รู้หรือไม่ว่ารถ EV กำลังจะเข้ามาแทนที่รถน้ำมันในอีกไม่ช้า เหตุผลหลักคือ “ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน” ได้ค่อนข้างมาก เนื่องจากใช้พลังงานจากการชาร์จแบตรถไฟฟ้าที่ค่าใช้จ่ายถูกกว่าเพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญและเข้าใจตามมาก็คือ ค่าชาร์จรถไฟฟ้า, ที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าใกล้ฉัน ซึ่งแต่ละแห่งมีอัตราค่าบริการเท่าไหร่บ้าง ? หรือติดตั้งเองจะประหยัดอัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้าได้มากกว่า MrKumka ลิสต์คำตอบมาให้แล้ว ไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันเลยในบทความนี้จากเรา
ติดตั้งที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าที่บ้านสะดวกกว่าไหม ต้องใช้งบเท่าไหร่ ?
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่อยากเสียเวลาค้นหาที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าใกล้ฉัน หรือไม่อยากเสียค่าชาร์จรถไฟฟ้าตามห้างบ่อย ๆ อยากติดตั้งสถานีชาร์จแบตรถไฟฟ้าเองที่บ้าน แบบนี้สะดวกสบายไหม? แล้วต้องใช้งบเท่าไหร่บ้าง ? หากถามในเรื่องของ “ความสะดวก” แน่นอนว่าต้องสะดวกกว่ามาก แม้จะชาร์จช้ากว่าแต่หมดปัญหาเรื่องการต่อคิวรอชาร์จไปได้เลย ส่วนในเรื่องบ “งบประมาณ” ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้
1. ค่าเครื่องชาร์จแบตรถไฟฟ้า (EV Charger)
สำหรับค่าเครื่องชาร์จแบตรถไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับ “ขนาดกำลังไฟ” ที่ต้องการ แนะนำให้ดูความสามารถในการรับไฟของ ON Board Charger ของรถยนต์แต่ละรุ่น ซึ่งโดยปกติทั่วไปจะมีขนาดตั้งแต่ 3.5 kW ถึง 22 kW ราคาของอุปกรณ์สำหรับรถไฟฟ้าชาร์จแบตจะอยู่ที่ 15,000 บาท ไปจนถึง 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ)
2. ค่าติดตั้งและค่าขอเปลี่ยนมิเตอร์
สำหรับการติดตั้งเครื่องชาร์จแบตรถไฟฟ้า ทั้งการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันดังนี้
- การไฟฟ้านครหลวง (MEA) มีค่าตรวจสอบและขอเพิ่มมิเตอร์ ราคา 700-2,500 บาท
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) มีค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบประมาณ 700-1,500 บาท
กรณีที่ไม่สามารถปรับปรุงระบบไฟฟ้าเพิ่มเติมได้ จะต้องขอเพิ่มมิเตอร์ลูกที่ 2 แทน หรือถ้าอยากได้ค่าไฟอัตรา TOU จำเป็นต้องจ่ายเพิ่ม ดังนี้
- การไฟฟ้านครหลวง (MEA) ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 6,640-7,350 บาท
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,740-5,340 บาท
แชร์ทริคใช้งานที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าในบ้านอย่างไรให้ปลอดภัย ?
สำหรับการติดตั้งที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าภายในบ้าน คุณจะต้องเข้าใจ “ระบบไฟฟ้า” ภายในบ้านให้ดีก่อน เพื่อความปลอดภัยและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นตามมา โดยมีรายละเอียดที่ควรทำความเข้าใจดังนี้
1. สายเมน และลูกเซอร์กิต (MCB)
สายเมนปกติทั่วไปจะใช้ขนาด 16 ตร.มม. แต่ถ้าหากต้องการติดตั้งที่ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าในบ้าน จะต้องปรับให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเป็น 25 ตร.มม. รวมถึงเปลี่ยน “ลูกเซอร์กิต (MCB)” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันร่วมกับตู้ MDB เดิมทีรองรับได้สูงสุด 45(A) ให้เปลี่ยนเป็น 100(A) แทน เพื่อให้ขนาดมิเตอร์ สายเมน และขนาดลูกเซอร์กิตสอดคล้องกัน
2. ขนาดมิเตอร์
ปกติแล้วที่พักอาศัยทั่วไปจะใช้มิเตอร์ 15(45) 1 เฟส(1P) ซึ่งหมายถึง “มิเตอร์ขนาด 15 แอมป์ และสามารถใช้ไฟได้มากถึง 45 แอมป์” แต่ถ้าหากต้องการชาร์จแบตรถไฟฟ้าในบ้าน จะต้องเปลี่ยนขนาดมิเตอร์เป็น 30(100) เพื่อป้องกันการใช้ไฟฟ้าที่มากเกินไป
3. ตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB)
แนะนำให้ตรวจสอบภายในตู้ MDB ว่ามีช่องว่างสำหรับติดตั้ง Circuit Breaker ‘อย่างน้อย’ 1 ช่องหรือไม่ เนื่องจากการชาร์จไฟของรถไฟฟ้าชาร์จแบตจะต้องมีส่วนตัว รวมถึงแยกใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ กรณีที่ตู้หลักไม่มีช่องว่างเหลือเลย แนะนำว่าต้องเพิ่มตู้ควบคุมย่อยอีก 1 จุด
4. เต้ารับ (EV Socket)
สำหรับการเสียบรถไฟฟ้าชาร์จแบตจะใช้เต้ารับชนิด 3 รู (มีสายต่อหลักดิน) และต้องทนกระแสไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง ไม่น้อยกว่า 16(A) ในส่วนของ “รูปทรง” อาจขึ้นอยู่กับรูปแบบปลั๊กของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น
5. เครื่องตัดไฟรั่ว (RCD)
เครื่องตัดไฟฟ้าอัตโนมัติที่จะตัดวงจรไฟฟ้าเมื่อกระแสไฟฟ้าไหลเข้าออกมีค่าไม่เท่ากัน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิด “ไฟฟ้าลัดวงจร” รวมถึงเกิดเพลิงไหม้ในอนาคตได้ ในกรณีที่สายชาร์จแบตรถไฟฟ้ามีระบบตัดไฟอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่ม
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กังวลใจในเรื่องการชาร์จแบตรถไฟฟ้า กลัวว่าจะมีปัญหาต่าง ๆ ตามมาในอนาคต รวมถึงกรณีขับรถอยู่ดี ๆ แล้วแบตหมด เคลื่อนรถไปยังที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้า ใกล้ฉันไม่ได้ การเลือกซื้อ “ประกันภัยรถไฟฟ้า” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อเลือกซื้อกับ MrKumka ที่ยินดีนำเสนอแผนประกันดีที่สุดให้คุณ ในราคาย่อมเยา สามารถเปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ก่อนใคร แถมยังมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย
ปัจจัยในการเลือกที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้ามีอะไรบ้าง ?
การเลือกซื้อที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าด้วยการเลือกจาก “ราคา” เพียงอย่างเดียว เช่น แพง = ดีที่สุด อาจไม่ใช่คำตอบที่ดีและตอบโจทย์เสมอไป แต่ควรเลือกจากปัจจัยหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
1. ความสวยงามและใช้งานง่าย
การใช้งานที่ชาร์จรถไฟฟ้าชาร์จแบตได้สะดวกประกอบร่วมกับความสวยงาม ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตประจำวันมาก ๆ เพราะอย่าลืมว่าใช้รถทุกวันก็ต้องชาร์จรถแทบจะทุกวัน แนะนำให้เรื่องที่ชาร์จที่มีอินเตอร์เฟซและฟังก์ชันใช้งานง่าย รวมถึงมีระบบสื่อสารที่ชัดเจน เพื่อให้คุณทราบสถานะการชาร์จ
2. ความปลอดภัย
หนึ่งในเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลย คือ “ความปลอดภัย” แนะนำให้ตรวจสอบที่ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าให้ดี ว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยรองรับหรือไม่ รวมถึงระบบการควบคุมความร้อน และระบบความปลอดภัยอื่น ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
3. การติดตั้ง
การติดตั้งที่ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติม แนะนำให้ที่ชาร์จที่เหมาะสม รวมถึงตรวจสอบให้ดีว่าระบบไฟฟ้าเพียงพอต่อการติดตั้งหรือไม่
4. ค่าใช้จ่าย
นอกจากค่าใช้จ่ายในเรื่องของมูลค่ารถยนต์ไฟฟ้า ค่าประกัน ค่าบำรุงรักษาแล้ว ค่าที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ควรคำนวณให้ถี่ถ้วน วางแผนการใช้จ่ายให้ดี ด้วยการกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมและเลือกที่ชาร์จที่ตรงตามงบที่ตั้งไว้ นอกจากนี้อย่าลืมคิดถึงค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง และราคาค่าไฟชาร์จรถไฟฟ้าสำหรับการใช้งานในระยะยาวด้วย
อัปเดตล่าสุด สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ค่าบริการเท่าไหร่กันบ้าง ?
สำหรับคนที่เดินทางไกล ออกต่างจังหวัดมากกว่าขับในเมืองหรือแถวบ้าน จำเป็นต้องใช้บริการสถานีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าอยู่บ่อย ๆ การหาข้อมูลในเรื่องอัตรา ค่าบริการชาร์จรถไฟฟ้าก่อนออกเดินทาง เพื่อวางแผนและคำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ก็ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าสนใจและควรให้ความสำคัญมาก ๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละแห่งจะมีค่าบริการชาร์จแบตรถไฟฟ้าเท่าไหร่บ้าง ไปดูกัน!
1. สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ปตท.
EV Station PluZ เครือข่าย PTT Station หนึ่งในผู้ให้บริการตู้ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่ปัจจุบันเปิดให้บริการมากกว่า 894 สถานีทั่วประเทศ ค่าชาร์จรถไฟฟ้า ปตท. สำหรับช่วง On Peak หรือเวลา 09.00 น. - 22.00 น. อยู่ที่ 7.7 บาท/หน่วย และสำหรับช่วง Off Peak หรือเวลา 22.00 น. - 09.00 น. อยู่ที่ 6.0 บาท/หน่วย
2. ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า Evolt
Evolt คือหนึ่งในที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้า ใกล้ฉัน ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีจุดชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 200 แห่งทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าใช้บริการ เพียงดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน Evolt สำหรับค้นหาสถานีชาร์จแบต รถไฟฟ้าได้อย่างง่ายดาย โดยมีราคา ค่าชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งช่วง On Peak และ Off Peak อยู่ที่ 8-10 บาท/หน่วย
3. สถานีชาร์จแบต รถไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง
หนึ่งในที่ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า ใกล้ฉันที่ได้รับการค้นหามากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเปิดให้บริการครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, สมุทรปราการ โดยมีให้เลือกใช้บริการรถไฟฟ้าชาร์จแบตทั้งแบบ AC และ DC มีค่าบริการชาร์จรถไฟฟ้า อยู่ที่ 7.5 บาท/หน่วย
4. สถานีรถไฟฟ้าชาร์จแบต EA Anywhere
EA Anywhere ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด และยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ จุดให้บริการที่ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า ใกล้ฉันส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หาอยากเข้าใช้บริการสามารถค้นหาจุดชาร์จแบตรถไฟฟ้าจากแอปพลิเคชันได้ทันที โดยมีการคิดค่าชาร์จรถไฟฟ้าตามห้างและทั่วไปดังนี้
- อัตราค่าบริการชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC เริ่มต้นที่ 6.76 บาท
- อัตราค่าบริการรถไฟฟ้าชาร์จแบตแบบ AC 1 ชั่วโมง ราคา ค่าชาร์จรถไฟฟ้าอยู่ที่ 80 บาท, 2 ชั่วโมงคิดค่าบริการชาร์จรถไฟฟ้าอยู่ที่ 150 บาท, 3 ชั่วโมงคิดค่าไฟชาร์จรถไฟฟ้าอยู่ที่ 220 บาท และ 4 ชั่วโมง ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า ราคา 320 บาท
5. สถานีชาร์จแบต รถไฟฟ้าสำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
สำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT เปิดให้บริการบริเวณสถานีบริการน้ำมัน PT และพื้นที่ของ กฝผ. โดยตู้ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งแบบ AC และ DC ในส่วนของอัตรา ค่าบริการชาร์จรถไฟฟ้ามีดังนี้
สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ค่าบริการในพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน PT
- ตู้ชาร์จ DC ขนาด 120kW คิดค่าชาร์จไฟรถไฟฟ้า 7.5 บาท/หน่วย
- ตู้ชาร์จ AC ขนาด 22 kW คิดค่าบริการชาร์จรถไฟฟ้า 7.5 บาท/หน่วย
ชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า ราคาภายในพื้นที่ กฟผ. ทุกสาขา
- สถานีชาร์จแบต รถไฟฟ้าแบบ DC อัตราค่าชาร์จรถไฟฟ้า 5.5 บาท/หน่วย
- สถานีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC ค่าไฟชาร์จรถไฟฟ้า 6.5 บาท/หน่วย
ชาร์จแบตรถไฟฟ้าแบบ AC กับ DC ต่างกันยังไง ?
การชาร์จแบตรถไฟฟ้าในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบธรรมดา (AC) และแบบชาร์จเร็ว (DC) ซึ่งทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนี้
- AC Charger เป็นวิธีการชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ ไม่มีขั้วบวกหรือลบ โดยระบบระับไฟฟ้าจากตัว Wallbox เข้าสู่ On Board Charger ในตัวรถ แล้วแปลงระบบไฟฟ้าเป็นกระแสตรงหรือ DC เข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์ ส่วนใหญ่จะใช้ประมาณ 4-16 ชั่วโมง
- DC Charger เป็นการชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยไฟฟ้ากระแสตรง ที่สามารถนำกระไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าน On Board Charger ซึ่งในปัจจุบันมีขนาดเครื่องชาร์จที่หลากหลาย เลือกใช้งานได้หลายรูปแบบ หากเป็นการชาร์จตามที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้า ใกล้ฉัน บอกไว้ก่อนเลยว่าราคาค่าชาร์จรถไฟฟ้าจะสูงกว่าการชาร์จแบบ AC
สิ่งใหม่บนถนนเมืองไทย และคนไทยหลังจากใช้รถน้ำมันมาอย่างยาวนาน “รถยนต์ไฟฟ้า” อาจยังไม่คุ้นชินสำหรับหลายคนที่ใช้รถในตอนนี้จนดูเหมือนเป็นปัญหา แต่ไม่นานหลายๆ บริบทของจะถูกแก้ไขตามเวลาประกอบกับความเข้าใจของผู้คนมากขึ้น เพราะรถ EV การดูแลเอาใส่ใจก็ไม่ต่างจากรถยนต์สันดาปทั่วไป โดยเฉพาะในเรื่องของการชาร์จแบตรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้า ใกล้ฉัน การคำนวณค่าชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าก่อนใช้บริการ เพื่อวางแผนการเงินในระยะยาว รวมถึงการติดตั้งที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้า ที่ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรัก
คำจำกัดความ
ค่าไฟอัตรา TOU | หรือ Time of Use Tariff คือ อัตราค่าไฟฟ้า ที่คิดตามช่วงเวลาการใช้งานของผู้ใช้ไฟฟ้า |
ลูกเซอร์กิต | เบรกเกอร์ขนาดเล็กที่นิยมติดตั้งเพื่อใช้งานในที่พักอาศัย และอาคารที่มีกระแสไฟฟ้าไม่เกิน 100 A มีขนาดตั้งแต่ 1, 2, 3 และ 4 Polr ใช้ได้กับระบบไฟฟ้า 1 และ 3 เฟส |