาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ แถมการเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ในส่วนนี้ยังใช้เวลาไม่นานอีกด้วย
และทั้งหมดนี้คือ “เสียงสัญญาณเตือน” ที่คุณจะต้องหมั่นสังเกตเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว ยังมีเสียงดังรูปแบบอื่น ๆ อีกมากมาย ที่บ่งบอกถึงปัญหาอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น เสียงดังวืด ๆ ที่บอกถึงปัญหาของยางล้อรถ, เสียงผิดปกติเมื่อเหยียบเบรก ที่บอกถึงปัญหาของผ้าเบรก เป็นต้น แต่ไม่ว่ารถของคุณจะส่งเสียงเตือนในรูปแบบใด การนำรถไปตรวจเช็กโดยผู้เชี่ยวชาญ จะดูเป็น “ทางเลือก” ที่ดีที่สุดแล้ว อย่าได้คิดปล่อยปละละเลยเด็ดขาด !
ต้องขอย้ำอีกครั้งว่า เสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากรถยนต์คู่ใจของคุณนั้น ล้วนเป็น “สัญญาณเตือน” ที่คุณไม่ควรมองข้าม หรือผลักปัญหาต่าง ๆ ไว้ภายหลังเด็ดขาด เนื่องจากเสียงต่าง ๆ นั้นล้วนเป็น “สาเหตุ” ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของอะไหล่รถยนต์ ไม่ว่าจะส่วนใดส่วนหนึ่งก็ตาม แม้ว่าบางเสียงอาจจะดูเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่การปล่อยไว้นาน ๆ โดยไม่ตรวจเช็กหรือแก้ไขในทันที อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงจนถึงขั้นแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไม่ไหวกันเลยทีเดียว นอกจากบทความรู้ดี ๆ และข่าวสารด้านยานยนต์ต่าง ๆ แล้ว มิสเตอร์ คุ้มค่า ยังพร้อมดูแลคุณ ด้วยบริการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินออนไลน์ ให้ทุกคนเข้าถึงง่าย สะดวก และโปร่งใส เพื่อให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดีและคุ้มค่าที่สุด