สำหรับใครที่กำลังสนใจและชื่นชอบรถ EV หรือมากกว่านั้น.. คือมีแผนจะ ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า อาจสงสัยในเรื่องการล้างรถยนต์ไฟฟ้า ว่าสามารถทำได้หรือไม่ อยู่ใช่ไหมล่ะ ? เพราะรถ EV อย่างที่ทราบกันดีว่าเป็นการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า 100% จึงทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าจริง ๆ แล้วโดนน้ำได้หรือไม่ ? MrKumka จึงได้รวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ มาให้คุณได้ทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ไปติดตามกันเลย
ทำความรู้จักรถยนต์ไฟฟ้ากันก่อนจะเริ่มล้างรถยนต์ไฟฟ้า
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” คืออีกหนึ่งทางเลือก ที่เข้ามาในช่วง “น้ำมันแพง” ซึ่งหลายคนยกให้เป็น “รถยนต์พลังงานทางเลือก” ที่ตอบสนองความต้องการ และช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันก็มีหลากหลายปัจจัยให้เลือกสรร เช่น ราคา รูปลักษณ์ และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ซึ่งในส่วนของราคาก็เริ่มตั้งหลักแสนกลาง ๆ ไปจนถึงหลักล้าน แต่ใด ๆ ก็ตาม คำถามที่หลายคนสงสัยเป็นอันดับต้น ๆ คือ “ล้างรถ EV ได้หรือไม่” ไปดูคำตอบกันเลย !
ล้างรถ EV ได้หรือไม่ คำตอบอยู่ที่นี่ !
ในความเป็นจริงแล้วรถ EV สามารถทำความสะอาดได้เช่นเดียวกับรถยนต์ทั่ว ๆ ไป เพียงแต่จะมีวิธีการล้างที่แตกต่างกัน คือ ไม่ควรอัดฉีดน้ำที่รุนแรงมากจนเกินไป โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับ “แบตเตอรี่รถยนต์” และเมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะรีบเช็ดทำความสะอาดให้เร็วที่สุด อย่าได้คิดปล่อยให้รถแห้งเอง หรือเปียกน้ำเป็นเวลานาน ๆ เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอาจจะมีปัญหาต่าง ๆ ตามมาได้นั่นเอง
“สิ่งที่ควรรู้” ก่อนล้างรถยนต์ไฟฟ้า
หลังจากที่ทำความเข้าใจไปแล้วว่า รถ EV สามารถล้างทำความสะอาดได้เหมือนกับรถยนต์ทั่ว ๆ ไป ต่อไปก็ต้องทำความเข้าใจ “ข้อควรรู้” ก่อนตัดสินใจล้างรถ เพื่อให้เพื่อนคู่ใจของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นกันเถอะ !
1. กรณีล้างรถยนต์ด้วยบริการร้านล้างรถ หรือคาร์แคร์
รถ EV ของคุณสามารถนำไปใช้บริการร้านล้างรถ ล้าง อัด ฉีด หรือบริการล้างแบบ Drive thru ได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลใด ๆ เนื่องจากมอเตอร์หรือระบบไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น จะถูกจัดวางในตำแหน่งที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะละอองน้ำ น้ำยาเคมี หรืออื่น ๆ ไม่สามารถเข้าไปทำลายระบบให้เกิดความเสียหายได้อย่างแน่นอน แต่ก็จะมี “ข้อควรระวัง” ที่ควรให้ความสำคัญ ดังนี้
- จอดรถในพื้นที่ที่เหมาะสม และเปลี่ยนไปใช้งานเกียร์ P เพื่อเป็นการ “ล็อกล้อ”
- ก่อนดับเครื่องยนต์ ให้ทำการตรวจสอบว่าประตู หน้าต่างและช่องเสียบชาร์จไฟต่าง ๆ ปิดสนิทดีแล้วหรือยัง
- ห้ามล้างรถในขณะที่ชาร์จเด็ดขาด ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ก็ตาม
2. กรณีล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบ Drive thru
ในส่วนของการล้างรถด้วยระบบ Drive thru ก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่แตกต่างจากการใช้บริการล้าง อัด ฉีด แต่อย่างใด เพียงแต่การล้างด้วยระบบนี้ คุณจะต้องเช็กให้แน่ใจก่อนว่ารถ EV ของคุณ มีแบตเตอรี่รถยนต์พียงพอหรือไม่ รวมถึง “ปิดฟังก์ชันอัตโนมัติ” ต่าง ๆ ให้หมด เช่น ที่ปัดน้ำฝน และอุปกรณ์ตกแต่งต่าง ๆ หากตรวจเช็กดีแล้วก็สามารถนำรถเข้าสู่กระบวนการล้างได้ตามปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที เท่านั้น
3. กรณีล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเอง
สำหรับคนที่ต้องการล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเอง ก็สามารถทำได้ตามความสะดวก โดยให้ทำตามรูปแบบการล้าง อัด ฉีดได้ ด้วยการเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม เช่น น้ำยาล้างรถ น้ำยาเช็ดกระจก ฟองน้ำล้างรถ ผ้าขนหนูไมโคร หรืออื่น ๆ ที่จำเป็น
ซึ่งถ้าหากเจาะลึกในส่วนของ “ขั้นตอนการล้าง” ก็ไม่ได้แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปแต่อย่างใด เพียงแต่จะต้องมีความรอบคอบในเรื่องของการตรวจเช็กช่องชาร์จต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันน้ำเข้า ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายตามมาในอนาคต หากเช็กจนแน่ใจแล้วก็ไม่ต้องกังวลใด ๆ มากจนเกินไปนัก
*หมายเหตุ: ควรล้างไล่ไปทีละจุด และเช็ดให้แห้งก่อนที่ล้างจุดถัดไป พร้อมกับล้างฟองน้ำในน้ำสะอาดบ่อย ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นเทคนิคที่สำคัญมาก อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด
ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าการทำความสะอาดรถยนต์ไฟฟ้า ไม่มีส่วนไหนที่คุณจะต้องกังวลใจเลย เพราะรถยนต์ประเภทนี้ผ่านการทดสอบมาอย่างเข้มงวดก่อนออกสู่ตลาด ข้อบกพร่องหรือปัญหาต่าง ๆ จากการใช้งาน หรือใด ๆ ก็ตาม ไม่ทำให้คุณต้องเผชิญหน้ากับปัญหาน่าปวดหัวอย่างแน่นอน
ข้อดีของการใช้งานรถ EV
หากคุณยังมองภาพไม่ออกว่าทำไมรถยนต์ไฟฟ้า EV ถึงเข้ามามีบทบาทสำคัญมาก ๆ ในปัจจุบัน ความนิยมเริ่มขึ้นจากอะไรและทำไมเขาว่ากันว่าอนาคตจะมีแต่รถไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปมาแทนที่รถน้ำมัน แน่นอนว่าข้อดีที่เหนือกว่ารถน้ำมันนั้นเยอะมาก เราได้รวบรวม “ข้อดี” มาให้คุณได้ทำความเข้าใจเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
-
1.ให้อัตราเร่งที่ถูกใจ
รถยนต์ไฟฟ้าเป็นการใช้พลังงานจาก “แบตเตอรี่รถยนต์” สู่มอเตอร์ในการขับเคลื่อน ไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ แถมยังช่วยให้มีอัตราเร่งที่ถูกใจ ไม่ต้องทดเกียร์ให้เสียเวลา จึงนับเป็นอีกหนึ่งพาหนะคู่ใจ ที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีสุด ๆ
-
2.ประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง หรือค่าซ่อมบำรุง ก็มีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาปอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือไม่ต้องนำรถเข้าไปเข้ารับการบำรุงรักษาบ่อย ๆ
-
3. ช่วยลดมลภาวะ
ข้อดีที่น่าสนใจที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ “ช่วยลดมลภาวะทางอากาศ” ได้เป็นอย่างดี ไม่มีการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดไอเสีย และป้องกันการนำไปสู่ภาวะโลกร้อนได้ค่อนข้างมาก
เป็นอย่างไรกันบ้าง ? สำหรับข้อมูลที่เรานำมาบอกต่อคุณเมื่อข้างต้น ช่วยให้สาวกรถยนต์ไฟฟ้าใจชื้นขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ ? แต่ถ้าหากคุณต้องการได้รับความสบายใจที่มากขึ้น อยู่กับคุณไปตลอดการเดินทาง อย่าลืมเลือกซื้อ “ประกันรถยนต์” ที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมด้วย เพียงเท่านี้การเดินทางของคุณก็จะราบรื่น ไม่มีสะดุดแล้วล่ะ! คลิกเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับรถคุณได้เลยที่นี่ MrKumka.com